เมื่อ วันที่ 21 พ.ย. นี้ ได้ไฟเขียวภาษีหนุนกองทุนหุ้น TESG หรือ กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) ให้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 30% วงเงินลดหย่อนไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี ชี้ผู้ถือกองทุนต้องถือกองทุน 8 ปี วันนี้พี่ทุยเลยขอพาไปรู้จักกับ กองทุนหุ้น TESG กองลดหย่อนภาษีใหม่เอี่ยมนี้ พร้อมดูว่าใครที่จะใช้ต้องทำยังไง มีเงื่อนไขยังไงบ้าง แล้วลงทุนต่างจากกองทุน SSF และ RMF ยังไง? ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย
กองทุนหุ้น TESG คืออะไร ?
กองทุนหุ้น TESG คือ กองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน Thailand ESG Fund (TESG) สนับสนุนการออมระยะยาว สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ โดยมีเป้าหมายการลงทุนในหุ้นบริษัทในประเทศไทยที่ผ่านเกณฑ์ ESG รวมไปถึงการลงทุนในตราสารหนี้ด้วย
กองทุน TESG ไม่ใช่กองทุนที่รัฐจัดตั้งขึ้นแล้วขายหน่วยลงทุนเอง แต่เป็นกองทุนที่แต่ละบริษัทหลักทรัพย์กองทุน (บลจ.) เป็นผู้ออกและบริหารกองทุน ซึ่งจะออกกี่กองทุน มีนโยบายบริหารแบบ Active หรือ Passive ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแต่ละ บลจ. เพียงแต่ต้องออกภายใต้กฎเกณฑ์กองทุน TESG ที่ กลต. เตรียมจะกำหนด
เงื่อนไขลดหย่อน กองทุนหุ้น TESG สิทธิประโยชน์ทางภาษีเป็นยังไง
- ผู้มีเงินได้มีสิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนหุ้น TESG ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้ไม่เกิน 100,000 บาท
- ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 8 ปีเต็มนับตั้งแต่วันที่ซื้อหน่วยลงทุนไม่ใช่ปีปฏิทินเหมือนกองทุน LTF หากถือครบตามหลักเกณฑ์ ผลประโยชน์จากการขายหน่วยลงทุนคืนให้แก่กองทุน ได้รับยกเว้นภาษี (ยกเว้นกรณีทุพพลภาพหรือตาย)
โดยที่ปัจจุบันสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากกองทุน เช่น กองทุน SSF, กองทุน RMF, กองทุน LTF, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุน กบข., กองทุนการออมแห่งชาติ รวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการซื้อกองทุนหุ้น TESG จะไม่ได้รวมกับก้อน 500,000 บาท
ใครซื้อกองทุนหุ้น TESG เพื่อลดหย่อนภาษีได้บ้าง
- บุคคลธรรมดาเท่านั้น ในส่วนของห้างหุ้นส่วนสามัญ คณะบุคคล และกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้
กองทุนหุ้น TESG ซื้อได้เมื่อไร ถึงลดหย่อนได้
เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. 2566 (วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการ) ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2575 แต่หากจะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีปีใด ต้องซื้อภายในปีนั้น ๆ เช่น ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของรายได้ปี 2566 ก็ต้องซื้อภายใน 31 ธ.ค. 2566
สรุปอย่างง่ายกองทุน TESG
พี่ทุยมองว่ากองทุน TESG คือ กองทุนรวมหุ้นไทยที่ผ่านเกณฑ์ ESG สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้พึงประเมิน เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้น เฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น
ใช้มาตรฐาน ESG ของใคร มีหุ้นเข้ามาตรฐานมากแค่ไหน
ว่ากันตามตรงยังไม่มีเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นไทย ESG อย่างชัดเจน แต่ละกองทุนและ บลจ. อาจมีเกณฑ์หรือดัชนีอ้างอิงที่แตกต่างกันไป
แต่ถ้าพูดถึง ESG กับหุ้นไทย ก็คงหนีไม่พ้นมาตรฐาน SET ESG Ratings ที่จัด rating หุ้นที่มีความยั่งยืน โดยพิจารณาจากข้อมูลจัดการความเสี่ยงด้าน ESG นโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อม ข้อมูลผลการดำเนินงานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และการดำเนินงานต่อพนักงาน ชุมชน และสังคมผ่านกระบวนการทางธุรกิจ
จากการประกาศเมื่อวันที่ 6 พ.ย. มีบริษัทได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings จำนวน 193 บริษัท รวมแล้วมีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap) 13 ล้านล้านบาท คิดเป็น 72% ของทั้งดัชนี SET และ mai (รวมทั้งหมดของตลาดหุ้นไทย)
แบ่งตาม rating ประกอบด้วย ระดับ AAA จำนวน 34 บริษัท ระดับ AA จำนวน 70 บริษัท ระดับ A จำนวน 64 บริษัท ระดับ BBB จำนวน 25 บริษัท
กองทุนไทย ESG หวังกระตุ้นตลาดหุ้นไทยได้จริงหรือไม่?
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) มองว่ากองทุน TESG จะช่วย Sentiment ตลาดหุ้นไทยได้ไม่มากก็น้อย และยังช่วยผลักดันบริษัทในประเทศสู่มาตรฐาน ESG มากขึ้น
ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) มองว่าระยะสั้นจะเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย หนุนเงินลงทุนระยะยาวเข้าตลาดหุ้นไทย คาดหวังเม็ดเงินราว 1.1-1.5 หมื่นล้านบาท
ด้านผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ มองว่าผลต่อตลาดหุ้นไทยมีจำกัด ระยะยาวเวลาถือครองอาจดีกว่ากองทุน SSF แต่เทียบกับกองทุน LTF เงื่อนไขยังไม่ดีเท่าเดิม นอกจากนี้ยังลงทุนตราสารหนี้ได้ด้วย คาดว่ามีเม็ดเงินไหลเข้าราว 3-4 พันล้านบาท
ทางพี่ทุยมองว่ามาตรฐาน ESG อาจไม่ได้การันตีว่ารายได้และกำไรจะเติบโต รวมถึงข้อจำกัดการลงทุนได้แค่สินทรัพย์ในประเทศไทย กองทุน SSF และ RMF ก็มีกันอยู่แล้ว ซื้อที่มีอยู่ก็เต็มสิทธิ์แล้ว แถมเปิดโอกาสลงทุนต่างประเทศได้ด้วย ทำให้เม็ดเงินลงทุนอาจไม่ได้ไหลเข้ามากเท่าที่คาดกันไว้ ผลต่อตลาดหุ้นไทยก็คงไม่ได้เยอะมาก
อ่านเพิ่ม