ปีที่ผ่านมาต้องถือเป็นปีหฤโหดสำหรับคนที่มีกองทุนหุ้นเวียดนาม เพราะว่าหุ้นเวียดนามร่วงจนได้รับตำแหน่งตลาดหุ้นที่ทำผลงานแย่ที่สุดในโลกไปครอง วันนี้พี่ทุยจะมาชวนจับยามสามตาส่องอนาคต หุ้นเวียดนาม 2023 กันว่าปีนี้จะรุ่งหรือจะร่วง
พี่ทุยขอสรุปสถานการณ์ตลาดหุ้นเวียดนาม ปี 2022 สั้น ๆ แบบนี้
สรุป ความเคลื่อนไหวตลาด หุ้นเวียดนาม ปี 2022
- VN-Index ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม สิ้นปี 2022 ปิดที่ 1,007 จุด – 491 จุด (-32.78%) จากสิ้นปี 2021
- วันที่ 16 พ.ย. 2022 ดัชนีลงลึกที่สุดไปอยู่ที่ 873.78 จุด
- ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ FLC Group ถูกจับกุมในข้อหาปั่นหุ้น ส่วนประธานบริษัท Tan Hoang Minh Group บริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในเวียดนามถูกจับกุมข้อหาทุจริตหุ้นกู้ ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์เดินหน้าปราบปรามการคอรัปชัน ทำให้นักลงทุนสูญเสียความเชื่อมั่นในระยะสั้น
- ตลาดหุ้นเวียดนามติดอันดับทำผลงานแย่ที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นทั่วโลกในปี 2022
- ตลาดเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยลบภายนอก ทั้งอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นรวดเร็ว ส่งผลกระทบทำให้เงินดองอ่อนค่า รวมถึงสงครามยูเครน และสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่อื่น
หุ้นเวียดนาม ตัวไหนดี
5 หุ้นเวียดนามที่ราคาปรับขึ้น/ลงมากที่สุดในปี 2022
ถ้าดูชื่อหุ้นที่ราคาปรับลดลงที่สุด พี่ทุยต้องบอกว่า หลายบริษัทเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารที่ถูกจับกุมเกี่ยวข้องอยู่ ก็เลยทำให้หุ้นบริษัทได้รับผลกระทบไปด้วย
เมื่อไปดูดัชนี MSCI Vietnam Index ซึ่งแสดงผลการดำเนินงานหุ้นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ในตลาดหุ้นเวียดนาม ครอบคลุม 99% ของหุ้นที่หมุนเวียนในตลาด พบว่า ให้ผลตอบแทน -45.22% ในปี 2022 เป็นการติดลบมากกว่าเมื่อเทียบกับ MSCI Frontier Markets ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงานของหุ้นในตลาดชายขอบโดยรวม (ตลาดชายขอบ หรือ Frontier Markets คือ ตลาดที่รอก้าวขึ้นเป็นตลาดเกิดใหม่ในอนาคต)
และก็น้อยกว่าเมื่อเทียบกับดัชนีที่ชี้ดผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลกอย่าง MSCI All Country World Index ที่ -18.40% ต่างกันสุดขั้วกับปี 2021 ที่เวียดนามทำผลงานได้ดีที่สุด
ที่มา https://www.msci.com
ทิศทางตลาด หุ้นเวียดนาม 2023
คราวนี้ เมื่อต้องคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเวียดนามปีนี้ จะไปทางไหน พี่ทุยมองว่า ด้วยความที่ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นตลาดหุ้นที่แย่ที่สุดในโลกไปแล้วในปี 2022 .ฉะนั้นในปี 2023 ตลาดหุ้นเวียดนามก็น่าจะกลับมาให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจได้อีกครั้ง แต่ระหว่างทาง ก็คงเต็มไปด้วยความผันผวนมากอยู่เหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าทางการเวียดนามจะมีปราบปรามการปั่นหุ้นเหมือนที่เกิดขึ้นในปี 2022 รึเปล่า
นอกจากนี้ ยังต้องจับตา ภาคอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามที่มีปัญหาฟองสบู่คล้ายๆ กับจีน ว่าจะมีปัญหาการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ ส่วนอีกเรื่องที่มีผลกับตลาดหุ้นไม่แพ้กันก็คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักทั่วโลกก็ยังไม่นิ่ง ฉะนั้น ก็อาจจะส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นทั่วโลกได้เป็นระยะๆ
พี่ทุยลองไปรวบรวมมาว่า มีสถาบันต่างๆ ประเมินตลาดหุ้นเวียดนามปี 2023 ไว้ยังไงบ้าง ก็พบ ดังนี้
สรุป คาดการณ์ ดัชนี หุ้นเวียดนาม (VN-Index)
1. VinaCapital บริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
มองว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนในเวียดนามน่าจะเติบโตน้อยลง แต่ตลาดมีโอกาสโต ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามปี 2023 ยังเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง จากการส่งออกชะลอตัว และการว่างงานเพิ่มขึ้น ค้าปลีกเติบโตชะลอตัว หลังจากการฟื้นตัวในปี 2022 ส่วนความเสี่ยงอื่นที่ต้องจับตา คือ ตราสารหนี้อสังหาริมทรัพย์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน มากกว่า 7,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะกระทบภาพกำไรของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และธนาคาร ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ในตลาด
ทั้งนี้ หลายองค์กร คาดการณ์ กำไรบริษัทจดทะเบียนจะชะลอตัว แต่ไม่ได้เป็นประเด็นที่ต้องโฟกัสของตลาดหุ้น นักลงทุนจะมองที่ปัจจัยสนับสนุนอีกหลายอย่าง ได้แก่
1. การลงทุนภาครัฐ ในโครงการสำคัญ การเบิกจ่ายเงินลงทุนน่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ และแรงกดดันค่าก่อสร้างจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
2. จีนเปิดเศรษฐกิจ ผ่อนคลายการควบคุม เป็นผลบวกกับเศรษฐกิจหลายส่วนของเวียดนาม เช่น นำเข้า ส่งออก ท่องเที่ยว และวัตถุดิบ
3. อัตราแลกเปลี่ยนและดอกเบี้ยลดลงจะช่วยให้บางธุรกิจเข้าถึงเงินทุนและสภาพคล่องจะได้รับแรงกดดันน้อยกว่าปีก่อน
4. ส่งออกไปสหรัฐฯ ยุโรปจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี กำไรจะเติบโตอีกครั้ง จากฐานต่ำในปี 2022 ที่ส่งออกชะลอตัว นอกจากนี้ยังมีเรื่องต้นทุนขนส่งลดลง ราคาน้ำมันลดลง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง และการเติบโตของกำไรบริษัท
2. Rong Viet Securities (VDSC) บริษัทหลักทรัพย์ในเวียดนาม
คาดว่า ปี 2023 ตลาดหุ้นเวียดนามยังเต็มไปด้วยความท้าทายที่นักลงทุนต้องระมัดระวัง โดยคาดว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งอาจจะปรับลดลง เมื่อเทียบกับปี 2022 ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนามในปี 2023 อาจเคลื่อนไหวขึ้นลงไม่มากในช่วงครึ่งปีแรก โดยอยู่ในกรอบ 930 – 1,060 จุด เพราะขาดปัจจัยสนับสนุน
ส่วนครึ่งปีหลัง ดัชนีอาจปรับขึ้นไปอยู่ในระดับ 1,200-1,270 จุด ได้ เนื่องจากคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 4.6% ในช่วงสิ้นปี 2023 ขณะที่กิจกรรมของภาคธุรกิจก็น่าจะเริ่มฟื้นตัว และตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชน ก็น่าจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2023 เป็นต้นไป
3. VNDIRECT Securities Joint Stock Company บริษัทหลักทรัพย์ในเวียดนาม
คาดว่า VN-Index น่าจะปรับขึ้นไปสู่ระดับ 1,300 – 1,350 จุดได้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 บนพื้นฐานคาดการณ์ P/E ที่ 12-12.5 เท่า และ กำไรเติบโต 14%
สำหรับความเสี่ยงขาลงของตลาดหุ้น ประกอบด้วย แรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังสูงอยู่ ทำให้ธนาคารกลางยังไม่สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนโอกาสการปรับขึ้นของตลาดหุ้น ประกอบด้วย แรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐที่จะเข้าไปจัดการกับปัญหาหุ้นกู้ภาคเอกชน และตลาดหุ้นเวียดนามอาจจะได้รับการยกระดับเร็วขึ้นจาก MSCI ผู้จัดทำดัชนีชี้วัดหุ้นทั่วโลกที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ให้เป็นตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) จากปัจจุบันอยู่ในกลุ่มตลาดชายขอบ
4. PYN ผู้จัดการกองทุนฟินแลนด์
มองว่า ตลาดหุ้นเวียดนามจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งในปี 2023 หลังจากทำผลงานได้แย่ในปี 2022 ซึ่งเป็นผลพวงจากเงินดองอ่อนค่า อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยมองว่า นักลงทุนจะมีความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นว่า ตลาดหุ้นเวียดนามจะเติบโตตามเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งได้ในอนาคต
พี่ทุยไปส่องดูว่า มีธุรกิจไหนในเวียดนามที่มีแนวโน้มได้รับอานิสงส์ไปกับแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจเวียดนามในปี 2023 ก็พบ ดังนี้
ธุรกิจที่น่าลงทุนในเวียดนาม
1. หุ้นพลังงาน เวียดนาม
เนื่องจากเวียดนามลงนามในสัญญาการร่วมเปลี่ยนผ่านพลังงาน หรือ Just Energy Transition Partnership (JETP) ในเดือน ธ.ค. 2022 ซึ่งภายใต้ข้อตกลงนี้จะมีผลกับการพัฒนาของตลาดพลังงานในวงกว้าง
โดยแผนพัฒนาพลังงานยังอยู่ในช่วงร่าง มีการทบทวนมาหลายครั้ง และจะทบทวนอีก ในรอบถัดไปเดือน พ.ย. 2023 ซึ่งรอบนี้จะไม่ได้มีแค่รายละเอียด ว่าเวียดนามจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังไง แต่จะได้รู้ด้วยว่า การลงทุนพลังงานหมุนเวียนอันไหนที่เป็นเป้าหมาย ดังนั้นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจนี้ก็เป็นกลุ่มที่น่าจับตาสำหรับนักลงทุน
2. หุ้นท่องเที่ยว เวียดนาม
เพราะคาดว่า การยกเลิกจำกัดข้ามแดนจะทำให้การท่องเที่ยวกลับมา โดย Doan Van Viet รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว คาดว่า เวียดนามจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 5 ล้านคนภายในสิ้นปี 2023 คิดเป็น 18% ของนักท่องเที่ยวปี 2019 ที่มี 19 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอาจจะยังห่างจากไทย ที่คาดว่าจะมีเข้ามา 25% ของปี 2019 เป็นเพราะข้อกำหนดด้านวีซ่า ไปจนถึงประเด็นความท้าทายเรื่องความยั่งยืน
3. หุ้น Tech
สตาร์ทอัปเวียดนามที่เฟื่องฟูในยุคการแพร่ระบาด ทำให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายที่ดึงดูดใจด้านการลงทุนในสตาร์ทอัพพอสมควรสำหรับในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจากรายงานของ Do Ventures และศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ (NIC) ของเวียดนาม คาดว่ามีการลงทุนในสตาร์ทอัปเวียดนาม 1,400 ล้านดอลลาร์ ในปี 2021 เพิ่มขึ้นจาก 874 ล้านในปี 2019 ซึ่งเงินลงทุนที่เข้ามา ก็จะตามมาด้วยความต้องการแรงงานเทคโนโลยีที่มีทักษะสูงในอาเซียน
ขณะที่รัฐบาลเวียดนาม มีนโยบายนำเศรษฐกิจไปสู่ดิจิทัล โปรโมทอุตสาหกรรม 4.0 ดังนั้นก็น่าจะมีการออกนโยบายมากขึ้นเพื่อรองรับ และมีการลงทุนเชิงกลยุทธ์ด้านบุคลากรไอที ดังนั้น ธุรกิจนี้ ก็เป็นอีกกลุ่มที่นักลงทุนต้องจับตา เพราะอยู่ในกลุ่มที่รัฐบาลสนับสนุน
4. หุ้นการผลิต
จากการที่คำสั่งซื้อปรับลดลงในช่วงการแพร่ระบาด ทำให้หลายโรงงานต้องเลิกจ้างคน หรือลดคนไป จึงมีคนงานจำนวนมากได้รับผลกระทบ และอาจจะมีคนงานบางส่วนที่ย้ายออกจากภาคการผลิตไปหางานทำภาคอื่น แต่ในเวลาเดียวกัน ก็คาดว่าจะมีแรงงานส่วนเกินในตลาดที่รอหางานอยู่ ทำให้ผู้ผลิตขยายการดำเนินงานได้ง่ายขึ้น ซึ่งการผลิตเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจเวียดนาม จะมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างมาก ดังนั้นในปี 2023 นักลงทุนก็ต้องจับตาความเคลื่อนไหวในธุรกิจนี้ให้ดีเช่นกัน
ลงทุน หุ้นเวียดนาม 2023
มาถึงตรงนี้ พี่ทุยมองว่า ตลาดหุ้นเวียดนาม เป็นตลาดที่น่าสนใจอยู่สำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะยังไงแนวโน้มในอนาคต เศรษฐกิจเวียดนามจะต้องโตไปไกลกว่านี้แน่นอน ด้วยจำนวนประชากรส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ในวัยทำงาน บวกกับเป็นจุดภูมิศาสตร์สำคัญที่ทั่วโลกมาตั้งฐานการผลิต
อย่างไรก็ตามถ้ามองระยะสั้น ๆ เราคงยังได้เห็นตลาดหุ้นเวียดนามผันผวนได้อีกมาก เพราะเป็นตลาดที่มีนักลงทุนรายย่อยจำนวนมาก การเก็งกำไรระยะสั้นก็จะสูง แถมตลาดนี้ ยังมีเรื่องนโยบายของรัฐบาลต้องจับตาพอ ๆ กับจีน ว่า จะมีการปราบปรามอะไรอีกรึเปล่า ฉะนั้น ถ้าคิดจะลงทุนเวียดนาม ต้องลงทุนยาว ๆ ไปเลย ถ้าลงทุนสั้น ๆ ก็มีโอกาสขาดทุนได้พอสมควร
ส่วนช่องทางการลงทุนในหุ้นเวียดนามนั้น ก็มีทั้ง
- การลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายไปคัดเลือกลงทุนในตลาดหุ้นเวียดนาม
- ลงทุนผ่านกองทุนรวมดัชนี หรือ ETF ที่อ้างอิงผลตอบแทนกับตลาดหุ้นเวียดนาม
- ไปลงทุนตรงในตลาดหุ้นเวียดนามเลย
- ลงทุนผ่าน DR หรือตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ ที่ไปลงทุนในหุ้นหรือ ETF ในเวียดนาม ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย DR ที่จดทะเบียนซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เอาเป็นว่า ถ้าคิดว่าเวียดนามคือตลาดหุ้นที่ใช่สำหรับอนาคต ก็เลือกลงทุนไปเลยตามช่องทางที่สะดวก แล้วก็รอดูกันไปยาว ๆ
อ่านเพิ่ม
