“ออมหุ้น” ไปเรื่อยๆ ซื้อหุ้นไปยาวๆ แบบไม่ต้องคิดอะไร

คำว่า “ออมหุ้น” หรือออมในหุ้นก็ตาม พี่ทุยเชื่อว่าคำนี้เป็นคำที่เราต้องผ่านหูกันมาบ้างอย่างแน่นอน ความหมายของคำว่าออมหุ้นจริงๆแล้วก็คือ การที่เราแบ่งเงินออกมาเท่าๆกันทุกเดือนแล้วเพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น เช่น หักเดือนละ 10% จากเดิมที่เราเอาไปหยอดกระปุกหรือฝากธนาคารเพื่อรับดอกเบี้ย ก็เปลี่ยนเป็นเอาเงินไปลงทุนในหุ้นแทนแบบนี้แหละที่เราเรียกว่าการออมหุ้น

ถ้าถามพี่ทุยว่าการออมหุ้นไปเรื่อยๆ ถือไปเรื่อยแบบไม่ต้องคิดอะไร ทุกต้นเดือนเงินเดือนออกก็หักออกมาซื้อไม่ว่าจะถูกก็ซื้อ จะแพงก็ซื้อถือไปเรื่อยๆ พี่ทุยก็ว่าเป็นวิธีการลงทุนที่ดีอยู่เหมือนกันนะ เพราะนอกเหนือจากเวลาที่เราจะดูพื้นฐานของหุ้นแล้ว ว่าอัตราการเติบโตเป็นยังไง การทำกำไรของบริษัทเป็นยังไง ดูเศรษฐกิจเชิงมหภาคในภาพใหญ่ว่ามีอะไรสนับสนุน แล้วเราก็ยังสามารถดูจากกราฟหรือที่เรียกว่าการดูเชิงเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อที่ดีได้อยู่เหมือนกัน แต่นอกเหนือจาก 2 เรื่องที่ดูแล้วยังมีอีกเรื่องนึงที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือเรื่อง “จิตวิทยาการลงทุน”

จิตวิทยาการลงทุนถ้าเอาแบบง่ายเลยก็คือ เราจะสามารถทำแผนที่เราวางไว้ได้หรือเปล่า​ ? ซื้อได้ตามแผนมั้ย ? ขายได้ตามที่ตั้งใจหรือเปล่า ? ฟังแล้วดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ แต่พี่ทุยบอกได้เลยว่านักลงทุนพลาดกันตรงนี้ทั้งนั้นแหละ เช่น เวลาที่เราวิเคราะห์แล้วว่าตอนนี้ตลาดหุ้นแพงจนเกินไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่เราควรทำก็คือรอให้ตลาดปรับตัวลงก่อนค่อยซื้อหรือเข้าลงทุน แต่เชื่อมั้ยว่าเวลาที่เราเห็นตลาดขึ้นไปได้อีกเรื่อยๆ หลายครั้งก็จะอดใจไม่ไหว สุดท้ายก็เข้าไปซื้อจนได้ แล้วเราก็มักจะดอยตรงจุดที่เราเข้าไปนั่นแหละ

หรืออย่างเวลาที่เราเห็นหุ้นตัวนึงราคาปรับตัวลงรุนแรงอย่างไม่มีสาเหตุหรือที่เรียกว่า panic sell ตามหลักการแล้วเราควรที่เข้าซื้อเพราะว่าเกิด panic sell พอเป็นแบบนี้หลายๆคนมักจะขายตามมากกว่าที่จะเข้าไปซื้อ เพราะเวลาที่เราเจอการลงทุนจริงๆมักจะมีเรื่องของอารมณ์อยู่ในการลงทุนเต็มไปหมด ต่อให้เป็นนักลงทุนมือเก๋าก็พลาดเรื่องตรงนี้อยู่บ่อยเช่นกัน

การออมหุ้นไปเรื่อยๆจะทำให้เราไม่สนว่าตลาดจะเป็นยังไง ราคาหุ้นจะขึ้นหรือลง การออมหุ้นอาศัยอยู่หลักการเดียว คือ ขอให้หุ้นที่เราเข้าออมหุ้นนั้นเป็นขาขึ้นในระยะยาวเท่านั้นก็พอ นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมการออมหุ้นถึงมักจะใช้หุ้นตัวใหญ่มากกว่าหุ้นตัวเล็ก เพราะหุ้นตัวใหญ่โอกาสที่จะมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นแน่นอนกว่าหุ้นตัวเล็กนั่นเอง ทำให้บางครั้งสำหรับคนที่คัดเลือกหุ้นไม่เก่งมาก มักจะใช้ Passive Fund อย่างพวก SET50 ในการออมแทนก็มีอยู่เหมือนกัน

ก็อย่างที่เรารู้กันว่าในระยะยาวตลาดหุ้นยังไงก็เป็นขาขึ้นอยู่แล้ว ถ้าเรามีเป้าหมายการเงินที่เป็นระยะยาวมากๆอย่างเกษียณอายุ การออมหุ้นก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่นะพี่ทุยว่า ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมการลงทุนทุกครั้งนาจา