“หยุดสร้างหนี้” ดีจริงหรอ ? ทำไมบางคนเป็นหนี้แล้วรวย

หยุด “สร้างหนี้” ดีจริงหรอ ? ทำไมบางคนเป็นหนี้แล้วรวย แต่บางคนหมดตัวเพราะหนี้ 

   Money Buffalo

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ใครบอกให้ หยุด สร้างหนี้ อาจไม่จริงเสมอไปนะทุกคน ! เพราะจริงๆ แล้ว “สร้างหนี้” ไม่ได้เลวร้ายไปซะทั้งหมด มันก็เหมือนดาบสองคมนั่นแหละ ถ้าใช้เป็นก็ ‘รวย’ แต่ถ้าใช้ผิดก็ ‘ซวย’ ได้เลย ! เดี๋ยววันนี้พี่ทุย จะมาไขข้อข้องใจให้ว่า “หนี้” แบบไหนควรมีติดตัวไว้ และหนี้แบบไหนที่ต้องรีบกำจัดทิ้งก่อนชีวิตจะพัง !

แบบไหนที่เรียกว่า “หนี้รวย

1. หนี้บ้าน 

หลายคนจะเห็นเทรนด์ว่า “เช่า” ดีกว่า “ซื้อ” จนหลายคนลืมคิดไปว่า หนี้บ้านก็อาจจะมีข้อดีเหมือนกันนะ เช่น

  •  ประหยัดค่าเช่า ไม่ต้องเสียเงินทิ้ง
  •  บ้านมีราคาเพิ่มขึ้นตามเวลา
  • ได้สินทรัพย์ที่มีมูลค่าไว้

ตัวอย่าง ผ่อนบ้าน 10,000 บาท แต่ค่าเช่า 12,000 บาท  แบบนี้ “เป็นหนี้” = ประหยัดเงินได้เดือนละ 2,000 บาท แถมสุดท้ายเรายังได้เป็นเจ้าของบ้านที่มูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลาด้วย

2. หนี้ลงทุน 

หนี้ที่ดีบางครั้งก็อาจมาในรูปแบบ “การลงทุน” ที่ใครหลาย ๆ คนบอกว่ามันเสี่ยง แต่บางคนเลือกที่ยอมเสี่ยงเช่น

  • ลงทุนอสังหาฯ ให้เช่า
  • เปิดธุรกิจที่มีกำไรแน่นอน

ซึ่งเจ้าสัวหลาย ๆ คนก็เลือก “เป็นหนี้” แบบนี้แหละ เพราะเค้ารู้ว่า ผลตอบแทน > ดอกเบี้ย และนั่นคือหัวใจของ “หนี้รวย” นั่นเอง

3. หนี้การศึกษา 

การเรียนเป็นเรื่องสำคัญวัยที่เราต้องการอัปสกิลต่าง ๆ ที่จะช่วยทำให้เรารวยได้ในอนาคต อย่างเช่น

  • เรียนจบแล้วเงินเดือนเพิ่ม
  •  มีทักษะใหม่ทำเงินได้มากขึ้น

ตัวอย่าง

  • จบ ป.ตรี มีโอกาสได้เงินเดือน 15,000–18,000 บาทต่อเดือน
  • จบ ม.6 มีรายได้ขั้นต่ำ ~11,100 บาทต่อเดือน

จะเห็นได้ว่า “หนี้” ที่เกิดขึ้นตรงนี้เป็นหนี้ลงทุนใน ‘ตัวเอง’ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าเราไปตลอดชีวิต

4. หนี้เพื่อธุรกิจ

การกู้เงินเพื่อขยายธุรกิจ ซื้อเครื่องจักร หรือเพิ่มสต็อกสินค้า ถ้าคำนวณได้ว่าจะสร้างรายได้มากกว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย ก็ถือเป็นหนี้ดี

แบบไหนที่เรียกว่า “หนี้ซวย” ?

1. หนี้บัตรเครดิต 

รูดซื้อของฟุ่มเฟือย แต่จ่ายไม่เต็ม = โดนดอกเบี้ย 16 % ต่อปี เลยนะแก ! ฟังดูอาจจะเหมือนไม่เยอะ แต่คิดดี ๆ นะ…16 % ต่อปี เป็น อัตราดอกเบี้ยที่โหดมาก เพราะรู้ไหมว่า หากเราลงทุนได้ 16 % ต่อปีแบบสม่ำเสมอ เงินของเราจะ ทบต้นเป็นกองใหญ่ จนเป็นเศรษฐีได้เลยนะ !

ตรงข้าม ถ้าเราเป็นหนี้บัตรเครดิต ดอกเบี้ย 16 % นั่นแหละ เป็นค่าเสียโอกาส ที่เราต้องเสียไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหลุมดูดเงินและเวลา… จากคนธรรมดา ๆ ก็เป็นคน “จน” ได้ เพราะต้องแบกดอกเบี้ยตรงนี้ตลอด

2. ผ่อนของสิ้นเปลือง

การผ่อนมือถือรุ่นใหม่ทุกปี ทั้ง ๆ ที่เครื่องเก่ายังดีอยู่ ของพวกนี้ราคาตกเร็วมาก แต่เรายังต้องผ่อนไปเรื่อย ๆ เหมือนเรากำลังผ่อนของที่ราคาไม่เหลือแล้วอะ ! รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นรายประจำที่เราจะจ่ายทุกเดือนโดยไม่จำเป็นไปซะแล้ว

3. หนี้ซื้อรถที่เกินตัว

ใคร ๆ ก็อยากมีรถ แต่ต้องคิดดี ๆ เพราะ

  •  ค่าผ่อน
  • ค่าน้ำมัน
  • ค่าประกัน
  • ค่าซ่อมบำรุง

อาจกินรายได้เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งเดือน ! และต้องรู้ว่า…รถซื้อแล้ว “มูลค่าลด” ตั้งแต่วันแรก ถ้าไม่ได้ใช้รถทำเงิน หรือลดค่าใช้จ่ายจริง ๆ ก็เป็นภาระดี ๆ นี่เอง

4. หนี้นอกระบบ

หนี้จากแหล่งเงินกู้ที่ไม่ถูกกฎหมาย มักมีดอกเบี้ยสูงมาก บางแห่งคิดแค่เดือนละ 10-20% ซึ่งเท่ากับ 120-240% ต่อปี! นี่คือหนี้ที่ทำลายชีวิตได้จริง ๆ

เทคนิคเลือกหนี้ “รวย” vs “ซวย” ใช้สูตรง่าย ๆ ของพี่ทุย คือ..

หนี้รวย = ผลตอบแทน > ดอกเบี้ยจ่าย
หนี้ซวย = ผลตอบแทน < ดอกเบี้ยจ่าย

หลักการตัดสินใจคำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนเป็นหนี้

  1. หนี้นี้จะช่วยสร้างรายได้ให้เราหรือไม่ ?
  2. หนี้นี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นหรือไม่ ?
  3. หนี้นี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าตัวเราในอนาคตหรือไม่ ?
  4. เราสามารถผ่อนชำระได้สบาย ๆ โดยไม่กระทบชีวิตหรือไม่ ?
  • หากตอบ “ใช่” อย่างน้อย 1 ข้อ + ข้อที่ 4 แสดงว่าอาจเป็นหนี้ที่คุ้มค่า
  • หากตอบ “ไม่” ทุกข้อ แสดงว่าเป็นหนี้ที่ไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยง

หากถ้าแยกตรงนี้ได้… หนี้ดีจะช่วยเราก้าวไปข้างหน้า ส่วนหนี้เสียจะเป็นโซ่ตรวนดึงชีวิตเราลงเหวแบบไม่รู้ตัวน้าาา จำไว้ เป้าหมายไม่ใช่การ “ไม่มีหนี้” แต่เป็นการ “ใช้หนี้อย่างฉลาด” เพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว !

อ่านบทความนี้บน Facebook ของพี่ทุย คลิกเลย

อ่านเพิ่มเติม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile