มากันถึง EP14 ของซีรีส์กองทุน เลือกลงทุนง่ายนิดเดียวกันแล้ว ในตอนนี้พี่ทุยจะชวนไปรู้จักกับ กองทุนรวมทองคำ กันให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น
ทองคำถือว่าเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรมีติดพอร์ต เพราะเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่มักจะทำผลตอบแทนได้ดี ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตได้ในเวลาที่ตลาดหุ้นย่ำแย่ หรือในทางสถิติเราจะเรียกทองคำว่า มีค่า Correlation สวนทางกับตลาดหุ้น
ดังนั้นการมีทองคำช่วยทำให้ภาพรวมของพอร์ตเรามีความเสถียรมากขึ้น หรือที่หลายคนอาจคุ้นเคยในวงการการลงทุน มักพูดกันว่า ทองคำ คือ Safe Haven หรือที่หลบภัยในเวลาที่ตลาดผันผวนนั่นเอง
กองทุนรวมทองคำ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนอยากลงทุนทองคำ
หลายคนอาจเกิดคำถามว่า ทองคำในประเทศไทยเราก็ดูจะไม่ได้หาซื้อยาก เดินไปที่ไหนก็มีร้านทองให้เราซื้อ แล้วเราจะลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำ ไปทำไมกัน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว พี่ทุยอยากจะบอกว่าการลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวมเองก็มีข้อดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น
1. ใช้เงินลงทุนน้อย เริ่มต้นเพียง 1 บาทเท่านั้น
สำหรับใครที่อยากซื้อทองคำเพื่อลงทุนควรจะต้องซื้อทองคำแท่ง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วต้องมีขนาด 5 บาทขึ้นไปถึงจะไม่ต้องเสียค่าบล็อกอีก 50-150 บาท แปลว่าจะต้องมีเงินลงทุนต่อครั้งหลักแสนบาทขึ้นไปถึงจะลงทุนทองคำโดยตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ความปลอดภัยสูงกว่า (มาก)
ถ้าหากเราลงทุนทองคำโดยตรง เรื่องหนึ่งที่เราต้องคิดให้ดีเลยก็คือ จะเก็บทองคำไว้ที่ไหน เก็บอย่างไรให้ปลอดภัย เพราะถ้าเก็บไม่ดีมีโอกาสสูญหายได้ แปลว่าเราจะเสียเงินลงทุนทั้งก้อนได้เลย ซึ่งการลงทุนผ่านกองทุนรวมเราก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพื้นที่เก็บทองคำ ปลอดภัยหายห่วง
3. สภาพคล่องที่สูงกว่า
การซื้อขายกองทุนรวมทองคำสามารถทำได้ทุกวันทำการเหมือนกองทุนรวมทั่วไป แต่ในกรณีที่เราลงทุนทองคำโดยตรงแล้วเราต้องการขาย เราจำเป็นต้องเดินทางไปขายที่ร้านทองเท่านั้น นอกจากว่าเราจะซื้อขายผ่านระบบออนไลน์แล้วยังไม่ได้ถอนทองออกจากร้านทองมา เวลาขายก็สามารถทำได้ออนไลน์ได้เช่นกัน แต่โดยทั่วไปแล้วสำหรับใครที่ซื้อทองก็แนะนำว่าให้ถอนมาเก็บไว้ที่ตัวเองจะปลอดภัยมากที่สุด
เลือกลงทุนกองทุนรวมทองคำ ควรเลือกแบบไหนดี ?
สำหรับใครที่สนใจลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวมทองคำ พี่ทุยแนะนำเลยว่าให้เลือกกองทุนแบบ Passive ที่ไปลงทุนใน SPDR Gold Trust ที่เป็น ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น เพราะด้วยนโยบายการลงทุนของกองทุนจะซื้อทองคำแท่งเก็บไว้เท่านั้น ทำให้ราคาของกองทุนจะขยับขึ้นลงตามราคาทองคำค่อนข้างแม่นยำกว่า ETF ตัวอื่น ๆ
ซึ่งตอนนี้พี่ทุยก็ต้องบอกว่า ส่วนใหญ่กองทุนรวมทองคำเป็นแบบ Passive เกือบทั้งหมดอยู่แล้ว แต่เพื่อความแน่นอนต้องอย่าลืมไปดู Fund Fact Sheet ของกองทุนรวมประกอบด้วยว่ามีนโยบายลงทุนที่ไหน ซึ่งอย่างที่ทุกคนรู้กันว่ากองทุน Passive ที่ดีจะต้องเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนได้เหมือนกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) มากที่สุด ถึงจะเรียกว่าเป็นกองทุนรวมที่ดี
สำหรับรายชื่อกองทุนรวมทองคำ พี่ทุยแนะนำว่าสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.siamchart.com ในฟังก์ชัน Fund Compare จากนั้นให้เลือกที่ “FIF Gold Fund” หรือง่าย ๆ คลิกไปที่นี่ได้เลย พี่ทุยชี้ช่องทางลัดมาให้แล้ว
จากนั้นให้เข้าไปอ่าน Fund Fact Sheet ของแต่ละกองทุนว่ามีนโยบายลงทุนแบบ Passive ใน SPDR Gold Trust หรือไม่ และให้เลื่อนดูผลตอบแทนเมื่อเทียบกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) โดยให้เลือกกองทุนที่มีความใกล้เคียงกับดัชนีชี้วัดมากที่สุด
ลงทุนกองทุนรวมทองคำ อย่ามองข้ามนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
อีกหนึ่งเรื่องสำหรับใครที่อยากลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวม จะต้องอย่าลืมดูนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เพราะเป็นปัจจัยที่กระทบต่อผลตอบแทนของกองทุนรวมทองคำโดยตรงเลยก็ว่าได้
เพราะตลาดทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ตลาด COMEX ที่ถูกซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหลัก ดังนั้นเวลากองทุนจะไปลงทุนหรือซื้อทองคำที่ตลาด COMEX จะต้องแลกจากเงินบาทไปเป็นเงินดอลลาร์เพื่อเข้าลงทุน ซึ่งแปลว่า
1. ถ้าหากแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่า
ราคาทองคำที่เป็นรูปเงินบาทจะราคาสูงขึ้น เราก็จะได้กำไรมากขึ้น แปลว่าถ้าคาดการณ์แล้วว่าเงินบาทจะอ่อนค่า กองทุนรวมทองคำที่ไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Unhedged) จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
2. ถ้าหากแนวโน้มเงินบาทแข็งค่า
ราคาทองคำที่เป็นรูปเงินบาทจะราคาต่ำลง เราก็จะขาดทุนเรื่องของค่าเงิน แปลว่าถ้าคาดการณ์แล้วว่าเงินบาทจะอ่อนค่า กองทุนรวมทองคำที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน (Hedged) จะได้ผลตอบแทนที่ดีน่าสนใจมากกว่า
แต่สำหรับใครที่อยากรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และอยากลงทุนในตัวราคาทองคำในรูปเงินดอลลาร์จริง ๆ พี่ทุยก็แนะนำว่าเราสามารถเลือกลงทุนกองทุนรวมทองคำแบบ Unhedged ได้เลยเช่นเดียวกัน
ย้อนกลับไปอ่าน EP ก่อนหน้านี้
อ่าน EP ต่อไป