วิธีวิเคราะห์หุ้น สายปัจจัยพื้นฐาน แบบเข้าใจง่าย | ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน EP11

วิธีวิเคราะห์หุ้น สายปัจจัยพื้นฐาน แบบเข้าใจง่าย | ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน EP11

5 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • Top Down Analysis เป็นการ “วิเคราะห์หุ้น” จากบนลงล่าง หรือ จากภาพใหญ่ไปภาพเล็ก นั่นก็คือ การวิเคราะห์จากภาพรวมเศรษฐกิจลงมาอุตสาหกรรมและปิดท้ายด้วยการการวิเคราะห์บริษัทนั่นเอง
  • การวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ คือการดูว่าในช่วงนั้นมีเหตุการณ์อะไรที่มากระทบเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศหรือไม่ เช่น การเมือง, โรคระบาด, สงครามการค้า เป็นต้น 
  • การวิเคราะห์อุตสาหกรรม คือ การเลือกอุตสาหกรรมที่น่าจะได้ประโยชน์จากภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงนั้น ๆ 
  • การวิเคราะห์บริษัท เป็นการเลือกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เราเลือกมา โดยวิธีการเลือกเราอาจจะเลือกจากบริษัทที่เรารู้จักก่อนก็ได้
  • นอกจากการวิเคราะห์แบบ Top Down แล้ว ยังมีการวิเคราะห์แบบด้วยนั่นคือการวิเคราะห์แบบ Bottom Up ซึ่งการวิเคราะห์แบบ Bottom Up จะเป็นการเลือกหุ้นที่สนใจก่อนจากนั้นก็ดูว่าในช่วงนั้นอุตสาหกรรมและภาพรวมเศรษฐกิจเป็นยังไง

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ซีรีส์การเงินตอน “ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน” ตอนที่ผ่าน ๆ มา เราได้เรียนรู้กันไปแล้วว่าราคาหุ้นขึ้นเพราะอะไร, วิธีการคัดเลือกหุ้นของนักลงทุนสายพื้นฐาน (VI) ทำยังไง รวมถึงสิ่งที่นักลงทุนมือใหม่ต้องดูในงบการเงิน มาถึงซีรีส์การเงินในตอนนี้พี่ทุยจะพาทุกคนไปรู้จักกับ วิธีวิเคราะห์หุ้น สายปัจจัยพื้นฐานโดยการเอา Top Down Analysis มาช่วยในการวิเคราะห์ ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย..

วิธีวิเคราะห์หุ้น แบบ Top Down Analysis คืออะไร ?

Top Down Analysis คือ เทคนิคการวิเคราะห์ “หุ้น” จากบนลงล่าง หรือ จากภาพใหญ่ไปภาพเล็ก หรือ การวิเคราะห์จาก ภาพรวมเศรษฐกิจลงมาอุตสาหกรรมและบริษัท ตามลำดับ

วิธีวิเคราะห์หุ้น แบบ bottom up Analysis คืออะไร ?

การวิเคราะห์เศรษฐกิจ

การวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ เราต้องดูภาพรวมของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น การเติบโตของเศรษฐกิจ, การเมือง, โรคระบาด รวมถึงสงครามระหว่างประเทศ เป็นต้น 

ตัวอย่างเช่น ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในตอนนี้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 

การวิเคราะห์อุตสาหกรรม

เป็นการวิเคราะห์ต่อจากเศรษฐกิจว่าอุตสาหกรรมไหนจะได้หรือเสียผลประโยชน์จากภาพรวมเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ตอนนี้

ตัวอย่างเช่น จากการที่เราวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจแล้วเห็นว่า ตอนนี้ประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกล้วนแต่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 และในหลาย ๆ ประเทศก็ต้องทำการปิดประเทศเพื่อป้องกันและหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 

เมื่อมีการปิดประเทศแน่นอนว่ากลุ่มอุตสาหกรรมแรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบ คือ กลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม แต่ก็มีกลุ่มอุตสาหกรรมนึงที่ได้ประโยชน์ คือ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในร้านสะดวกซื้อ เพราะในช่วงกักตัวเราไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้ แถมร้านอาหารต่าง ๆ ก็ยังปิดอีก เพราะฉะนั้นคนส่วนใหญ่ก็ต้องพึ่งอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก

หลังจากนี้เราก็ต้องวิเคราะห์เจาะลึกลงไปในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่เราจะเอามาช่วยในการวิเคราะห์อุตสาหกรรม คือ การวิเคราะห์ Five Force Model

Five Force Model หรือ แรงทั้ง 5 มี ดังนี้

  • อำนาจการต่อรองของลูกค้า 
  • อำนาจการต่อรองจาก Supplier
  • การคุกคามจากคู่แข่งรายใหม่ 
  • การแข่งขันในอุตสาหกรรม
  • การคุกคามจากสินค้าหรือบริการทดแทน

ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ Five Force ของ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มได้ ดังนี้

  • อำนาจต่อรองของลูกค้า

อำนาจต่อรองจากลูกค้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีค่อนข้างสูง เพราะ ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีผู้เล่นอยู่หลายราย และผลิตภัณฑ์ในตลาดก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ดังนั้นถ้าบริษัทเกิดขึ้นราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นมา ผู้บริโภคก็อาจจะหันไปซื้อเครื่องดื่มของคู่แข่งได้

  • อำนาจต่อรองจาก Supplier

มีค่อนข้างต่ำเพราะว่า ถ้าบริษัทผลิตสินค้าจำนวนมาก ก็จะสามารถต่อรองราคาวัตถุดิบได้อยู่แล้ว หรือบางกิจการในอุตสาหกรรมนี้เลือกที่จะผลิตวัตถุดิบบางอย่างเองด้วยซ้ำ

  • การคุกคามจากคู่แข่งรายใหม่เครื่องดื่ม

ต้องบอกว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องดื่มมีผู้เล่นจำนวนมากและยังมีแนวโน้มที่จะมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาอีกเรื่อย ๆ 

  • การแข่งขันในอุตสาหกรรม

อุตสาหกรรมเครื่องดื่มเป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง ถึงแม้จะมีผู้เล่นหลายราย แต่ก็ต้องเป็นรายใหญ่จริง ๆ ถึงจะอยู่รอดในตลาดได้

  • การคุกคามจากสินค้าและบริการทดแทน

ถือว่าทดแทนได้ไม่ได้ง่ายนัก เพราะ ถึงแม้ถ้าบางคนอาจจะบอกว่าทานของหวานอย่างอื่นแทนการดื่มน้ำหวานได้ แต่ในความรู้สึกจริง ๆ แล้วมันก็ยังต่างกันอยู่ดี

วิธีวิเคราะห์หุ้น หรือ บริษัท

หลังจากที่เราวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจแล้วเห็นว่า ในตอนนี้เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไวรัสโควิด-19 และคิดว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะได้ประโยชน์ คือ กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและมองว่าอุตสาหกรรมเครื่องดื่มน่าจะมีโอกาสที่จะเติบโตต่อไปได้ในอนาคต ขั้นตอนต่อมา คือ วิเคราะห์บริษัทเพื่อหาบริษัทที่เราจะเข้าไปลงทุน

โดยการเลือกหุ้นที่จะเอามาวิเคราะห์ เราอาจจะเลือกจากบริษัทที่เรารู้จักสินค้าของบริษัทนั้น เคยดื่มเครื่องดื่มของเขา หรือเห็นว่าเครื่องดื่มของบริษัทนั้นขายดีก็ได้ หรือเราจะเลือกหุ้นจากวิธีการคัดเลือกหุ้นเบื้องต้นก็ได้ ซึ่งไม่ว่าจะเลือกด้วยวิธีไหนก็ไม่มีถูกมีผิด เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ต้องเอา “หุ้น” ตัวนั้นมาวิเคราะห์แบบเจาะลึกอยู่ดี โดยเราสามารถเข้าไปดูหุ้นทั้งหมดที่อยู่ในอุตสาหกรรมนั้นได้ที่ https://www.settrade.com/th/equities/quote/ICHI/ranking 

หลังจากที่เราเลือกหุ้นที่เราสนใจได้แล้ว จากนั้นเราก็ต้องเอาหุ้นตัวนั้นมาวิเคราะห์ต่อ ซึ่งการวิเคราะห์บริษัทสิ่งที่เราต้องวิเคราะห์มี 2 ด้านด้วยกัน คือ

  • การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
  • การวิเคราะห์งเชิงปริมาณ

การวิเคราะห์เชิงคุณภาพจะเป็นการวิเคราะห์ว่า บริษัทนั้นทำธุรกิจอะไร โครงสร้างรายได้เป็นยังไง รวมถึงสัดส่วนรายได้เป็นยังไง เป็นต้น 

วิธีวิเคราะห์หุ้น เชิงคุณภาพ

ยกตัวอย่าง บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ปัจจุบันประกอบธุรกิจหลัก 2 อย่างด้วยกัน คือ เครื่องดื่มชาพร้อมดื่มที่มีสัดส่วนรายได้ในปี 2562 อยู่ที่ 98.7% และ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 1.3%  

นอกจากนั้น การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของบริษัท เราอาจจะเอาการวิเคราะห์แบบ SWOT เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ได้ด้วย โดย SWOT จะวิเคราะห์บริษัทใน 4 ด้านด้วยกัน คือ

  • S –  Strength คือ จุดแข็งของบริษัทซึ่งต้องเป็นปัจจัยภายในบริษัทเท่านั้น เช่น มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย
  • W – Weakness คือ จุดอ่อนของบริษัทซึ่งต้องเป็นปัจจัยภายในบริษัทเหมือนกับ Strength เลย เช่น บริษัทต้องนำเข้าทรัพยากรการผลิตจากต่างประเทศ ทำให้มีต้นทุนสูง เป็นต้น  
  • O – Opportunity คือ โอกาสต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ
  • T – Threat คือ อุปสรรคต่าง ๆ ของบริษัท เช่น มาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ 

ตัวอย่าง การวิเคราะห์ SWOT ของ ICHI

  • Strength – ปัจุจบันแบรนด์ อิชิตัน ถือว่าค่อนข้างมีชื่อเสียงและคนรู้กันกันมานาน
  • Weakness – การพึ่ง Branding จากคุณตันมากเกินไป ถ้าเกิดวันหนึ่งบริษัทไม่สามารถเอาจุดนี้มาเป็นจุดขายได้ ยอดขายและกำไรก็อาจจะลดลงได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วควรชูผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเป็นจุดเด่นมากกว่า
  • Opportunity – บริษัทยังมีโอกาสที่จะสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศได้ 
  • Threat – มาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐ เช่น การปรับขึ้นภาษีน้ำตาล 

วิธีวิเคราะห์หุ้น เชิงปริมาณ

วิธีวิเคราะห์หุ้น เชิงปริมาณ

เราจะเห็นว่ารายได้ของ ICHI ค่อนไปทางลดลง แต่ที่น่าสนใจก็คือ กำไรสุทธิที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นแสดงว่า บริษัทควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นนั่นเอง 

ส่วนอัตราส่วนที่สำคัญ ๆ เช่น อัตรากำไรสุทธิ, ROA, ROE และ กำไรต่อหุ้น (EPS) ของ ICHI ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เพราะ อัตราส่วนเหล่านี้ล้วนแต่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ ปีเลย 

งบดุลของ ICHI

เรามาดูที่งบดุลของ ICHI กันบ้าง เริ่มที่สินทรัพย์ เราจะเห็นว่าสินทรัพย์รวมของ ICHI ลดลงทุกปี แต่เมื่อสินทรัพย์ลดลง หนี้สินก็ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

งบกระแสเงินสด

ส่วนสุดท้ายเราก็มาดูกันที่งบกระแสเงินสด จะเห็นว่ากระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ ICHI เพิ่มขึ้นมาโดยตลอด เสียดายที่ว่ากระแสเงินสดส่วนนี้ในปี 2563 ยังมากกว่าปี 2560 ไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ ICHI ก็ถือว่าดีเลยทีเดียว

กระแสเงินสดจากการลงทุน ของ ICHI ก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยถือว่าไม่ได้มีประเด็นอะไรมากมาย แต่ที่น่าสนใจก็คือ กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินที่ปี 2563 ติดลบเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ถึง 300 ล้านบาท ซึ่งความเห็นส่วนตัวของพี่ทุยคิดว่าน่าจะมาจากการที่บริษัทเอาเงินไปคืนหนี้สินที่กู้ยืมมานั่นเอง สังเกตได้จากหนี้สินไม่หมุนเวียนที่ถือเป็นหนี้สินที่มีดอกเบี้ยค่อย ๆ ลดลงมาเรื่อย ๆ 

โดยรวมแล้วข้อมูลทางการเงินของ ICHI ก็ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว หลังจากนี้เราก็ต้องเอาหุ้นที่เราเลือกมาไปหามูลค่าที่แท้จริง (Fair Price) ต่อ เพื่อจะดูว่าราคาปัจจุบันในตลาดกับราคาที่แท้จริงอันไหนมากกว่ากัน 

  • ถ้า ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่าราคาที่แท้จริงก็ควรซื้อหุ้นตัวนั้น
  • ถ้า ราคาปัจจุบันราคามากกว่าราคาที่แท้จริงก็ไม่ควรที่จะซื้อหุ้นตัวนั้น

วิธีวิเคราะห์หุ้น แบบ Bottom Up Analysis

วิธีวิเคราะห์หุ้น แบบ bottom up Analysis คืออะไร ?

การวิเคราะห์หุ้น แบบ Bottom Up เป็นการวิเคราะห์ที่ตรงกันข้ามกับการวิเคราะห์แบบ Top Down โดย Bottom Up จะวิเคราะห์จากภาพเล็กไปภาพใหญ่ คือ วิเคราะห์จากบริษัทไปอุตสาหกรรมและภาพรวมเศรษฐกิจ 

การวิเคราะห์แบบ Bottom Up จะเอาไว้หาหุ้นที่มีพื้นฐานดี แต่ดันมาเจอข่าวร้ายในช่วงสั้น ๆ เช่น จากการที่เราวิเคราะห์หุ้น ICHI แล้วเห็นว่า ICHI เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ธุรกิจกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง กำไรก็เติบโตทุกปี อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ ๆ เช่น ROE, ROA, อัตรากำไรสุทธิ รวมถึงกำไรต่อหุ้นก็เพิ่มขึ้นทุกปี 

แต่ช่วงนี้บริษัทดันมาเจอข่าวร้ายจากโรคระบาด โควิด-19 ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบไปพอสมควร แต่นี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีของเรา เพราะ ถ้าเราวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ICHI ราคาปัจจุบันของ ICHI ยังต่ำกว่าราคาที่แท้จริง (Fair Price) อยู่ค่อนข้างมาก เราก็อาจจะได้หุ้นราคาถูกในช่วงนี้

และนี่การคือการวิเคราะห์แบบ Top Down และ Bottom Up ซึ่งการวิเคราะห์ทั้งสองแบบถือว่ามีประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่อยู่ที่ว่าใครชอบแบบไหน และซีรีส์การเงินในตอนหน้าพี่ทุยจะมาสอนทุกคนใช้การวิเคราะห์อีกรูปแบบหนึ่งที่นักลงทุนสายพื้นฐานนิยมกันค่อนข้างมาก นั่นก็คือ CANSLIM ถ้าใครอยากรู้ว่าทำไม CANSLIM ถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักลงทุนแบบพื้นฐาน (VI) และ CANSLIM มีดียังไง ก็ต้องคอยติดตามซีรีส์การเงินในหน้ากันให้ดี..

เปิดบัญชีกับ LH Securities วันนี้ เรียนฟรีคอร์สเทรดหุ้นออนไลน์

แต่ถ้าอยากขึ้นทางด่วนโดยไม่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองอีกต่อไป แนะนำให้เปิดพอร์ตกับทาง LH Securities ตอนนี้ เพื่อรับสิทธิ์เข้าเรียนคอร์สเทรดหุ้นออนไลน์กันแบบฟรี ๆ กับ “คุณเคน – จักรกฤษณ์ กิจการรัฐบุตร , CFP ®” ผู้ร่วมก่อตั้ง Money Buffalo ของเรา ที่จะมาพาจับมือเทรดกันตั้งแต่ 0 ไปจนถึง 100 ให้ โดยจะเน้นที่การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) วิเคราะห์กราฟกันแบบมันส์ ๆ พร้อมลุยตลาดจริงกันเลย

และที่พี่ทุยแนะนำให้เปิดบัญชีกับทาง LH Securities ผู้สนับสนุนหลักของ ซีรีส์ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน นั่นก็เพราะที่นี่ทั้งสะดวก และให้บริการครบ สามารถจบในที่เดียวได้ ตั้งแต่เปิดบัญชี การสมัครบริการตัดเงินบัญชีอัตโนมัติ ไปจนถึงวางหลักประกัน  LH Securities ก็มีให้บริการ และที่สำคัญคือสามารถทำทุกอย่างผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย สะดวกและง่ายมาก ๆ

สนใจเปิดบัญชีกับ LH Securities พร้อมดูขั้นตอนแบบละเอียด สามารถทำตามได้แบบ Step by Step คลิกที่นี่เลย

banner

banner LH

อ่าน EP ต่อไป

ย้อนกลับไปอ่าน EP ก่อนหน้านี้

ติดตามซีรีส์การเงิน “ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน” ตอนอื่น ๆ ได้ที่นี่

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile