“วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชาวไทยคว้าเหรียญเงินประวัติศาสตร์ให้วงการแบดมินตันไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ในการแข่งขันครั้งนี้จะสังเกตุว่าทั้งวิว กุลวุฒิ และ Viktor Axelsen คู่แข่งในนัดชิงชนะเลิศ ต่างใช้อุปกรณ์ ไม้แบด Yonex ซึ่งพี่ทุยเชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีตั้งแต่เด็ก วันนี้พี่ทุยจะพาไปรู้จักกับแบรนด์ไม้แบดมินตันจากญี่ปุ่นแบรนด์นี้ ว่าเริ่มต้นธุรกิจอะไร แล้วก้าวขึ้นไปสู่ระดับโลกได้อย่างไร มีรายได้และกำไรเยอะขนาดไหน?
ประวัติ ไม้แบด Yonex จากธุรกิจจับปลาสู่คอร์ดแบด
Yonex แบรนด์อุปกรณ์กีฬาสัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งเมื่อปี 1946 โดยคุณ Minoru Yoneyama ในชื่อบริษัท Yoneyama ธุรกิจแรกที่ทำกลับไม่ใช่อุปกรณ์กีฬาแบดมินตันอย่างทุกวันนี้ แต่กลับทำทุ่นไม้สำหรับแหจับปลา แต่แล้วการมาถึงของทุ่นพลาสติกกลายเป็นสิ่งที่บีบให้บริษัทต้องออกจากธุรกิจนี้ไป
เจอแบบนี้เข้าไป คุณ Minoru Yoneyama ก็ได้รับบทเรียนว่าจะไม่ยอมตกเทรนด์เทคโนโลยีใหม่และมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมในอนาคต ปี 1957 บริษัทใช้จุดแข็งด้านงานไม้ก้าวเข้าไปทำธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ไม้แบดมินตันให้กับแบรนด์ Sanbata
และก็เจอกับบททดสอบอีกครั้งเมื่อ Sanbata ล้มละลายในปี 1961 ส่วนโรงงานของ Yoneyama ก็โดนไฟไหม้ในปี 1963 ช่วงเวลาที่ยากลำบากในตอนนั้น บริษัท Yoneyama ตัดสินใจเปิดบริษัท Yoneyama Sports เพื่อผลิตไม้แบดมินตันแบรนด์ตัวเอง ซึ่งธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ขยายไปยังสหรัฐฯ และยุโรปได้ภายในทศวรรษที่ 1960 ด้วย
ด้วยบทเรียนเมื่อครั้งธุรกิจแรกไปไม่รอด ปี 1968 Yonex ได้พัฒนาข้อต่อ T-Joint ตัวแรกของโลก ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบหัวก๊อกท่อแก๊ส นำไปสู่การพัฒนาไม้แบดมินตันอลูมิเนียมในปี 1969 ชื่อรุ่น T-7000
ในปี 1973 เปิดตัวโลโก้ YY และเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์กับ Rudy Hartono แชมป์ All England Open Badminton Champion 8 สมัย หลังจากนั้นเริ่มผลิตไม้เทนนิสจากไม้พร้อมเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์กับ Tony Roche นักเทนนิสชาวออสเตรเลีย แชมป์เมเจอร์ 14 สมัย
บริษัทไม่หยุดพัฒนาไม้แบดมินตัน ในปี 1976 เปิดตัวไม้ที่ผลิตจาก Carbon Graphite ชื่อรุ่น CARBONEX 3
ปี 1980 เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Yonex แล้วต่อยอดความได้เปรียบจากนวัตกรรม Carbon Graphite ลุยธุรกิจอุปกรณ์กอล์ฟ
จากวันนั้นถึงวันนี้ Yonex เดินหน้าลุยธุรกิจแบดมินตันและเทนนิสอย่างชัดเจน และ Yonex ก็ยังได้รับผลดีจากการพัฒนานวัตกรรม Carbon Graphite กลายเป็นแบรนด์ยอดนิยมในวงการแบดมินตัน แถมยังใช้นวัตกรรมนี้เดินหน้าสู่ธุรกิจใหม่ในปี 2015 ทั้ง Sport Bikes และใบพัดกังลม
ส่องธุรกิจ Yonex ทำอะไรบ้าง?
ปัจจุบัน Yonex ขยายธุรกิจไปหลายวงการ ทั้งแบดมินตัน เทนนิส กอล์ฟ รองเท้าวิ่ง สโนวบอร์ด และจักรยาน ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ธุรกิจหลัก คือ
1. Sporting Goods Division หรืออุปกรณ์กีฬา มีสัดส่วนรายได้ 99.53% ประกอบด้วย แบดมินตัน 62.4%, เทนนิส 14.8%, กอล์ฟ 1.63%, อื่นๆ 20.7%
และ 2. Sports Facilities Division หรือให้บริการสถานที่การกีฬา 0.47%
ขณะที่สัดส่วนรายได้จากแต่ละภูมิภาคทั่วโลกแบ่งได้ดังนี้ ญี่ปุ่น 44.2%, เอเชีย 47.1%, อเมริกาเหนือ 4.7% และยุโรป 3.9%
กลยุทธ์การเติบโตของ ไม้แบด Yonex
จากสัดส่วนรายได้ที่มาจากทั่วโลก ทำให้เห็นว่า Yonex ก้าวขึ้นมาเป็น Global Brand แต่ด้วยโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทมีกลยุทธ์การเติบโตระดับโลกใหม่
โดย Yonex จะเปลี่ยนจากการเน้นตลาดเอเชียตะวันออกไปสู่ทั่วโลก โดยมีภูมิภาคอเมริกาเหนือและอินเดียเป็นเป้าหมายหลัก ในแง่การตลาดเปลี่ยนจากการสนับสนุนฝั่งการขายไปสู่กลยุทธ์ Consumer-centric
และใช้เทคโนโลยีดิจิตอลสร้าง Yonex DTC Ecosystem ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านนี้เพิ่มเติมเป็น Global IT Infrastructure เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขาย การผลิต และบริหาร Supply chain
ที่สำคัญ Yonex ยังไม่ลืมที่จะพัฒนานวัตกรรมอยู่เสมอ จึงมีการลงทุนศูนย์ R&D ใหม่ ซึ่งแล้วเสร็จไปเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้แล้ว Yonex ยังมีกลยุทธ์สุดคลาสสิคอย่างการเป็นสปอนเซอร์ ซึ่งเริ่มจากเป็นสปอนเซอร์ให้ทัวร์นาเมนต์และนักกีฬาระดับโลกเพื่อสร้างสถานะให้แบรนด์ จากนั้น Yonex ใช้สถานะแบรนด์ระดับโลกสร้างประโยชน์ในการจัดอีเวนต์และทัวร์นาเมนต์ท้องถิ่นเพื่อโปรโมทกีฬาและแบรนด์เข้าสู่เยาวชน ช่วยเพิ่มทั้งจำนวนผู้เล่นกีฬาและลูกค้าของแบรนด์ใหม่ ๆ
รายได้และกำไรดีขนาดไหน?
ด้วยนวัตกรรมและการขยายตลาดกระจายไปทั่วโลก ส่งให้ Yonex มีพื้นฐานรายได้และกำไรที่แข็งแกร่ง สามารถผ่านพ้นช่วง COVID-19 ที่กระทบกับการเล่นกีฬามาได้แบบไม่ยากนัก แถมรับผลดีจากเงินเยนที่อ่อนค่ามาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปี 2023 รายได้ 116,442 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 8.8% กำไร 8,859 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 20.8%
โดยรายได้จากแบดมินตัน เพิ่มขึ้น 11.3%, เทนนิส ลดลง 1.4%, กอล์ฟ ลดลง 5.2%, อื่นๆ เพิ่มขึ้น 11.1% และบริการสถานที่การกีฬา ลดลง 2.0%
ขณะที่รายได้จากญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 6.9%, เอเชีย เพิ่มขึ้น 10.4%, อเมริกาเหนือ เพิ่มขึ้น 4.9%, ยุโรป เพิ่มขึ้น 18.4%
ส่วนรายได้และกำไรระหว่างปี 2019-2022 มีดังนี้
- ปี 2022 รายได้ 107,020 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 43.68% กำไร 7,330 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 26.8%
- ปี 2021 รายได้ 74,490 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 44.48% กำไร 5,780 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 425%
- ส่วนปี 2020 รายได้ 51,550 ล้านเยน ลดลง 16.80% กำไร 1,100 ล้านเยน ลดลง 33.3%
- ปี 2019 รายได้ 61,970 ล้านเยน เพิ่มขึ้น 1.42% กำไร 1,650 ล้านเยน ลดลง 4.06%
ถ้าดูจากธุรกิจเริ่มต้นแล้วคงคาดไม่ถึงว่าวันหนึ่ง Yonex จะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาระดับโลกได้ขนาดนี้ ซึ่งต้องยอมรับว่าเคล็ดลับสำคัญที่พา Yonex มาถึงจุดนี้ได้ คือ การเรียนรู้จากบทเรียนและหมั่นพัฒนานวัตกรรมอยู่เสมอ
อ่านเพิ่ม