อายุเท่านี้ ซื้อลดหย่อนภาษี SSF หรือ RMF ดีกว่ากัน?

เข้าใกล้ปลายปี เทศกาลซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีก็เริ่มขึ้น ซึ่งมีให้เลือกทั้งกองทุน SSF และ RMF ด้วยเงื่อนไขที่ต่างกัน ทำให้หลายคนอาจเลือกไม่ถูกว่าจะ SSF หรือ RMF ดีกว่ากัน วันนี้พี่ทุยเลยขอมาให้ข้อมูลแนะนำว่าช่วงอายุไหนควรเลือกอะไร 

กองทุน SSF กับ RMF เหมือนต่างกันตรงไหน?

กองทุน SSF ซื้อสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท กองทุน RMF ซื้อสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวม SSF, RMF, ประกันชีวิตบำนาญ, กบข, กอช., กองทุนสงเคราะห์ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนแล้วไม่เกิน 500,000 บาท

ทั้งกองทุน SSF และ RMF ลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ ไม่มีเงินลงทุนขั้นต่ำ แต่ SSF ต้องถือครอง 10 ปีนับจากวันที่ซื้อ ไม่ต้องซื้อทุกปี ส่วน RMF ถือครอง 5 ปีนับจากวันซื้อครั้งแรก และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปี และต้องซื้อทุกปี หรืออย่างน้อยปีเว้นปี

อ่านเพิ่ม

• เลือกลดหย่อนภาษีด้วย SSF หรือ RMF ดี ?
• เทคนิคเลือก RMF SSF ลดหย่อนภาษี ตอบโจทย์ลงทุน

หลักการเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีให้ตอบโจทย์ที่สุด

ถึงกองทุน SSF และ RMF จะเป็นกองทุนลดหย่อนภาษีเหมือนกัน แต่ในชีวิตจริงหลายคนคงไม่ได้ใช้วงเงินลดหย่อนภาษีจนครบ 500,000 บาท จึงต้องเลือกกองทุน SSF หรือ RMF เพียงอย่างเดียว ดังนั้นต้องมีหลักการเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

• ความเสี่ยงที่รับได้

กองทุน SSF และ RMF ลงทุนได้ทุกสินทรัพย์ ซึ่งมีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันออกไป ถ้ารับความเสี่ยงได้ต่ำ ควรเลือกกองทุนประเภทตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตร แต่ถ้ารับความเสี่ยงได้ปานกลาง ควรเลือกกองทุนผสม ส่วนถ้ารับความเสี่ยงได้สูง ก็สามารถเลือกได้ตั้งแต่กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม หรือกองทุนหุ้น

• เป้าหมายและอายุ

ถ้าต้องการซื้อเพื่อเก็บเงินออมไว้สำหรับเกษียณก็ต้องเลือกกองทุน RMF แต่ถ้าต้องการลงทุนระยะยาวแต่ใช้เวลาถือครองน้อยกว่าควรเลือกกองทุน SSF

แต่เรื่องนี้ต้องพิจารณาไปพร้อมอายุด้วย ถ้ามีเวลาก่อนเกษียณไม่เกิน 10 ปี ควรเลือกกองทุน RMF เพื่อให้ได้เงินก้อนนี้กลับมาใช้ตอนเกษียณได้ทันที แต่ถ้ายังไม่เข้าใกล้วัยเกษียณทางเลือกก็ยังเปิดกว้างทั้งกองทุน SSF และ RMF

• ลดภาษีเรื่องหลัก ลงทุนเรื่องรอง

ประโยชน์หลักที่ได้ทันทีเมื่อซื้อกองทุน SSF หรือ RMF คือ เงินที่ได้จากการลดหย่อนภาษี ส่วนผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นเรื่องของอนาคต บางครั้งถ้านึกถึงเรื่องผลตอบแทนเป็นหลัก อาจทำให้ลงทุนเกินความเสี่ยงที่รับได้ เกิดขาดทุน พอหักล้างกับเงินที่ได้จากการประหยัดภาษี กลับไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย จึงควรเลือกลงทุนกองทุนลดหย่อนภาษีด้วยเรื่อประหยัดภาษีเป็นหลัก ภายใต้ความเสี่ยงที่รับได้จริง ๆ

แล้วอายุ 30 เลือก SSF หรือ RMF ดีกว่ากัน ?

อายุ 30 ด้วยเวลาที่ยาวนานก่อนจะเกษียณ เช่น 60 ปี อาจมีโอกาสลงทุนที่น่าสนใจเข้ามาในอนาคต มีกองทุนลดหย่อนภาษีที่น่าสนใจกว่าออกมาใหม่ บางปีอาจไม่เหลือเงินพอซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี หรืออาจต้องใช้เงินก้อนเป็นทุนเปิดธุรกิจสร้างครอบครัว

ดังนั้นควรเลือกกองทุนที่ไม่ต้องซื้อทุกปี ระยะเวลาถือครองน้อยกว่า เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนไว้ใช้ได้มากที่สุด กองทุน SSF เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า RMF สำหรับผู้คนวัย 30 ปี เพราะไม่ต้องซื้อทุกปี ได้เงินก้อนนี้คืนภายใน 10 ปี ต่างจากกองทุน RMF ที่ต้องซื้ออย่างน้อยปีเว้นปี และต้องรอเงินก้อนนี้ไปจนถึงอายุ 55 ปี (ถือครอง 25 ปี)

หรือถ้าเงินได้สุทธิยังไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี หรือมีค่าลดหย่อนตัวอื่นเช่นประกันชีวิต ประกันสุขภาพครอบคลุมลดหย่อนภาษีเพียงพอแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนต้องซื้อกองทุน SSF หรือ RMF

อ่านเพิ่ม

• เงินเดือนเท่าไหร่ถึงต้องเสียภาษี 2566 ? พร้อมวิธีคำนวณภาษี
• กองทุนหุ้น TESG คืออะไร ลดหย่อนภาษีเท่าไหร่ ซื้อได้เมื่อไหร่

ถ้าอายุเยอะขึ้น ทำไมถึงควรเลือกกองทุน RMF?

เมื่ออายุเยอะขึ้น การเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีต้องหันมาคำนึงถึงการได้เงินออกมาใช้หลังเกษียณ ซึ่งขึ้นอยู่กับเวลาก่อนเกษียณที่เหลืออยู่ ยิ่งเหลือเวลาก่อนเกษียณน้อย ยิ่งควรเลือกกองทุน RMF

เช่น อายุ 49 ปี ควรเลือกซื้อกองทุน RMF เพราะตอนอายุ 55 ปี ถือครองมาแล้ว 6 ปี ก็สามารถขายเอาเงินมาใช้ตอนเกษียณได้ แต่ถ้าซื้อกองทุน SSF ต้องถืออีก 10 ปี กว่าจะได้เงินก็ตอนอายุ 59 ปี

ถ้าอายุ 45 ปี ทางเลือกเปิดกว้างได้ทั้ง SSF หรือ RMF เพราะถ้าซื้อกองทุน SSF ก็ต้องถือ 10 ปี ได้เงินมาใช้ตอนอายุ 55 ปี หรือถ้าซื้อกองทุน RMF ก็ต้องถือครองถึงอายุ 55 ปี เหมือนกัน

ส่วนถ้าน้อยกว่าอายุ 45 ปี ก็ใช้หลักการเลือกเหมือนกับคนอายุ 30 ปี เน้นไปที่ความยืดหยุ่นให้เงินหมุนเวียนง่ายขึ้น เผื่อรับโอกาสหรือเหตุฉุกเฉิน จึงควรซื้อกองทุน SSF

สรุป SSF หรือ RMF ดีกว่ากัน

กองทุน SSF และ RMF มีความแตกต่างในเรื่องระยะเวลาถือครอง ซึ่งถ้าอายุยังน้อยควรเลือกกองทุน SSF เพื่อได้ประโยชน์จากการได้เงินเผื่อมีโอกาสลงทุนหรือเหตุฉุกเฉินในอนาคต เมื่ออายุมากขึ้นต้องเริ่มดูเวลาที่เหลือก่อนเกษียณ ซึ่งที่อายุ 45 ปี เป็นจุดที่ควรเปลี่ยนจากกองทุน SSF มาเป็น RMF เพื่อให้มีเงินออกมาใช้ตอนเกษียณไวขึ้น