หลังจากที่เรารู้จักกองทุนรวมตลาดเงินและตลาดสารหนี้กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เรามาดูกองทุนรวมอีกหนึ่งประเภทที่ถือว่าเป็นที่นิยมเช่นกันก็คือ กองทุนรวมตราสารทุนหรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า กองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมหุ้นเหมาะกับ ใคร ?
กองทุนรวมหุ้น เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตราสารทุน ซึ่งส่วนใหญ่คือหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยกองทุนรวมหุ้นก็มีนโยบายการลงทุนที่แบ่งย่อยลงทุนไปอีก เช่น ลงทุนหุ้นทั่วไป (ไม่จำกัดขนาดหุ้น) ลงทุนเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ลงทุนเฉพาะหมวดอุตสาหกรรม หรือลงทุนเฉพาะหุ้นในประเทศหรือกระจายลงทุนในหุ้นทั่วโลกก็สามารถทำได้
ตราสารทุนหรือหุ้น คือ ตราสารที่แสดงความเป็นเจ้าของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง
หุ้นที่เราเรียกกันอยู่ที่ติดปากก็คือ สิ่งที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของบริษัทที่จะได้รับผลประโยชน์ทั้งในรูปแบบของเงินปันผล (Dividend) และส่วนต่างของราคา (Capital Gain) ยิ่งบริษัทที่เราถือหุ้นมีการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าก็จะส่งผลต่อราคาหุ้นที่สูงขึ้น และเงินปันผลที่ได้รับมากขึ้นในอนาคต
นอกจากนั้น หุ้นที่เราลงทุนกันก็สามารถซื้อผ่านตลาดรองอย่างตลาดหลักทรัพย์ได้ทั่วโลก อย่างตลาดต่างประเทศอย่างตลาดอเมริกาก็สามารถซื้อขายผ่านตลาด New York Stock Exchange หรือ NASDAQ ได้ ส่วนของประเทศไทยเราก็สามารถซื้อขายหุ้นไทยผ่านตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย (SET) ได้เช่นเดียวกัน
โดยทั่วไปแล้วตราสารทุนหรือหุ้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงที่สูง ดังนั้น การจะเข้าลงทุนควรต้องศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนเสมอ เพราะมีความเสี่ยงและปัจจัยเฉพาะตัวที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้นได้
สำหรับใครที่อยากเรียนรู้และรู้จักตลาดหุ้นมากขึ้น พี่ทุยแนะนำว่าสามารถเข้าศึกษาเรียนรู้จาก ซีรีส์การเงิน ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน ได้เลยที่นี่
กองทุนรวมเหมาะกับ ใคร ?
กองทุนรวมหุ้น คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวม (คำนวณเฉลี่ยในแต่ละรอบปีบัญชี)
สำหรับกองทุนรวมหุ้นจะเหมาะกับคนที่สามารถรับความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในหุ้นได้ แต่อาจจะติดข้อจำกัดหลากหลายอย่าง เช่น ยังไม่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุนหุ้นด้วยตัวเอง หรืออาจจะยังไม่มีความชำนาญเพียงพอสำหรับการเลือกลงทุนด้วยตัวเอง ก็สามารถลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้น ที่มีทีมผู้จัดการกองทุนที่เป็นมืออาชีพในการคัดเลือกการลงทุนให้
หรือบางคนอาจจะต้องการกระจายความเสี่ยงการลงทุนในหุ้นหลาย ๆ ตัว ซึ่งการกระจายการลงทุนด้วยกองทุนรวมครั้งเดียว ก็จะทำให้เราสามารถเป็นเจ้าของหุ้นหลาย ๆ ตัวได้พร้อมกัน
จากตารางจะเห็นได้ว่า ถ้าหากเรามีการลงทุนได้นาน 6 ปีขึ้นไป จะไม่มีช่วงเวลาใดที่เราขาดทุนเลยก็ว่าได้ แต่พี่ทุยอยากแนะนำว่าให้เผื่อระยะเวลาไว้สัก 7 ปี เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เงินของเราจะสามารถเติบโตได้ในระยะยาวนั่นเอง
กองทุนรวมหุ้นเหมาะกับ นักลงทุนแบบไหน ?
กองทุนรวมหุ้นมีกลยุทธ์การลงทุน 2 แบบ คือ Active และ Passive
ก่อนที่เราจะไปดูกันว่าแล้ววิธีการคัดเลือกกองทุนรวมหุ้น มีวิธีการคัดเลือกอย่างไร พี่ทุยจะพาไปเข้าใจก่อนว่ากลยุทธ์การลงทุนของกองทุนหุ้นนั้นมี 2 แบบหลัก นั่นก็คือ
1. กลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรุก (Active Fund)
เป็นกลยุทธ์ที่ผู้บริหารกองทุนต้องพยายามเอาชนะมาตรฐานชี้วัด (Benchmark) ที่ตั้งไว้ เช่น SET100, SET50 เป็นต้น หรือพูดง่าย ๆ คือ ลงทุนหุ้นยังไงก็ได้ให้ได้ผลตอบแทน ‘ชนะ’ ดัชนีพวกนี้เป็นหลัก ยิ่งทำผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดเท่าไหร่ ยิ่งเป็นกองทุนเชิงรุกที่ดีและน่าสนใจเท่านั้น
2. กลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Fund)
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Fund) อันนี้เข้าใจง่ายมาก เพราะผู้จัดการกองทุนจะลงทุนตามมาตรฐานชี้วัด (Benchmark) ส่วนใหญ่จะใช้ AI คอยปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับนโยบาย โดยกองทุน Passive ที่ดีจะต้องเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนเหมือนตลาดมากที่สุดหรือตามมาตรฐานชี้วัด (Benchmark) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกองทุนประเภท Passive Fund จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าแบบ Active Fund
ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นแค่รายละเอียดพื้นฐานของกองทุนทั้ง 2 ประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป รวมถึงมีวิธีการคัดเลือกที่ไม่เหมือนกัน ใน EP หลังจากนี้ พี่ทุยจะพาไปเจาะลึกกองทุนทั้ง 2 รูปแบบ เพื่อให้ทุกคนได้รู้จักกันมากขึ้นแน่นอน
อ่าน EP ต่อไป
ย้อนกลับไปอ่าน EP ก่อนหน้านี้
ติดตามซีรีส์กองทุน เลือกลงทุนง่ายนิดเดียว ตอนอื่น ๆ ได้ที่นี่
ขอขอบคุณทาง บลจ.ยูโอบี (UOBAM) ที่เข้ามาสนับสนุนการให้ความรู้ผ่าน “ซีรีส์กองทุนเลือกลงทุน ง่ายนิดเดียว” ในครั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจอยากเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ทาง UOBAM มีกองทุนที่น่าสนใจให้เลือกลงทุนหลากหลายนโยบาย สามารถเข้าดูรายละเอียดกองทุนหุ้นจากทาง UOBAM ได้ที่นี่
สำหรับกองทุนหุ้นไทยที่น่าสนใจจากทาง UOBAM ก็คือ “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด หุ้นธรรมาภิบาลไทย (UTHAICG)” ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET และ mai โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงบริษัทที่รับการรับรองเป็นสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน (CAC) ซึ่งพิจารณาจากการจัดอันดับ CG Scoring ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย หรือหน่วยงานอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
สำหรับช่องทางการซื้อขายสามารถทำได้สะดวก ผ่านช่องทางออนไลน์ในแอปฯ “UOBAM Invest Thailand”
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.uobam.co.th
ติดต่อฝ่ายบริการนักลงทุน โทร. 02-786-2222 หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ บลจ. แต่งตั้ง
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต