พนักงานเงินเดือนทั่วไป ๆ ก็จะต้องถูกหักเงินเดือนส่วนหนึ่งเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน โดยเพดานสูงสุดตอนนี้คือ 750 บาท คิดจากฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท แต่เร็ว ๆ นี้ สำหรับผู้ประกันตน ม.33 ‘ประกันสังคมปรับขึ้นเงินสมทบ’ เป็นส่งเดือนละสูงสุดถึง 1,150 บาท
ประกันสังคมปรับขึ้นเงินสมทบ สูงสุด 1,150 บาท ภายในปี 2573
ล่าสุด กระทรวงแรงงาน ได้ร่างกฎหมายใหม่ เพื่อเตรียมปรับเพิ่มกำหนดค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานคำนวณจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตน ม.33
โดยร่างนี้จะปรับฐานค่าจ้างขั้นสูงจากเดิม 15,000 บาท แบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นสูงสุด 23,000 บาท ตั้งแต่ปี 2573
ฐานเงินเดือนในการคำนวณเงินสมทบจะปรับเพิ่มดังนี้
- ปี 2567 – 2569 เงินเดือน 1,650 – 17,500 บาท
- ปี 2570 – 2572 เงินเดือน 1,650 – 20,000 บาท
- ในปี 2573 เป็นต้นไป เงินเดือน 1,650 – 23,000 บาท
ผู้ประกันตน ม.33 ต้องจ่างเงินสมทบเดือนละเท่าไหร่?
ตามปกติแล้ว เงินสมทบจะคำนวณจาก 5% ของค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับต่อเดือน โดยปัจจุบันฐานเงินเดือนคือ 1,650 – 15,000 บาท ซึ่งสำหรับคนที่ได้ค่าแรงสูงกว่าเพดาน ก็ส่งเงินสมทบแค่เท่ากับเพดานฐานเงินเดือนสูงสุด แต่ถ้ามีการปรับฐานแล้ว ลูกจ้างจะต้องจ่ายเพิ่มดังนี้
- ปี 2566 เพดานเงินเดือน 15,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 750 บาท
- ปี 2567 – 2569 เพดานเงินเดือน 17,500 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาท
- ส่วน ปี 2570 – 2572 เพดานเงินเดือน 20,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาท
- ปี 2573 เพดานเงินเดือน 23,000 จ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาท
โดยขณะนี้ กระทรวงแรงงานได้เปิดรับฟังความคิดเห็น ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำและขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคมฉบับใหม่ ผ่านเว็บไซต์ระบบกลางกฎหมาย law.go.th และจะปิดการรับฟังความคิดเห็นในวันที่ 28 ก.พ. 2566
จ่ายเงินสมทบมากขึ้น มีประโยชน์หรือไม่?
สิทธิจากประกันสังคมบางกรณีก็ผันแปรตามจำนวนเงินสมทบ เช่น เงินทดแทนเมื่อต้องลางาน หรือว่างงาน เงินบำเหน็จที่จะได้ตอนชราภาพก็ได้มากขึ้นตามเงืนสมทบ
กรณีว่างงาน : จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน จะได้รับเงินชดเชยประกันสังคม ดังนี้
- ถูกเลิกจ้าง จะได้เงินทดแทน 50% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 180 วัน หรือ 6 เดือน
- ลาออก หรือ หมดสัญญา จะได้เงินทดแทน 30% ของค่าจ้าง ครั้งละไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือน
กรณีลาป่วย : หากแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว สามารถขอรับเงินทดแทนการขาดรายได้ 50% ของค่าจ้างแต่ไม่เกิน 90 วันต่อครั้ง
กรณีชราภาพ : จะได้เงินบำเหน็จและบำนาญ คำนวณจากเงินสมทบทั้งหมดที่ส่ง
- บำเหน็จ : จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 – 179 เดือน จะได้เงินก้อน = เงินสมทบของผู้ประกันตน + เงินสมทบของนายจ้าง + ผลประโยชน์ตอบแทน
- บำนาญ : จ่ายเงินสมทบมากกว่า 180 เดือน จะได้เงินบำนาญแต่ละเดือน = ค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย x 20% (+ จำนวน % ที่เพิ่มให้อีกปีละ 1.5%)
อ่านเพิ่ม
Comment