[วิเคราะห์] ตลาดหุ้นจีน 2023 ยังน่าลงทุนอยู่มั้ย ?

[วิเคราะห์] วันนี้ ตลาดหุ้นจีน 2023 น่าลงทุนไหม ?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • การที่จีนประกาศให้คนที่จะเดินทางข้ามแดนเข้ามาในจีนไม่ต้องกักตัว นับตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2023 ส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นจีนทันทีหลังประกาศออกมา และโบรกเกอร์ในจีนต่างมองว่าอนาคตหุ้นจีนปี 2023 น่าจะสดใส
  • นักลงทุนสถาบันระดับโลก ส่วนใหญ่ มองว่า หุ้นจีนน่าสนใจในปี 2023 จากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังเปิดเมือง ขณะที่รัฐบาลส่งเสริมนโยบายพึ่งพาตนเองทั้งด้านการบริโภค และเทคโนโลยี ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเหล่านี้น่าสนใจ  
  • หุ้นจีนถือว่าราคาลงมามากในปี 2022 จนมูลค่าน่าสนใจ ราคาถูก จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนในการคัดเลือกหุ้นดีราคาถูก เพื่อลงทุนระยะยาว 

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ตลาดหุ้นจีน เป็นหนึ่งในตลาดที่ร่วงไปเยอะพอสมควรในปี 2022 จากประเด็นสำคัญเรื่องการปิดประเทศ ปิดเมือง ใช้นโยบาย zero-Covid หรือการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศให้เป็นศูนย์ บวกกับภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ดูมีปัญหาฟองสบู่ แต่ดูเหมือนปี 2023 นี้ ตลาดหุ้นจีนจะเจอบรรยากาศฟ้าเปิดมากขึ้น

วันนี้พี่ทุยก็เลยอยากพาทุกคนมาติดตามกันว่า นักลงทุนสถาบันระดับโลก มีมุมมองกับตลาดหุ้นจีนในปี 2023 อย่างไรบ้าง ถึงเวลาที่เราลงทุนหุ้นจีนได้แล้วยัง หรือถ้าเราลงทุนอยู่แล้ว และตอนนี้กองทุนหุ้นจีนติดลบ จะทำยังไงดี 

แนวโน้ม หุ้นจีน หลังเปิดประเทศ 

พี่ทุยขอเกริ่นก่อนว่า ปลายปี 2022 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศข่าวเซอร์ไพร์สส่งท้ายปีออกมาว่า พร้อมเปิดให้คนที่จะเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาในจีน เข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 2023 เป็นต้นไป แต่ยังคงข้อแม้ว่า ก่อนจะเข้าประเทศ ต้องแสดงผลตรวจเชื้อโควิดด้วยวิธี PCR เป็นลบ ภายในไม่เกิน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทาง

ข่าวนี้ถือว่ามีผลกับตลาดการลงทุนทั่วโลกพอสมควร เนื่องจากจีนปิดประเทศมานาน นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2022 ซึ่งประกาศสำคัญนี้ เป็นการส่งสัญญาณการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด แทนที่จะเป็น zero-Covid เหมือนในอดีต

นักลงทุนส่วนหนึ่ง มองเป็นบวกว่า การเปิดประเทศครั้งนี้จะทำให้เงินลงทุนต่างชาติไหลกลับเข้าไปลงทุนในจีน ขณะที่คนจีนก็มีความต้องการใช้จ่ายรออยู่แล้ว หลังเปิดประเทศ ก็น่าจะมีการใช้จ่ายบริโภคสูง

แต่อีกส่วนหนึ่งก็มองกลับกันว่า ระบบสาธารณสุขในจีนยังไม่พร้อมรับมือ ก็คาดว่าเมื่อไม่มีการกักตัวแล้ว ต่อไปพื้นที่ไหนที่โควิดยังไม่ระบาดในวงกว้าง ก็อาจระบาดสูงได้ และอาจจะทำให้ยอดการระบาดขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด ขณะเดียวกัน ในช่วงที่การระบาดเพิ่มสูงนั้น ก็อาจจะกระทบความสามารถในการผลิตของโรงงานในจีนได้ เพราะคนงานจำนวนมากอาจจะป่วย

อัตราผลตอบแทนของดัชนีหลัก ตลาดหุ้นจีน ปี 2022 (YoY)

A-Shares

  • China A50 ลดลง -17.16%
  • Shanghai Composite Index ลดลง -15.39%
  • Shenzhen Component Index ลดลง -26.33%

H-Shares

  • Hang Seng Index ลดลง -17.51%

MSCI China Index ลดลง -23.54%

หมายเหตุ : MSCI China Index เป็นดัชนีที่เป็นตัวแทนหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่จดทะเบียนทั้งในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ (A-Shares) ตลาดหุ้นฮ่องกง (H-Shares) และตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ADRs)

โบรกเกอร์จีนมอง หุ้นจีน ปี 2023 น่าลงทุนไหม 

ถ้ามามองในมุมการลงทุน ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทันทีที่ประกาศนี้ออกมา ก็พบว่า หลังจากการประกาศของจีน หุ้นปรับขึ้นทันที ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ในจีน ได้แก่ Citic Securities , CSC Financial และ Everbright Securities พร้อมใจกันออกมาแสดงความคิดเห็นว่า หุ้นจีนมีอนาคตที่สดใสในปี 2023 นี้ จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว มูลค่าหุ้นที่ดึงดูดใจ และการยอมรับความเสี่ยงในระดับที่เพิ่มขึ้นได้ 

ขณะที่ Guotai Junan Securities ระบุว่า ในระยะสั้น ตลาดหุ้นจีนจะยังผันผวน แต่ถ้ามองในระยะยาว ระดับราคาปัจจุบันของหุ้นจีน ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ โดยนักลงทุนสามารถเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน และการบริโภค ที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ 

ตลาดหุ้นจีน ในมุมนักลงทุนทั่วโลก 

คราวนี้พี่ทุยจะพามาดูมุมมองของนักลงทุนสถาบันระดับโลกกันบ้างว่า แต่ละค่าย ประเมินความน่าสนใจของตลาดหุ้นจีนไว้ยังไง ซึ่งพี่ทุยต้องบอกไว้ก่อนว่า ส่วนใหญ่ก็วิเคราะห์ตลาดหุ้นจีนกันมาก่อนที่จีนจะประกาศเปิดการเดินทางข้ามแดนแบบไม่ต้องกักตัวแล้ว ซึ่งมุมมองโดยรวม ก็ค่อนข้างเป็นบวก 

สรุปปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ ตลาดหุ้นจีน ในปี 2023 

ปัจจัยเชิงบวก ที่ส่งเสริมให้หุ้นจีนราคาขึ้น 

  •  การเปิดเมืองของจีน
  •  การที่จีนเน้นพึ่งพาตัวเองมากขึ้น มุ่งเน้นการบริโภคในประเทศควบคู่กับการส่งออก

ปัจจัยเชิงลบ ที่ทำให้หุ้นจีนราคาดิ่งลง 

  • การเพิ่มกำลังทหารของสหรัฐฯ – จีน และความขัดแย้งระหว่างไต้หวัน – จีน ในประเด็นความพยายามรวมไต้หวันเข้ากับจีน  
  • ความสัมพันธ์ทางการค้าของสหรัฐฯ – จีน ที่แตกหัก
  • วิกฤติหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์จีน ที่ยังทำให้ตลาดอสังหาฯ เป็นขาลงต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ – จีน  และการบริหารเศรษฐกิจของฝ่ายบริหารพรรคคอมมิวนิสต์ชุดใหม่ ที่อาจส่งผลได้ทั้งเชิงบวกและลบ โดยต้องติดตามต่อไปในอนาคต

สรุปมุมมองจากสถาบันการลงทุนที่มีต่อ ตลาดหุ้นจีน

  • Citi Global Wealth ในระยะยาวยังไม่แน่นอน

เศรษฐกิจจีน คาดว่าจะเติบโตได้ 4.5% ในปี 2023 หุ้นในจีนและฮ่องกงมีโอกาสฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง และอุตสาหกรรมที่รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน

ขณะที่ภาพรวมหุ้นจีนจะทำผลการดำเนินงานออกมาได้ดี หลังจากที่ผลการดำเนินงานเป็นลบมา 2 ปีติดต่อกัน 

อย่างไรก็ตามถ้ามองระยะยาว หุ้นจีนก็ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนอยู่ เนื่องจากเราเห็นการแบ่งข้างที่ชัดเจนของขั้วอำนาจตะวันออกและตะวันตก

คาดการณ์ ราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ซึ่งใช้ดูความถูกแพง ของหุ้นจีนปี 2023 จะอยู่ที่ 8.4 เท่า ถูกลงจากปี 2022 คาดการณ์ไว้ 9.6 เท่า

  • Invesco หุ้นจีนกลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภค กลุ่มสุขภาพ และบริษัทอินเทอร์เน็ตน่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ 

ประเด็นสำคัญของตลาดจีนในปี 2023 คือ เสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการเปิดเมือง 

ขณะที่การเปลี่ยนนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคคอมมิวนิสต์ ที่หันมาให้ความสำคัญกับการพึ่งพาตนเองมากขึ้น ทำให้จีนมุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงของชาติ การพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี มุ่งเน้นการบริโภคในประเทศ และการเพิ่มความแข็งแกร่งด้านห่วงโซ่อุปทานเพื่อการเติบโตระยะยาว จะทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่นโยบายสนับสนุนได้ประโยชน์ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานทางเลือก เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ 

โดยรวมแล้ว หุ้นจีนในเวลานี้ซื้อขายบนราคาที่มีส่วนลด เมื่อเทียบกับตลาดพัฒนาแล้ว มองว่า มูลค่าหุ้นที่ถูกจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นจีนทั้งที่จดทะเบียนในจีน และนอกตลาดจีน โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากความต้องการในประเทศฟื้นตัวหลังการเปิดเมือง เช่น กลุ่มที่เกี่ยวกับการบริโภค กลุ่มสุขภาพ และบริษัทอินเทอร์เน็ต 

  • T. ROWE PRICE หุ้นจีนกลุ่มห้าง โรงแรม พลังงานน่าสนใจ

T. ROWE PRICE มองเห็นสัญญาณการกลับมาของหุ้นจีน จากการที่นักลงทุนสถาบันถือหุ้นจีนในระดับต่ำสุดที่เคยมีมาในรอบ 5 ปี และมูลค่าหุ้นจีนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ทำให้ผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงน่าสนใจมากขึ้น

ขณะที่ กำไรของบริษัทจดทะเบียนในจีนปี 2023 คาดการณ์ว่าจะเติบโต โดยกำไรต่อหุ้นน่าจะเพิ่มขึ้น 10% จากที่คาดว่าจะอยู่ในระดับ 2% ในปี 2022 สูงกว่าการเติบโตของกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยทั่วโลก ที่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 3.7%

สำหรับธีมหุ้นจีนที่น่าสนใจ น่าจะเติบโตได้ดี ได้แก่ การรับสมัครออนไลน์ กลุ่มชอปปิง ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า และโรงแรม นอกจากนี้ยังมีธุรกิจที่ทำผลงานได้ดีในช่วงที่สภาพแวดล้อมมหภาคที่อ่อนแอ เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ และบริษัทอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน การต่อเรือ และบริการบ่อน้ำมัน

  • Russell Investments หุ้นจีนน่าสนใจจากราคาที่ถูก

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่หยุดชะงักเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา แม้ว่ารัฐบาลจีนจะประกาศมาตรการใหม่ที่มาสนับสนุนแล้ว แต่ก็คงไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนได้ 

โดยคาดว่า จีนจะมีมาตรการที่เพิ่มความเชื่อมั่นในกลุ่มที่อยู่อาศัย และกระตุ้นการใช้จ่าย เมื่อเศรษฐกิจเริ่มเปิดออกมา นอกจากนี้ต้องให้ความสำคัญกับการประกาศลงทุนในเซมิคอนดักเตอร์ของรัฐบาลจีน หลังรัฐบาลสหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิปให้จีน 

ขณะที่หุ้นจีน ดูมีราคาถูก หลังจากถูกขายออกมามากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ในการไปคัดเลือกหุ้นจีนลงทุน  

  • BlackRock มองว่า หุ้นจีน มีความเสี่ยงสูง

เรายังคงน้ำหนักการลงทุนหุ้นจีน ไว้ในสัดส่วนเดิมที่นักลงทุนจัดสรรเอาไว้แต่เดิมในพอร์ต โดยมองว่า แม้กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มกลับมา แต่เศรษฐกิจจีนยังเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว ขณะที่ทางการควบคุมเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด ทำให้สินทรัพย์จีนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 

ตลาดหุ้นจีน กลุ่มไหนน่าลงทุนในปี 2023 บ้าง ?

หุ้นจีน น่าซื้อไหม 2023 ?

โดยรวมแล้ว พี่ทุยมองว่า ปี 2023 ก็เป็นปีที่หุ้นจีนมีอนาคตพลิกฟื้นชะตากรรม จากที่ติดลบไปหนัก ๆ ก็คงจะได้กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง

แต่…อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าปัจจัยกังวลทั้งหลายเกิดขึ้น หรือมีเรื่องไม่คาดคิดอะไรมาอีก 

ดังนั้นพี่ทุยแนะนำว่า ถ้าเป็นคนที่ลงทุนระยะยาว ปี 2023 ก็เข้าไปเก็บหุ้นจีนกันได้ แต่ไม่แนะนำให้เข้าทีเดียวแล้วจบ เพราะระหว่างทางที่หุ้นจีนฟื้นตัว อาจจะผันผวนปรับลงได้บ้าง ดังนั้นแบ่งเงินไว้คอยซื้อเมื่อเห็นหุ้นจีนปรับลงอีกในอนาคตดีกว่า โดยถ้าเงินลงทุนไม่ได้สูงมาก กองทุนรวมหุ้นจีนก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ลงทุนหุ้นจีนได้สะดวก 

ถ้าไม่แน่ใจว่า จังหวะไหนจึงควรเข้าซื้อกองทุนหุ้นจีน ก็เดินทางสายกลางด้วยการทยอยซื้อด้วยเงินเท่ากันทุกเดือน (dca) ไปเลย ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย

ส่วนใครลงทุนกองทุนหุ้นจีนอยู่แล้วขาดทุนอยู่ จังหวะนี้ก็เป็นโอกาสทองของการช้อนแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำ dca ไปเลยก็ได้เช่นกัน แต่ถ้ายังรู้สึกกังวลกับความไม่แน่นอน หรือรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อยลง หรือในพอร์ตมีการลงทุนหุ้นจีนเต็มอัตราศึกแล้ว ก็แนะนำให้ถือต่อไปด้วยใจนิ่งๆ เมื่อตลาดจีนพลิกฟื้นกลับมา เดี๋ยวพอรต์กองทุนจีนก็กลับมาเขียวได้เอง

สุดท้ายแล้ว พี่ทุยก็ต้องย้ำว่า ก่อนลงทุนในตลาดหุ้นจีน ไม่ว่าจะลงทุนผ่านเครื่องมือไหน ๆ นักลงทุนต้องกลับมาดูตัวเองก่อนว่า รับความเสี่ยงของธรรมชาติตลาดจีนที่มีความเฉพาะตัวได้มั้ย รับมือกับความไม่แน่นอนที่มีสูงไหวรึเปล่า เพราะโอกาสการเติบโตของจีน ใคร ๆ ก็รู้ว่าดี แต่ความเสี่ยงเรื่องความไม่แน่นอนในจีน ก็สูงไม่แพ้ที่ไหนในโลกเช่นกัน ถ้ามั่นใจว่าตัวเองพร้อม ไม่หวั่นไหวไปกับข่าวง่ายๆ พี่ทุยก็มองว่า ตลาดหุ้นจีนก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile