ประกันลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง ลดหย่อนได้แค่ไหน คุ้มรึเปล่า?

ประกันลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง ลดหย่อนได้แค่ไหน คุ้มรึเปล่า? | Tax Saving Series 2023 EP4

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • ประกันชีวิต คือสินทรัพย์ทางการเงินชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากกว่าแค่ความคุ้มครอง บริหารความเสี่ยง เพราะยังเป็นตัวช่วยลดหย่อนภาษี วางแผนมรดก วางแผนเกษียณได้อีกด้วย 
  • ประกันชีวิตมี 5 ประเภท ได้แก่ ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ประกันชีวิตแบบบำนาญ และประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked)
  • ประกันชีวิตที่ทำได้ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่ต้องคำนวณ IRR หรือ ผลตอบแทนที่แท้จริงให้เป็น

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

หลังจากเรารู้จักค่าลดหย่อนทั้งหมดที่สามารถนำมาหักลบเงินได้สุทธิ และทำให้เราเสียภาษีน้อยลงได้แล้ว วันนี้พี่ทุยจะพาทุกคนไปรู้จักกับอีกค่าลดหย่อนที่สำคัญ คือ ประกันลดหย่อนภาษี จะมีประกันตัวไหนลดหย่อนได้บ้าง เงื่อนไขเป็นยังไง วิธีการเลือกประกันให้เหมาะสมกับความต้องการ ไปฟังกัน

ประกันชีวิต คืออะไร 

ประกันชีวิต คือ สินทรัพย์ทางการเงินชนิดหนึ่ง เป็นการทำสัญญาระหว่าง ตัวเรา (ผู้สมัครประกันหรือผู้เอาประกัน) กับ บริษัทประกัน (ผู้รับประกัน) ว่า บริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินตามสัญญาที่ระบุไว้เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต หรือมีชีวิตอยู่จนครบสัญญา เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงภาระทางการเงินหากเราเป็นอะไรไป ไม่ให้คนที่ยังอยู่ลำบาก

ประโยชน์ของประกันชีวิต

ประกันชีวิต เป็นเครื่องมือวางแผนการเงินได้หลากหลาย ทั้งการบริหารความเสี่ยง วางแผนเก็บออม ตัวช่วยลดหย่อนภาษี และวางแผนมรดก

ประเภทของประกันชีวิต 

ก่อนตัดสินใจซื้อประกันชีวิต ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่า ประกันชีวิตมีรูปแบบไหนบ้าง และแบบไหนตอบโจทย์ที่เราต้องการมากที่สุด แบ่งเป็น 5 ประเภท 

1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา

เน้นความคุ้มครองชีวิตในระยะเวลาหนึ่ง หากเสียชีวิตภายในระยะสัญญา ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับทุนประกัน แต่ถ้าอยู่ครบสัญญาจะไม่มีเงินคืน เป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง

2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

เน้นคุ้มครองชีวิตระยะยางถึงอายุ 99 ปี หากเราเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับทุนประกันแทน

3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

เน้นการออมเงินเพื่อใช้ในอนาคต ได้เงินคืนเมื่อครบสัญญา แต่ถ้าเราเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับทุนประกันแทน

4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ

เน้นการออมเงินเพื่อเกษียณอายุ โดยจะจ่ายเบี้ยไปจนเกษียณ เช่น จ่ายเบี้ยถึง 55 หรือ 60 ปี แล้วหลังจากนั้นจะได้รับเป็นบำนาญไปเรื่อย ๆ จนครบสัญญา 

5. ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked & Universal Life)

ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน” จะมีความแตกต่างกับประกันชีวิตอื่น ๆ ในเรื่องการลงทุนที่จะผลตอบแทนจะมีการปรับขึ้นตามการลงทุนจริง ๆ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองชีวิตและได้รับผลตอบแทนคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นจากการลงทุน 

ประกันลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง ลดหย่อนได้แค่ไหน คุ้มรึเปล่า?

อ่านเพิ่ม

เงื่อนไข ประกันลดหย่อนภาษี

ต้องบอกก่อนเลยว่า “ไม่ใช่ประกันทุกประเภทจะสามารถลดหย่อนภาษีได้” แล้วประกันชีวิตประเภทไหนที่ลดหย่อนได้บ้าง  

  1. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพและประกันแบบสะสมทรัพย์ สามารถลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุด 100,000 บาท
  2. ประกันสุขภาพตัวเอง สามารถลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงสูงสุด 25,000 บาท และเมื่อรวมกับประกันชีวิตทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท 
  3. ประกันสุขภาพบิดามารดา สามารถลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุด 15,000 บาท 
  4. ประกันชีวิตชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนภาษีได้  15% ของรายได้ แต่สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อรวมลดหย่อนภาษีหมวดการเกษียณอายุทั้งหมด (กบข., กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชน / กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF / กองทุนการออมแห่งชาติ กอช. และกองทุนรวมเพื่อการออม SSF) ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

อ่านเพิ่ม

4 ขั้นตอนวางแผนทำ ประกันลดหย่อนภาษี แบบคุ้มค่า 

1. ตรวจสอบความสามารถในการชำระเบี้ยประกัน

พิจารณารายรับ รายจ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นทั้งปี เพราะการทำประกันจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นต่อเนื่องไปหลายปี (ตามสัญญาที่ระบุ) โดยเบี้ยประกันทั้งหมดไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ทั้งปี

2. กำหนดความคุ้มครองที่ต้องการ

ตรวจสอบตัวเองว่า เรามีความต้องการและความจำเป็นสำหรับทำประกันชีวิตมากน้อยแค่ไหน และประกันประเภทไหนเหมาะกับเราจริง ๆ 

สำหรับคนที่เน้นความคุ้มครองและป้องกันความเสี่ยงให้คนรุ่นหลัง อาจจะเน้นเรื่องความคุ้มครองมากกว่าสะสมทรัพย์ อย่างประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือบางคนมองว่าไม่ได้มีภาระอะไร ต้องการเก็บเงินใช้ยามเกษียณ ประกันชีวิตแบบบำนาญก็จะตรงโจทย์กว่า 

3. คำนวณผลตอบแทนที่แท้จริง 

สำหรับคนที่ทำประกันหวังผลตอบแทนจากการออมทรัพย์ ควรคำนวณผลตอบแทนที่แท้จริงด้วยวิธี Internal Rate of Return หรือ IRR เพื่อจะได้รู้ว่า ผลตอบแทนจากการทำประกันเท่าไหร่กันแน่ 

4. ตรวจสอบเงื่อนไขทางภาษี 

อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนต้นว่า ไม่ใช่ประกันทุกประเภทจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นหากทำประกันเพื่อหวังผลประโยชน์ทางภาษีก็ต้องดูว่าประกันที่ตอบโจทย์เรื่องทุนประกันและความคุ้มครองแล้ว ยังตอบโจทย์ผลประโยชน์ทางภาษีหรือไม่ 

ประกันชีวิตกับการคำนวณ IRR หาผลตอบแทนที่แท้จริง

IRR คืออะไร

IRR (Internal Rate of Return) คือ การคำนวณหาอัตราผลตอบแทนต่อปีจากการเก็บเงินหรือลงทุน โดยคำนวณจากกระแสเงินสดที่จ่ายออกไป เช่น ค่าเบี้ยประกัน ฯลฯ เงินสดช่วงนั้นจะติดลบ เทียบกับกระแสเงินสดที่ได้รับ เช่น เงินคืนระหว่างสัญญา และเงินครบสัญญา ฯลฯ กระแสเงินสดเราจะเป็นบวก 

วิธีคำนวณ IRR 

การคำนวณ IRR สามารถทำได้ด้วยตนเอง ในโปรแกรม Excel โดยใช้ข้อมูลของประกันชีวิตประเภทต่าง ๆ ที่เราสนใจ ได้แก่ อายุ จ่ายเบี้ยกี่ปี ค่าเบี้ยปีละเท่าไร มีเงินคืนในปีไหนบ้าง ปีละเท่าไร เป็นต้น 

  • ในส่วนของการจ่ายเบี้ยประกัน จะต้องใส่เครื่องหมายลบหน้ายอดที่เราจ่ายเบี้ย
  • ในช่องสุดท้ายของเงินสดสุทธิ เลือกเมนู Formulas (สูตร) และเมนูย่อย Financial (การเงิน) แล้วเลือกให้ระบบคำนวณ IRR โดยข้อมูลที่จะนำมาคิด คือ “ช่องเงินสดสุทธิทั้งหมด”

ตัวอย่าง ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จ่ายเบี้ย 15 ปี ปีละ 30,012 บาท คุ้มครอง 25 ปี ได้เงินคืนทุกปีที่ 3 6 9 12 15 18 21 และ 24 ปีละ 15,000 บาท

IRR (Internal Rate of Return)

ผลการคำนวณพบว่า ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จ่ายเบี้ย 15 ปี คุ้มครองชีวิต 25 ปี IRR ที่ 1.65%

ขอขอบคุณทาง Krungthai NEXT Invest ที่เข้ามาสนับสนุนการให้ความรู้ผ่าน “ซีรีส์ #สรุปภาษีปี 2566” ในครั้งนี้

และใหม่ล่าสุด! สำหรับกองทุนที่ใช้ลดหย่อนภาษีเพิ่มได้อีก 100,000 บาท ทำให้ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีรวมสูงสุดได้ถึง 600,000 บาท  นั่นก็คือ กองทุนThai ESG ที่ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทยที่เข้าเกณฑ์ ESG 

โดยทาง บลจ.กรุงไทย มีแนะนำ 3 กองทุน ด้วยกัน คือ 

  1. KTAG70/30-ThaiESG ไม่หวือหวา เน้นกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้เฉลี่ยไม่เกิน 30%
  2. KTESG50-ThaiESG จับเทรนด์หุ้นตัวท็อปกลุ่ม ESG 50 ตัว
  3. KTAG-ThaiESG เน้นลงทุนในหุ้นเกรด A บริหารแบบ Active ยืดหยุ่นปรับพอร์ตได้ทุกภาวะตลาด

ลงทุนง่าย ๆ ผ่าน NEXT Invest บนแอปฯ Krungthai NEXT หรือ ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา หากใครสนใจอยากศึกษาเพิ่มเติมและเปิดบัญชีลงทุน ที่นี่เลย  [https://info.krungthai.com/rgq8]

ตอนนี้มีโปรฯ เปิดบัญชีด้วยนะ รับฟรี! Starbucks e-Voucher 100 บาท* ตั้งแต่ 23 พ.ย. – 31 ธ.ค. 66

*จำกัด 20,000 สิทธิ์แรก เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile