สำหรับคนที่จะเริ่ม “เล่นหุ้น” พี่ทุยขอแนะนำซีรีส์การเงิน ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน เป็นซีรีส์ที่จะช่วยปูพื้นฐานในการเริ่มต้น “เล่นหุ้น” ให้กับทุกคน แต่วันนี้พี่ทุยจะมาเล่าเรื่องการใช้ Technical Analysis เบื้องต้นให้ฟัง หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าการดูกราฟนั่นเอง
หลายคนที่ทำงานประจำคงจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ถ้าต้องมานั่งดูกราฟเทคนิคและเฝ้าจอ ลำพังงานตรงหน้าก็เครียดอยู่แล้ว ถ้าต้องมานั่งปวดหัวกับเส้นยึกยือบนจออีกคงไม่ไหว แถมยังต้องคอยหลบเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานตอนที่แอบเปิดดูในเวลาทำงาน จริงมั้ย ?
จริงๆ แล้ว เราสามารถเล่นหุ้นแนวเทคนิคแบบไม่ต้องเฝ้าจอ ซึ่งเหมาะมากกับผู้ที่ต้องทำงานประจำและลดการขายหมูได้ด้วยเส้นเพียงแค่ไม่กี่เส้น ซึ่งพระเอกของเราในวันนี้ คือ
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอกซ์โปเนนเชี่ยล หรือเรียกสั้น ๆ ว่า EMA (Exponential Moving Average)
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) คืออะไร ?
เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท แต่ประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุด เหมือนเป็นยาสามัญประจำพอร์ตของเทรดเดอร์ที่ใช้งานกราฟเทคนิคในการวิเคราะห์ราคาหุ้น คือ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล หรือ EMA ซึ่งคำนวณมาจากค่าเฉลี่ยของราคาปิดของหุ้นย้อนหลัง ตามจำนวนวันที่เราต้องการ โดยให้ราคาวันหลัง ๆ มีน้ำหนักมากกว่า
เพราะมีแนวคิดที่ว่า ราคาย้อนหลังของวันที่ใกล้ปัจจุบันมากกว่าจะมีความสำคัญมากกว่า เช่น เรากำหนดให้แสดงค่า EMA5 โปรแกรมก็จะเฉลี่ยเอาราคาปิดของ 5 วันย้อนหลัง โดยถ่วงน้ำหนักวันหลัง ๆ มากกว่าวันแรก ๆ อย่างนี้ไงล่ะ แบบว่ามาทีหลังดังกว่า (ฮ่า)
ทำไมต้อง “เล่นหุ้น” โดยใช้ EMA ?
เคยได้ยินคำว่า แนวรับ-แนวต้าน กันมั้ย ? ตลาดหุ้นพี่ทุยมันเป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่
- ถ้าคนในตลาดส่วนใหญ่ขาย ราคาก็จะลง
- แต่ถ้าซื้อราคาก็จะขึ้น
แล้วถ้าเรารู้ว่าคนส่วนใหญ่จะหยุดขายที่เมื่อไหร่ การเข้าซื้อก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะราคากำลังจะกลับตัวนั้นเอง การที่เราใช้เครื่องมือที่คนส่วนใหญ่ใช้ก็จะทำให้เราเห็นแนวโน้มของคนส่วนใหญ่ในตลาดไปในตัวว่าเรากำลังคิดอะไรกันอยู่
ราคาหุ้นที่ลงมาแรง ๆ บ่อยครั้งจะหยุดลงที่แนวรับ เพราะคนส่วนมากคิดว่า ที่แนวราคานี้แหละน่าจะรับอยู่ ไม่ลงต่ำกว่านี้แล้ว ก็เลยพากันเข้าซื้อ และอุปทานหมู่นี้ ก็ทำให้ราคาไม่ลงต่ำไปกว่าจุดนั้นจริง ๆ เพราะทุกคนช่วยกันซื้อคนละไม้คนละมือ แนวต้านทางจิตวิทยาก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน คือ คนส่วนมากจะขายหุ้น เพราะเชื่อมั่นว่าราคาคงขึ้นสูงไปกว่านี้ไม่ได้ พอมีแต่คนขาย ราคาก็เลยไม่ขึ้นจริง ๆ น่ะสิ
เพราะฉะนั้นอะไรที่คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นตรงกัน มักได้ผลมากกว่า ก็เหมือนเส้น EMA นี่แหละ เพราะฉะนั้นใช้อะไรที่ฮอตฮิต มันก็จะดีตรงนี้แหละ
เส้น EMA หน้าตาเป็นยังไง ?
พี่ทุยขอเอาตัวอย่างของหุ้นตัวนึงมาให้ดูนะ ขอย้ำเลยว่าไม่ได้เชียร์ซื้อขาย แค่ว่าชื่อย่อของเขาขึ้นต้นด้วยตัวอักษร A เลยเอามาให้ดูนะ ในรูป พี่ทุยตั้งค่าให้แสดงเส้น EMA ทั้งหมด 4 เส้น คือ
- EMA5 – เส้นสีน้ำเงิน
- EMA15 – เส้นสีส้ม
- EMA50 – เส้นสีฟ้า
- EMA200 – เส้นสีม่วง
ซึ่งตัวเลขตรงนี้จะแตกต่างออกไปตามสไตล์การเทรดของแต่ละคน ไว้ถ้ามีโอกาสจะเล่าให้ฟังนะ จะเห็นว่าเส้นค่าเฉลี่ยแต่ละเส้น เราสามารถกำหนดให้เป็นคนละสีได้ เวลาดูจะได้ไม่สับสนและยังสวยกว่าอีกด้วย
สำหรับวิธีการตั้งค่า จากบทความที่แล้ว ที่พี่ทุยแนะนำเรื่อง การใช้งานแอปพลิเคชัน Streaming ไป ถ้าใครยังไม่ได้ติดตั้ง ไปจัดการเลยนะ แอป Streaming นี่เปรียบเหมือนก๊าซออกซิเจนของคนเล่นหุ้นเลย ถ้าขาดเธอไป ขาดใจแน่นอน
วิธีเพิ่มเส้น EMA
- เมื่อมีแอปพลิเคชัน Streaming แล้ว เข้าใช้งานตาม Username และ Password ที่ได้รับมาจาก Marketing
- กดตรง Technical Chart เรียกพิมพ์ชื่อหุ้นสักตัวนึง ในที่นี้พี่ทุยขอยกตัวอย่าง AOT
- พอเลือกชื่อหุ้นที่เราต้องการแล้ว กดเลือกที่ Indicator และเลือกที่ Moving Average Exponential ตามรูป
- เมื่อกดคำสั่ง Moving Average Exponential เรียบร้อยแล้ว เส้น EMA ก็จะมาปรากฏที่กราฟหุ้น AOT ของเรา ซึ่งอาจจะกำหนดมาเป็นเส้นค่าเฉลี่ยของจำนวนวันที่เราไม่ได้ต้องการ ตรงนี้เราต้องทำการปรับแต่งเองนะ
- ปรับแต่งเส้นค่าเฉลี่ย EMA ให้เป็นจำนวนวันตามที่เราต้องการ โดยกดเปลี่ยนแปลงได้ทั้งจำนวนวัน สีของเส้นค่าเฉลี่ย ความเข้มของเส้นค่าเฉลี่ย เป็นต้น ลองทำดูกันนะจ๊ะ
- เมื่อทำการเพิ่มเส้น EMA ลงในกราฟเทคนิคเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถรันเทรนด์โดยใช้ EMA ได้
เส้น EMA ทำอะไรได้บ้าง ? เอามาใช้งานยังไง ?
- สัญญาณซื้ออย่างที่พี่ทุยเล่าให้ฟังว่าเส้น EMA คือ การเอาราคาปิดของหุ้นมาเฉลี่ยกัน ดังนั้นถ้าเส้น EMA ของวันที่สั้นกว่า ตัดเส้น EMA ของวันยาวกว่าขึ้น ก็จะแสดงถึงว่าราคาหุ้นในระยะนี้มีความแข็งแกร่งยังไงล่ะ เพราะราคาเฉลี่ยระยะสั้นของเค้าสูงกว่าราคาเฉลี่ยระยะยาว เช่น เมื่อเส้น EMA5 ตัดเส้น EMA15 ขึ้น ก็จะเป็นสัญญาณซื้อเรียกเป็นศัพท์เก๋ ๆ ได้ว่าเกิด Golden Cross
- สัญญาณขายเมื่อเส้น EMA ที่ยาวกว่าตัดขึ้นบนเส้น EMA ที่สั้นกว่า ก็จะเป็นสัญญาณเตือนที่บอกให้เราปล่อยมือจากหุ้นตัวนั้น ๆ ได้แล้ว เช่น เส้น EMA15 ตัดขึ้นเหนือเส้น EMA5 และเราก็มีชื่อเรียกเก๋ ๆ อีกเช่นกันว่าเกิด Dead Cross
- เส้น EMA สามารถใช้เป็นแนวรับ-แนวต้านได้ บางคนที่ไม่อยากไล่ราคาหุ้น ก็จะรอรับเมื่อราคาหุ้นย่อลงมาที่เส้น EMA สำคัญต่าง ๆ เพราะมันคือแนวรับแบบนึง ส่วนใหญ่แล้วจะดู EMA50 และ EMA150 หรือ 200 วันเป็นแนวรับสำคัญลองศึกษาตัวเส้น EMA เพิ่มเติมกันดูจริง ๆ แล้วมีลูกเล่นที่เราเล่นได้ในระยะสั้นอยู่ด้วยกำลังคนที่สนใจ การลงทุนแนวเทคนิดการเริ่มต้นที่เส้น EMA ดูเป็นการเริ่มต้นที่ง่ายที่สุดแล้วล่ะ
ควรระมัดระวังตรงไหน ?
เส้นค่าเฉลี่ยมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ทั้งSMA, TTA, WMA แต่ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ EMA ถ้าต้องการให้กราฟเทคนิคของเราแสดงเส้นค่าเฉลี่ย EMAเราควรดูให้ดีว่าเลือกถูกหรือไม่ เช่น ใน Streaming ตรวจสอบให้ดีว่าเลือก Moving Average Exponential ไม่ใช่ Moving Average ธรรมดา หรือในแอปพลิเคชัน Efin เวลากดเลือกอย่าลืมเลือกเส้นค่าเฉลี่ยแบบ Exponential นะจ๊ะ
พี่ทุยเตือนอีกทีว่าการลงทุนแนวเทคนิค หรือ การดูเส้นค่าเฉลี่ยที่พี่ทุยแนะนำ เป็นเพียงหนึ่งในวิธีการดูแนวโน้มของราคาที่ได้รับความนิยมเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า ถ้าเราลทุนตามหลักการนี้แล้วจะได้กำไรทุกครั้งเสมอไป
สำหรับคนที่ทำงานประจำไปด้วย พี่ทุยแนะนำว่านอกจากปัจจัยทางเทคนิค ก็ควรดูปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นประกอบด้วย ก็จะช่วยทำให้เราเห็นแนวโน้มได้ชัดเจนมากขึ้น เพราะสุดท้ายแล้วยังไงหุ้นในระยะยาว ก็จะวิ่งตามปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นอยู่แล้ว แต่การจับจังหวะการลงทุนที่หาราคาที่น่าเข้าซื้อในแต่ละช่วงเวลา การลงทุนแนวเทคนิคจะช่วยทำให้เราดูได้แม่นยำมากขึ้น
ก่อนจะจากกันไป พี่ทุยขอแนะนำซีรีส์การเงิน ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน รับรองว่าใครติดตามจนจบ เล่นหุ้นเป็นแน่นอน ! ไปเรียนรู้พร้อม ๆ กัน คลิกที่นี่เลย..
oxvow.com
vreyro linomit