3 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับ "NAV" ก่อนซื้อกองทุนรวม

3 สิ่งควรรู้เกี่ยวกับ NAV ก่อนซื้อกองทุนรวม

2 min read  

ฉบับย่อ

  • “NAV” จะขึ้นหรือลงก็อยู่ที่ผลประกอบการของกองทุนรวม แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะยังมีหลายประเด็นที่คนยังเข้าใจผิดอยู่
  • ในประเทศไทย ทุกกองทุนจะมีราคา NAV เริ่มต้นขายในวันแรกที่ราคา 10 บาทต่อหน่วย ถ้าเราเห็นกองไหนมีราคาต่ำกว่า 10 บาท ก็ตั้งสมมติฐานได้เลยว่า ผู้บริหารกองทุนต้องบริหารกองผิดพลาดแน่ ๆ เลย ไม่ก็กองนั้นอาจมีการจ่ายปันผลก็เป็นไปได้

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

สำหรับใครที่ลงทุนในกองทุนรวมคงคุ้นเคยกันดีกับคำว่า NAV ที่ย่อมาจาก “Net Asset Value” หรือแปลเป็นไทย คือ “สินทรัพย์สุทธิ”

Net Asset Value เป็นตัวบอกราคาซื้อราคาขายของกองทุนรวมแก่นักลงทุน ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่วันจะเพิ่มหรือจะลดนั้นก็ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของกองทุนรวมหรือความสามารถของผู้บริหารกองทุนรวมนั้น

แต่กระนั้นก็ยังมีหลาย ๆ คนที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Net Asset Value อยู่ พี่ทุยเลยรวบรวมมา 3 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ Net Asset Value ไปฟังกัน

1. วิธีการคำนวณ NAV

Net Asset Value = มูลค่าทรัพย์สินตามราคาตลาด + ผลตอบแทนสะสม + เงินสด – หนี้สินและค่าใช้จ่าย เลยเป็นที่มาชื่อภาษาไทยว่า “สินทรัพย์สุทธิ” ยังไงล่ะ

แต่เวลาเราซื้อขายกองทุนกันนั้น เราจะดูที่ราคาต่อหน่วย ซึ่งก็คือ “NAV/หน่วย” หรือ “มูลค่าหน่วยลงทุน” นั่นเอง

“NAV ต่อหน่วย” = NAV/จำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด

ทีนี้เวลาเราซื้อขายกองทุนรวม เราจะไม่รู้ราคาซื้อราคาขายของกองทุนรวมจริง ๆ ในขณะที่เราทำการซื้อขาย เพราะว่า Net Asset Value จะถูกคำนวณวันละครั้งหลังจากตลาดปิดทำการไปแล้ว

เมื่อคำนวณเสร็จทางบริษัทจัดการจึงจะประกาศราคาให้ทราบกัน ฉะนั้นเวลาที่เราเข้าไปเช็คราคา “มูลค่าหน่วยลงทุน” ราคาที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่ราคาซื้อหรือขายที่จะเกิดขึ้นจริงก็ได้

2. Net Asset Value ต่ำไม่ได้หมายความว่าถูก Net Asset Value สูงไม่ได้หมายความว่าแพง

หลายคนมักจะเข้าใจว่า กองทุนที่มี “มูลค่าหน่วยลงทุน” สูง ๆ เป็นกองที่แพง เพราะได้หน่วยลงทุนน้อย ไปซื้อกองทุนที่ Net Asset Value ต่ำ ๆ ดีกว่า จะได้ได้หน่วยลงทุนเยอะ ๆ

ถ้าจะมองเรื่องจำนวนหน่วยลงทุนคิดแบบนี้ก็ไม่ผิด แต่การลงทุนในกองทุนพี่ทุยบอกก่อนเลยว่า ไม่มีคำว่าถูกหรือแพงในพจนานุกรมซื้อขายกองทุนนะ เราจะมองแต่ราคา “มูลค่าหน่วยลงทุน” อย่างเดียวไม่ได้ เพราะแต่ละกองทุนมีอายุกอง ขนาดกองไม่เท่ากัน

เวลาเราเห็นกองทุนอันไหนที่ “มูลค่าหน่วยลงทุน” สูง ๆ นั่นอาจเพราะกองนั้นไม่มีการจ่ายเงินปันผล หรือกองอาจบริหารได้ผลตอบแทนดี ทำให้มีมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น เราควรมองที่ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน การเติบโตของ Net Asset Value หรือฝีมือของผู้บริหารกองทุนมากกว่า

พี่ทุยสมมติง่าย ๆ ว่า มีกองทุน 2 กอง คือ กอง ABC กับ กอง XYZ ทั้งสองกองเริ่มต้นที่ราคา 10 บาทต่อหน่วยเท่ากัน ผ่านไป 1 ปี กองทุน ABC บริหารกองได้มีราคาต่อหน่วยคือ 15 บาท ส่วนกอง XYZ ราคาต่อหน่วย คือ 8 บาท ถามว่ากองไหนบริหารเงินได้ดีกว่าหรือน่าซื้อกว่ากัน ?

ดังนั้น เวลาเลือกซื้อกองทุนควรจะดูที่ผลตอบแทนหรือฝีมือของผู้บริหารกองทุน ยิ่งผู้บริหารกองทุนฝีมือดี ก็จะทำให้ Net Asset Value กองทุนนั้นเพิ่มขึ้น ถ้าผู้บริหารกองทุนผิดพลาดบ่อย Net Asset Value กองทุนนั้นก็จะลดลง

3. Net Asset Value กองทุนเริ่มต้นที่ 10 บาท

ในไทย ทุกกองทุนจะมีราคา “มูลค่าหน่วยลงทุน” เริ่มต้นขายในวันแรกที่ราคา 10 บาทต่อหน่วย ถ้าเราเห็นกองไหนมีราคาต่ำกว่า 10 บาท ก็ตั้งสมมติฐานได้เลยว่า ผู้บริหารกองทุนต้องบริหารกองผิดพลาดแน่ ๆ เลย หรือไม่ก็กองนั้นอาจมีการจ่ายปันผลก็เป็นไปได้นะ

นอกจากนี้แล้วเวลาซื้อขายกองทุน ราคาซื้อกับราคาขายของกองทุนจะไม่เท่ากันนะ เราสามารถเข้าไปเช็คราคาซื้อขายได้จากเว็บไซต์ของบลจ. นั้นหรือสอบถามจากบลจ.ได้เลย เขาก็จะให้ “ราคาขาย” กับ “ราคารับซื้อคืน” มาให้เรา ซึ่งโดยส่วนใหญ่ราคาขายจะสูงกว่าราคารับซื้อคืน ก็เหมือนกับเวลาเราไปแลกเงินบาทเป็นสกุลเงินต่างประเทศนั่นแหละ

แต่เวลาเราจะซื้อเนี่ยให้ดูที่ “ราคาขาย” นะ ส่วนเวลาเราจะขายก็ให้ดูที่ “ราคารับซื้อคืน” ระวังอย่าสับสนกันล่ะ

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย