และเดินทางมาถึง EP สุดท้ายของซีรีส์การเงิน Tax Saving Series 2023 ในตอนนี้พี่ทุยจะขอพูดถึงอีกหนึ่งเครื่องมือลดหย่อนภาษีนั่นก็คือ กองทุนเกษียณอายุ RMF เงื่อนไขการลดหย่อนภาษีจะมีอะไรบ้าง แล้วจะมีวิธีคัดเลือกกองทุน RMF ยังไง พี่ทุยสรุปให้แล้ว ไปดูกัน
RMF คืออะไร
กองทุน RMF หรือ Retirement Mutual Fund หรือก็คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนรวมประเภทที่ส่งเสริมให้เกิดการออมเงินในระยะยาวสำหรับใช้จ่ายยามเกษียณอายุ ที่สำคัญเงินที่ใช้ซื้อหน่วยกองทุน RMF สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วย
โดยกองทุน RMF มีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตั้งแต่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ความเสี่ยงปานกลาง เช่น หุ้นกู้ รวมไปถึง สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศ ทอง ใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นต้น
กองทุนเกษียณอายุ RMF เงื่อนไขลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง
การลดหย่อนภาษีนั่น เงินที่ซื้อ RMF ในแต่ละปี สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ และเมื่อนับรวมกับสิทธิลดหย่อนภาษีเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ จะต้องไม่เกิน 500,000 บาท ที่ประกอบไปด้วย
- กองทุน SSF
- กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
- กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
- กองทุนสงเคราะห์ครูตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
- กองทุนการออมแห่งชาติ
- เบี้ยประกันภัยสำหรับการประกันชีวิตแบบบำนาญ
ที่สำคัญ เงื่อนไขการถือครอง RMF ก็คือจะต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี (หรือปีเว้นปี) นอกจากนี้ต้องถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปี นับจากการเข้าลงทุนครั้งแรก และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เท่านั้น และต้องลงทุนทุกปี (อย่างน้อยปีเว้นปี)
โดยหากผิดเงื่อนไข ก็จะไม่สามารถลดหย่อนได้ตามเกณฑ์ ซึ่งการผิดเงื่อนไขแบ่งออกได้เป็น 3 กรณีดังนี้
กรณีที่ 1: กรณีลงทุนไม่ถึง 5 ปี
กำไรที่ได้จากการขายคืนหน่วยลงทุนต้องถูกนำไปคำนวณภาษี และต้องคืนภาษีที่ได้รับการลดหย่อนย้อนหลังทั้งหมดที่ได้รับในช่วงปีก่อนหน้า แต่ถ้าหากชำระภาษีคืนภายในเมษายนของปีถัดไปจะไม่เสียค่าปรับเพิ่มเติม แต่ถ้าล่าช้าจะเสียค่าปรับ 1.5% ต่อเดือน
กรณีที่ 2: กรณีลงทุนครบ 5 ปี แต่ขายก่อนอายุ 55 ปี
คืนภาษีที่ได้รับการลดหย่อน 5 ปีย้อนหลัง แต่ถ้าหากชำระภาษีคืนภายในเมษายนของปีถัดไปจะไม่เสียค่าปรับเพิ่มเติม แต่ถ้าล่าช้าจะเสียค่าปรับ 1.5% ต่อเดือนเช่นกัน
กรณีที่ 3: กรณีซื้อเกินเกณฑ์ที่กำหนด
ส่วนที่ซื้อเกินกำหนด ถ้าหากลงทุนแล้วเกิดกำไรจะต้องนำกำไรไปคิดรวมภาษีปลายปีด้วย
ใครเหมาะกับ กองทุนเกษียณอายุ RMF
ต้องบอกว่าเงื่อนไขของ RMF ค่อนข้างเยอะ ต้องถืออย่างน้อย 5 ปี ขายได้เมื่ออายุ 55 ปีไปแล้ว แถมยังต้องลงทุนอีกทุกปี เมื่อเทียบกับ SSF ที่ต้องถือกองทุน 10 ปีแล้ว ดังนั้นถ้าให้พี่ทุยแนะนำถ้าเรายังอายุยังไม่ถึง 45 ปี พี่ทุยก็ยังไม่แนะนำให้ซื้อ RMF
แต่ถ้าอายุเกิน 45 ปี ไปแล้ว จะพิจารณาซื้อ RMF พี่ทุยก็อยากให้เช็กเงินสดในมือให้ดี เพราะ RMF ไม่ได้ซื้อครั้งเดียวแล้วจบ ต้องซื้ออีกทุกปี เพราะฉะนั้นต้องความจำดีมาก ๆ ห้ามลืมเลย
แล้วก็ไม่แนะนำให้ซื้อกองทุน RMF เกินกว่าที่ลดหย่อนภาษีได้นะ เช่น เงินได้ที่ต้องเสียภาษีเราคือ 1,000,000 บาท ซื้อกองทุน RMF ก็ไม่ควรเกิน 30% หรือ 300,000 บาท เพราะที่ส่วนซื้อกองทุนเกินไป หากกองทุนมีกำไรจะต้องไปเสียภาษีปลายปีเพิ่มอีก
ดังนั้นถ้าหากให้แนะนำ คนที่เหมาะจะซื้อ RMF ก็น่าจะอายุสักสี่สิบปลาย ๆ ไปแล้วแหละ
วิธีคัดกองทุน RMF ที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ มีอนาคต
แน่นอนว่าการถือ RMF ต้องถือครองหลายปี แม้เป้าหมายหลักของเราคือการลดหย่อนภาษี แต่การคัดเลือกกองทุน RMF ที่ผลงานดี มีโอาสเติบโตย่อมดีกว่า พี่ทุยเลยมีวิธีการคัดเลือก RMF มาฝาก ผ่านเว็บไซต์ www.morningstarthailand.com (กระซิบดัง ๆ ว่าฟรี)
อย่างแรกเราต้องรู้ว่า RMF ที่เราเลือก มีนโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ไหนเป็นหลัก ซึ่งถ้าเราจะใช้การแยกประเภทจาก www.morningstarthailand.com จะมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภทหลัก
- RMFEQ หรือ RMF equity fund
จะเน้นลงทุนในหุ้นมากกว่า 65% ของพอร์ตการลงทุน
- RMFFIX หรือ RMF fixed income fund
ลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลักทั้ง หุ้นกู้ พันธบัตรรัฐบาล ต่าง ๆ
- RMFMIX หรือ RMF Mixed Fund
เป็นกองที่ลงทุนแบบผสมทั้งตราสารหนี้และหุ้น สัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนและดุลยพินิขของผู้จัดการกองทุน
- RMFOTH หรือ RMF Other
ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ ณ ปัจจุบัน (23 ต.ค. 2023) มีเฉพาะทองคำเท่านั้น
ซึ่งกรณีของ RMF จะไม่ได้แตกต่างจาก SSF สำหรับขั้นตอนการคัดเลือกกองทุน เราจำเป็นต้องรู้ก่อนเสมอว่าเราต้องการลงทุนในสินทรัพย์แบบไหน และหลังจากนั้นเราสามารถดูผลงานย้อนหลังโดยเปรียบเทียบได้ ใน www.morningstarthailand.com เลือกประเภท “กองทุนประหยัดภาษี” ตามที่เราสนใจ โดยในที่นี้จะทดลองเป็นการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกเป็นหลัก โดยเราจะเลือก ประเภทกองทุนแบ่งตาม AIMC เป็น “Global Bond Discretionary F/X Hodeg or Un Hedge”
ซึ่งจากการค้นหา (วันที่ 4 ธ.ค. 2023) จะออกมาทั้งหมด 6 กองทุนที่มีให้เราเลือกลงทุน และเราจะเน้นเลือกลงทุนกองทุนที่ได้รับ 4 – 5 ดาวจาก Morningstar เป็นหลัก เนื่องจากมีผลการดำเนินงานในอดีตที่น่าสนใจ แต่ในกรณีนี้ที่มี 4 ดาวเพียง 2 กอง ก็อาจจะถอยมาพิจารณากองทุนที่ได้ 3 ดาวเพิ่มเติมด้วย
เพราะเป็นไปได้ว่า “สินทรัพย์” ที่เรากำลังจะเลือกลงทุนในช่วงที่ผ่านมา อาจจะเป็นช่วงที่มีผลประกอบที่ไม่ดี หรือมีความผันผวนสูงทำให้ได้รับการประเมินที่ต่ำลงก็เป็นไปได้
หลังจากได้ข้อมูลกองทุนที่สนใจแล้ว ก็สามารถนำไปค้นหาข้อมูล Fund percentile ของกองทุนต่อ ในเว็บไซต์ https://www.wealthmagik.com/ โดยเครื่องมือนี้ใช้เปรียบเทียบกองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์เดียวกัน โดยจะเป็นการจัดอันดับกองทุน ในแต่ละช่วงเวลาและผลตอบแทน
หลักการใช้ Fund percentile สำหรับการคัดเลือกกองทุน คือ
- ด้านผลตอบแทน ค่า Percentile ยิ่งน้อย ผลตอบแทนยิ่งสูง
- ด้านความผันผวน ค่า Percentile ยิ่งน้อย ความเสี่ยงต่ำ
ตัวอย่าง กองทุน ABCDRMF พิจารณาจากผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี 3 ปี กองทุนนี้อยู่ในช่วงเปอร์เซ็นไทล์ที่ 50 หมายความว่า ถ้ากองทุนรวมมี 100 กองทุน กองทุนนี้ติดอันดับ Top 50
ขอขอบคุณทาง Krungthai NEXT Invest ที่เข้ามาสนับสนุนการให้ความรู้ผ่าน “ซีรีส์ #สรุปภาษีปี 2566” ในครั้งนี้
ใครที่อยากรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้อ SSF กองทุนไหนดี เพราะต้องลงทุนยาวๆ ในสภาวะตลาดผันผวนแบบนี้ ขอแนะนำกองทุน Krungthai World Class Series จาก บลจ. กรุงไทย ที่จะช่วยให้เราถือลงทุนระยะยาวได้อย่างสบายใจกัน!
KTWC-Series-SSF
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ พร้อมลงทุนต่อเนื่องในะระยะยาว KTWC-Series-SSF เปิดให้สามารถเลือกลงทุนได้ตามระดับความเสี่ยงต่ำ กลางและสูง ที่เหมาะกับตัวเราเอง
และยังได้ความร่วมมือสุด Exclusive จากทีมผู้จัดการกองทุนจาก Fidelity อีกหนึ่ง บลจ. ระดับโลก ที่จะเข้ามาช่วยคัดเลือกกองทุนที่เข้ามาอยู่ในพอร์ต เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้ Best of Best ของกองทุนที่เหมาะกับในแต่ละสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
ลงทุนง่ายๆผ่าน NEXT Invest บนแอปฯ Krungthai NEXT หรือ ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
หากใครสนใจอยากศึกษาเพิ่มเติมและเปิดบัญชีลงทุน ที่นี่เลย [https://info.krungthai.com/rgq8]
ตอนนี้มีโปรฯ เปิดบัญชีด้วยนะ รับฟรี! Starbucks e-Voucher 100 บาท* ตั้งแต่ 23 พ.ย. – 31 ธ.ค. 2566
*จำกัด 20,000 สิทธิ์แรก เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
อ่านเพิ่ม