เวลานี้ต้องยอมรับว่าปัญหาเรื่อง “หนี้” กำลังเป็นปัญหาระดับประเทศเลยก็ว่าได้ วันนี้พี่ทุยเลยจะมาแจกวิธีการ “แก้หนี้ข้าราชการ” แบบ ‘ให้มีเงินเพียงพอใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน’ ได้อย่างทันทีทุกเดือนช่วยให้เราสามารถหายใจหายคอได้คล่องตัวมากขึ้น พร้อมกับแนะนำให้รู้จักกับ “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” อีกหนึ่งโครงการจาก ธนาคารกรุงไทย ที่มาตอบรับนโยบายแก้หนี้ครัวเรือนของรัฐบาล
และมาตรการแก้หนี้อย่างยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ข้าราชการไทยจะแก้ปัญหาหนี้ได้อย่างไร ? พี่ทุยสรุปมาให้เเล้ว !
ขั้นตอนแรก: ให้จัดทำ “บัญชีหนี้” ออกมาทั้งหมดว่า ณ ปัจจุบันมีหนี้อยู่ที่ไหนบ้าง มูลหนี้เท่าไหร่ โดนคิดดอกเบี้ยยังไง แล้วหนี้แต่ละตัวมีภาระการผ่อนชำระในแต่ละงวดเป็นยังไงบ้าง
จุดประสงค์ก็เพื่อมาจัดลำดับความสำคัญของหนี้ว่าจะต้องเริ่มต้นจัดการที่ตัวไหนก่อน
ปัญหาหนี้โดยส่วนใหญ่หลายคนมักจะซุกปัญหาไว้ใต้พรม ไม่เริ่มต้นจัดการกับปัญหาอย่างจริงจัง ทำให้พอปัญหาหนี้เรื่องส่งกลิ่นเหม็น ดอกเบี้ยเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สภาพคล่องเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง ปัญหาจากที่จัดการได้ง่าย ๆ ก็จะยากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ดังนั้นขั้นตอนแรกต้องเอาปัญหาออกมาให้หมดว่าเราซุกอะไรไว้บ้าง พอเราเห็นภาพรวมทั้งหมดเราก็จะสามารถเริ่มต้นจัดการปัญหาได้
สำหรับใครที่เป็น “ข้าราชการ” แล้วกำลังมีภาระหนี้สูง ซึ่งถูกหักเงินเดือนไปใช้หนี้จนเหลือน้อยกว่า 30% ของรายได้ต่อเดือน
ขั้นตอนที่ 2 : พี่ทุยแนะนำรวมหนี้กับ “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” จากธนาคารกรุงไทยที่เสนอ “สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ” ให้กับข้าราชการสำหรับการรีไฟแนนซ์หรือรวมหนี้โดยเฉพาะ
เพื่อให้สามารถมูฟออนวงจรหนี้ ช่วยให้ชีวิตดีอย่างยั่งยืนไม่กลับมาเป็นหนี้อีก เป็นหนึ่งในโครงการทางธนาคารกรุงไทยออกแบบมาเพื่อขานรับนโยบายแก้หนี้ครัวเรือนของรัฐบาลและมาตรการ แก้หนี้ข้าราชการ อย่างยั่งยืนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
โดย “โครงการสินเชื่อรวมหนี้ข้าราชการยั่งยืน” จะมีสินเชื่อ 2 มาตรการหลักให้ข้าราชการเลือก
มาตรการที่ 1: สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ทั้งสินเชื่อบ้าน (พร้อมขอ Top Up)* และสินเชื่อบ้านแลกเงิน* อัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่ 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา** และยกเว้นค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ประกัน
มาตรการที่ 2: สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา สำหรับใครที่สนใจ ติดต่อที่ได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 กด 99
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*สินเชื่อบ้าน (พร้อมเพิ่ม Top up) กรณีรีไฟแนนซ์หรือลูกค้าสินเชื่อรายเดิม + กู้เพิ่ม | สินเชื่อบ้านแลกเงิน (พร้อมเพิ่ม Top up) กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกันแบบปลอดภาระ
**อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา 4.49% ต่อปี โดยคำนวณจากวงเงินกู้ 1 ล้านบาท อายุสัญญาสูงสุด 40 ปี ผ่อนชำระ 4,700 บาท/เดือน | เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
ขั้นตอนที่สาม: จัดการรีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือรวมหนี้ (Debt Consolidation)
เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องได้แบบทันที หลักการก็คือให้เราไปกู้เงินกับสินเชื่อที่คิดดอกเบี้ยต่ำ ไปปิดหนี้ที่คิดดอกเบี้ยสูง ซึ่งก็จะทำให้เราเสียดอกเบี้ยน้อยลง รายจ่ายน้อยลง ช่วยให้มีเงินเหลือต่อเดือนมากขึ้น เพิ่มสภาพคล่องขึ้นได้แบบทันที
เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพมากขึ้น สมมติว่า ณ ปัจจุบันพี่ทุยมีหนี้อยู่ทั้งหมด 4 รายการ ประกอบไปด้วย
- สินเชื่อกรุงไทยวงเงินฉุกเฉิน ยอดหนี้ 100,000 บาท ดอกเบี้ย 13% ต่อปี
- สินเชื่อบ้านจากสถาบันการเงินอื่น ยอดหนี้ 1,000,000 บาท ดอกเบี้ย 6% ต่อปี
- ค่าบัตรเครดิต ยอดหนี้ 100,000 บาท ดอกเบี้ย 16% ต่อปี
- สินเชื่อบุคคลจากสถาบันการเงินอื่น ยอดหนี้ 200,000 บาท ดอกเบี้ย 24% ต่อปี
ซึ่งแปลว่าต้องจ่ายหนี้ทุกเดือนเท่ากับ 22,900 บาทต่อเดือน เลยทีเดียว
ทีนี้ วิธีการจัดการก็คือให้เราหาสินเชื่อใหม่ที่ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่เสีย ณ ปัจจุบัน โดยการรวมหนี้กับธนาคารกรุงไทย ด้วยดอกเบี้ยที่ต่ำจะช่วยให้เหลือผ่อนชำระเหลือเพียงเดือนละ 10,500 บาท ประหยัดเงินไปได้ 12,400 บาท ! คืนกลับมาเป็นสภาพคล่องให้เราสามารถเอาไปบริหารจัดการหนี้ส่วนอื่น ๆ ได้ด้วย
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
หมายเหตุ: สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.34% ต่อปี | สินเชื่อ Top up อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 4.33% ต่อปี | สินเชื่อบุคคล อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตลอดอายุสัญญา 6.75% ต่อปี | ผลการคำนวณเป็นเพียงประมาณการในเบื้องต้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการนำเสนอเท่านั้น ซึ่งการพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ย ค่างวด และเงื่อนไขอื่นๆ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาอนุมัติสำหรับลูกค้าแต่ละรายของธนาคาร และธนาคารจะแจ้งให้ลูกค้าแต่ละรายทราบ | เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
*คำนวณจากภาระหนี้ปัจจุบัน สินเชื่อบ้านวงเงิน 1,300,000 บาท ผ่อนระยะเวลา 30 ปี ดอกเบี้ย 6% ต่อปี โดยมียอดหนี้คงเหลือ 1,000,000 บาท | ค่าบัตรเครดิต ดอกเบี้ย 16% ต่อปี สมมติฐานภาระหนี้คงค้าง 100,000 บาท/เดือน เท่ากันทุกเดือน โดยผ่อนชำระขั้นต่ำ 8%
**คำนวณจากระยะเวลาการผ่อน 20 ปี สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์เงินต้น 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คำนวณเป็นยอดผ่อน 6,500 บาท/เดือน จำนวนดอกเบี้ยทั้งสัญญาประมาณการที่ 463,277.88 บาท พร้อมการขอวงเงินกู้เพิ่ม (Top up) วงเงิน 300,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.50% ต่อปี 3 ปีแรก หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ย 4.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คำนวณเป็นยอดผ่อน 2,000 บาท/เดือน จำนวนดอกเบี้ยทั้งสัญญาประมาณการที่ 132,486.22 บาท และสินเชื่อบุคคล คำนวณจากระยะเวลาการผ่อน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา คำนวณเป็นยอดผ่อน 2,000 บาท/เดือน จำนวนดอกเบี้ยทั้งสัญญาประมาณการที่ 17,749.81 บาท รวมยอดผ่อน 10,500 บาท/เดือน
หลังจากที่เราวางแผนจัดการรวมหนี้จนทำให้สภาพคล่องเราเหลือกลับคืนมาบางส่วนเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนที่สาม ธนาคารจะให้ “โปะหนี้” ก้อนที่ยังไม่ได้จัดการให้เรียบร้อย และแนะนำว่าให้ลูกค้ามีวินัยทางการเงิน ไม่ก่อหนี้เพิ่มใหม่ มูฟออนจากวงจรหนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
แค่ 3 ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยทำให้ทุกคนที่กำลังเจอปัญหาเรื่องหนี้สามารถบริการจัดการได้มากขึ้น มีสภาพคล่องเหลือเพิ่มขึ้นทันทีเลย หรือถ้าใครมีเทคนิคบริหารหนี้แบบไหนอีก อยากให้ Comment มาเล่าให้ฟังกันหน่อยนะ พี่ทุยรอเอาไปปรับใช้บ้าง อิอิ
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก https://krungthai.com/link/personal-loan-mnf-fb
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
*สินเชื่อแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา 4.49% ต่อปี รายละเอียดการคำนวณเพิ่มเติมดูได้ที่ www.krungthai.com | สินเชื่อแบบไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยคงที่ 6.75% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา | หมายเหตุ : สำหรับลูกค้าข้าราชการที่มีสินเชื่อกรุงไทยวงเงินฉุกเฉินและมีรายได้สุทธิต่อเดือนหลังจากหักภาระหนี้แล้วคงเหลือน้อยกว่า 30% ของรายได้ต่อเดือน โดยหน่วยงานต้นสังกัดมีบันทึกข้อตกลง (MOU) กับธนาคารและต้องเป็นข้าราชการที่ในอนาคตจะมีสิทธิได้รับหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอดจากกรมบัญชีกลางเมื่อเกษียณอายุและมีสิทธิจะได้รับบำนาญรายเดือนหลังเกษียณอายุ | ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. 67 – 31 ธ.ค. 67 | เงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
อ่านเพิ่ม