เลือก กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กองไหนดี ? | ซีรีส์กองทุน EP7

เลือก กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กองไหนดี ? | ซีรีส์กองทุน EP7

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • กองทุนหุ้นแบบ Active เน้นลงทุนเพื่อเอาชนะตลาดหรือมาตรฐานชี้วัด (Benchmark) เป็นหลัก ซึ่งกองทุนที่ดีจะต้องทำผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอและมีค่าธรรมเนียมในระดับที่เหมาะสม
  • การเลือกกองทุนรวมที่สะดวกสบาย สามารถเข้าเว็บไซต์ www.morningstarthailand.com ที่มีการรวบรวมข้อมูลกองทุนรวมได้อย่างครบถ้วน และมีฟังก์ชั่นในการเปรียบเทียบอย่างละเอียด ครบถ้วน และใช้งานง่าย
  • การเลือกกองทุนที่มีคุณภาพสามารถเลือกจาก Morningstar Rating ได้ โดยแนะนำให้พิจารณากองทุนที่มีระดับ 4-5 ดาว
  • Sharpe Ratio สามารถบอกความสามารถในการสร้างผลตอบแทนเทียบกับความเสี่ยงของกองทุนรวมได้ดี ยิ่งมีค่าสูง ยิ่งทำให้กองทุนน่าสนใจ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

หลังจากที่เรารู้จักกองทุนรวมหุ้นกันไปแล้ว ใน EP7 นี้ เราจะมาทำความเข้าใจ กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กันให้มากขึ้น โดยพี่ทุยจะพาไปเริ่มต้นที่หุ้นในไทยกันก่อน

กองทุนรวมหุ้นแบบ Active เหมาะกับคนที่ต้องการลงทุนเพื่อเน้นเอาชนะตลาด (Benchmark)

อย่างที่พี่ทุยเล่าให้ฟังใน EP ที่แล้วว่า กองทุนแบบ Active (Active Fund) เป็นกองทุนที่มีนโยบายในการเอาชนะมาตรฐานชี้วัด (Benchmark) ที่ตั้งไว้ เช่น SET100, SET50 เป็นต้น พูดง่าย ๆ คือ ลงทุนหุ้นยังไงก็ได้ให้ได้ผลตอบแทน ‘ชนะ’ ดัชนีพวกนี้เป็นหลัก

ยิ่งทำผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดเท่าไหร่ ยิ่งเป็น Active Fund ที่ดีและน่าสนใจมากเท่านั้น ดังนั้น กองทุนหุ้นแบบ Active จึงเหมาะกับคนที่สามารถรับความเสี่ยงการลงทุนในตลาดหุ้นได้ และคาดหวังผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาดหุ้นทั่วไป

ซึ่งกองทุนหุ้นแบบ Active ที่ดี จะต้องมีผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ มีความผันผวนไม่มากจนเกินไป และควรจะมีค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม ซึ่งต่อไปพี่ทุยจะพาทุกคนมารู้จักขั้นตอนการเลือกกองทุนรวมหุ้นผ่านเว็บไซต์ www.morningstarthailand.com

ขั้นตอนการเลือกกองทุนผ่านเว็บไซต์ Morningstar

เลือก กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กองไหนดี ? | ซีรีส์กองทุน EP7

วิธีการใช้งานเว็บไซต์ Morningstar ก็จะคล้ายกับที่พี่ทุยเคยแนะนำใน EP5 มาเลย แต่จะแตกต่างตรงที่การเลือก “ประเภทกองทุนแบ่งตาม AIMC” ในส่วนนี้จะต้องมีการเลือกเป็น “Equity General”

จากนั้นให้คลิกที่คำว่า Morningstar Rating เพื่อให้ระบบจัดเรียงกองทุนตาม Morningstar Rating ยิ่งมีดาวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงว่ากองทุนนี้มีผลการดำเนินงานในอดีตที่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกัน เบื้องต้นแนะนำว่าให้เลือกโฟกัสที่กองทุนได้รับ Morningstar Rating ที่ 4-5 ดาวเป็นหลัก

แต่ต้องย้ำกับทุกคนอีกครั้งก่อนว่า Morningstar Rating จะเป็นการประเมินจากข้อมูลในอดีตเท่านั้น ไม่ได้บอกถึงอนาคต แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เราสบายใจได้ว่าในอดีตกองทุนรวมนี้ฝีมือที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับกองทุนรวมอื่น ๆ  ซึ่งเราสามารถดูวิธีการจัดอันดับของ Morningstar ได้เลยที่นี่

จากนั้นเราจะเห็นว่ามีกองทุนหุ้นที่ได้รับ 5 ดาวจาก Morningstar Rating จะมีมากถึง 29 กองทุน (ณ วันที่ 10 มีนาคม 2566) โดยวิธีการคัดเลือกให้เราเน้นดูที่ “ผลตอบแทนระยะยาว” เป็นหลักก่อน

จากนั้นคลิกเพื่อจัดอันดับกองทุนที่เพื่อเรียงลำดับกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและต่อเนื่องสม่ำเสมอ เมื่อเรากดเรียงลำดับ “ผลตอบแทน 5 ปี” จากมากไปหาน้อย เราจะมาดูที่ 10 อันดับแรกว่ามีกองทุนอะไรบ้าง

เลือก กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กองไหนดี ? | ซีรีส์กองทุน EP7

จากนั้นให้กดไล่เรียงลำดับ “ผลตอบแทน 3 ปี” จากมากไปหาน้อย เราจะเห็นได้ว่าลำดับจะมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเมื่อเราได้เห็นผลตอบแทนทั้งช่วงเวลา 3 และ 5 ปี และกองทุนที่สามารถทำผลตอบแทนได้ดีในหลากหลายช่วงเวลา แปลว่ากองทุนสามารถทำผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอก็จะมีความน่าสนใจมากกว่า

เลือก กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กองไหนดี ? | ซีรีส์กองทุน EP7

จากนั้นให้เปลี่ยนมาเลือกที่หัวข้อ “ความเสี่ยง” แนะนำว่าให้ดูที่ “Sharpe 3 ปี” (ซึ่งในความหมายนั่นก็คือ ค่า Sharpe Ratio เฉลี่ย 3 ปี)

เลือก กองทุนรวมหุ้นแบบ Active กองไหนดี ? | ซีรีส์กองทุน EP7

หลักการใช้งาน Sharpe Ratio ก็ง่ายมาก ๆ นั่นก็คือ กองทุนที่มี Sharpe Ratio สูงแปลว่า มีผลตอบแทนต่อหนึ่งหน่วยความเสี่ยงที่ดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าจะมีความน่าสนใจมากกว่ากองทุนที่มี Sharpe Ratio ต่ำกว่า 

แต่ในกรณีที่ Sharpe Ratio ออกมาใกล้เคียงกัน พี่ทุยแนะนำต่อว่าให้เลือกดูที่ “ค่าธรรมเนียม” โดยกองทุนไหนมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าก็จะมีความน่าสนใจมากกว่านั่นเอง 

หลังจากที่เราเลือกกองทุนที่น่าสนใจได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายพี่ทุยเน้นย้ำอีกครั้งว่าจะต้องไปอ่าน Fund Fact Sheet ของกองทุนรวมอีกครั้งเพื่อทำความเข้าใจถึงนโยบายการลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต รวมไปจนถึงความเสี่ยง ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะอยู่ใน Fund Fact Sheet ทั้งหมดเลย

นอกจาก “Equity General” ที่เป็นการลงทุนทั่วไป จริง ๆ แล้วกองทุนหุ้นยังมีนโยบายที่เน้นเลือกลงทุนในหุ้นตัวใหญ่ (Equity Large Cap) หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก (Equity Small-Mid Cap) ด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกกองทุนหุ้นที่มีนโยบายที่แตกต่างกันนี้ ก็สามารถใช้หลักการคัดเลือกแบบเดียวกันนี้ได้เลย

ใน EP หน้า พี่ทุยจะพาไปดูวิธีการเลือกกองทุนหุ้นแบบ Passive กันว่าทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรที่เหมือนหรือแตกต่างจากกองทุนหุ้นแบบ Active ตรงไหนบ้าง

ไปลุยกันต่อเลย!

อ่าน EP ต่อไป

ย้อนกลับไปอ่าน EP ก่อนหน้านี้

ติดตามซีรีส์กองทุน เลือกลงทุนง่ายนิดเดียว ตอนอื่น ๆ ได้ที่นี่

ขอขอบคุณทาง บลจ.ยูโอบี (UOBAM) ที่เข้ามาสนับสนุนการให้ความรู้ผ่าน “ซีรีส์กองทุนเลือกลงทุน ง่ายนิดเดียว” ในครั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจอยากเริ่มต้นลงทุนในกองทุนรวมหุ้นแบบ Active ทาง UOBAM มีกองทุนที่น่าสนใจให้เลือกลงทุนหลากหลายนโยบายการลงทุน

อย่างกองทุนรวมหุ้นแบบ Active ที่น่าสนใจก็คือ “กองทุนเปิด ไทย อิควิตี้ฟันด์  (TEF)” ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนใน SET ที่เป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตในอัตราสูง และมีเสถียรภาพทางการเงิน เป็นอีกหนึ่งกองทุนที่เปิดตัวมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2542 มีผลประกอบการที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนประเภทเดียว และได้รับ 4 ดาวจากทาง Morningstar ด้วย 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.uobam.co.th
ติดต่อฝ่ายบริการนักลงทุน โทร. 02-786-2222 หรือติดต่อตัวแทนจำหน่ายที่ บลจ. แต่งตั้ง
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile