มีคนถามพี่ทุยกันเข้ามาเยอะมาก ๆ ว่าเราควรเลือกซื้อหรือลงทุนใน หุ้นปันผล หรือ หุ้นไม่ปันผล ดีกว่ากัน ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วคำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ดี เพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นคำถามหลัก ๆ ที่จะช่วยให้เราเลือกหุ้นที่จะลงทุนได้ดีขึ้นมาก วันนี้พี่ทุยเลยจะมาอธิบายเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ฟังกัน ถ้าพร้อมแล้วไปฟังกันเลย..
เงินปันผล คืออะไร ?
เงินปันผล คือเงินที่บริษัทปันหรือจ่ายออกมาให้กับผู้ถือหุ้น เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นเมื่อบริษัทมีกำไรมากพอ ซึ่งจำนวนเงินที่แต่ละบริษัทจะปันผลให้ผู้ถือหุ้นก็จะแตกต่างกันไปตามนโยบายการจ่ายปันผลของแต่ละบริษัท
หุ้นปันผล คืออะไร ?
หุ้นปันผล คือหุ้นของของบริษัทที่มีการจ่ายปันผลออกมาอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งตรงจุดนี้เองเลยทำให้มีนักลงทุนหลาย ๆ คนชอบหุ้นปันผล เพราะรู้สึกว่ามีรายได้ หรือผลตอบแทนเข้ามาแบบสม่ำเสมอ ทำให้รู้สึกว่าเรามีรายได้อีกทางหนึ่งนั่นเอง
แต่จริง ๆ แล้วหุ้นปันผลมีข้อเสียสำคัญอยู่ข้อหนึ่ง คือการจ่ายปันผลออกมามาก ๆ อาจจะทำให้บริษัทเติบโตได้ไม่มากนัก เพราะบริษัทจะสูญเสียโอกาสที่จะเอาเงินปันผลที่จ่ายให้กับผู้ถือหุ้นไปลงทุนต่อ เพื่อให้บริษัทมีกำไรมากขึ้นนั่นเอง
สิ่งที่นักลงทุนใน หุ้นปันผล ต้องระวัง
สิ่งที่นักลงทุนที่ชอบหุ้นปันผลต้องระวัง คือ ก่อนที่เราจะลงทุนเราต้องรู้ก่อนว่า “เงินปันผลนั้นต้องเสียภาษี” ข้อนี้อาจเป็นข้อเสียที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าเงินปันผลที่เราได้รับมาจะต้องเสียภาษีด้วย โดยจะเป็นการหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แต่ถ้าเราได้กำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) จะไม่มีการเสียภาษี ตรงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้นักลงทุนบางคนไม่ชอบหุ้นปันผล แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสตรงจุดนี้ก็สามารถลงทุนได้เลย
อ่านเพิ่ม
หุ้นปันผล เหมาะกับใคร ?
ส่วนตัวแล้วพี่ทุยคิดว่าหุ้นปันผลจะเหมาะกับนักลงทุน 2 กลุ่มด้วยกัน คือ
- นักลงทุนที่มีเงินทุนค่อนข้างเยอะ
ที่พี่ทุยบอกแบบนี้ก็เพราะว่า ถ้าเราเงินทุนน้อยแล้วไปลงทุนในหุ้นปันผล เราก็จะได้ผลตอบแทนที่น้อยตามไปด้วย ซึ่งจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และถ้าเราเงินทุนน้อยแล้วไม่ได้มีการเพิ่มเงินลงทุนเข้าไปเรื่อย ๆ แล้วไปลงทุนในหุ้นปันผลก็จะทำให้พอร์ตของเราไม่โตนั่นเอง
- กลุ่มคนที่ต้องการ Passive Income
ตัวอย่างของนักลงทุนกลุ่มนี้ เช่น กลุ่มคนที่เกษียณอายุแล้ว ด้วยเหตุผลที่คนกลุ่มนี้ไม่ได้มีรายได้ประจำเข้ามาในทุก ๆ เดือนแล้ว แต่มีข้อดีคือเขาอาจจะมีเงินเก็บสะสมค่อนข้างมาก
ตรงจุดนี้เองที่พี่ทุยมองว่าคนวัยเกษียณจะค่อนข้างเหมาะกับหุ้นปันผล เพราะด้วยเงินทุนที่มากก็จะทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลมากขึ้นตามไปด้วย และมันจะทำให้คนกลุ่มนี้มารายได้เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันนั่นเอง
หุ้นไม่ปันผล คืออะไร ?
หุ้นไม่ปันผล คือหุ้นของบริษัทที่ไม่เน้นการจ่ายปันผล แต่จะเก็บกำไร หรือเงินสดเอาไว้ไปลงทุนต่อเพื่อให้บริษัทมีกำไรเข้ามาเพิ่มขึ้น และเติบโตได้ในอนาคต
สิ่งที่นักลงทุนในหุ้นไม่ปันผลต้องระวัง
สิ่งที่นักลงทุนในหุ้นที่ไม่จ่ายปันผล ต้องระวังมีอยู่ 2 ข้อด้วยกัน คือ
- ความสามารถการบริหารงานของผู้บริหาร เพราะถ้าเกิดผู้บริหารบริหารเงินทุนของบริษัทไม่ดี เช่น เอาไปลงทุนในโปรเจกต์ที่ไม่ทำกำไรแถมยังขาดทุน ถ้าเป็นแบบนี้นอกจากเราจะไม่ได้เงินปันผลแล้ว เราจะยังไม่ได้กำไรจากการเติบโตของบริษัทอีกด้วย
- อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องระวัง คือความซื่อสัตย์หรือธรรมาภิบาลของผู้บริหาร เพราะการที่บริษัทไม่จ่ายปันผล ความหวังทั้งหมดของเราก็ขึ้นอยู่กับการเติบโตของบริษัท แต่ถ้าผู้บริหารของบริษัทนั้นไม่มีความซื่อสัตย์ เช่น โกงเงินบริษัทหรือหลอกลวงนักลงทุน แบบนี้ก็มีความเสี่ยงที่ราคาหุ้นจะตกลงได้
หุ้นไม่ปันผลเหมาะกับใคร ?
โดยส่วนตัวแล้วพี่ทุยคิดว่าหุ้นไม่ปันผลจะเหมาะกับนักลงทุนกลุ่มที่ยังมีเงินทุนไม่มากนัก เพราะด้วยความที่การหุ้นปันผลเหมาะกับผู้ที่มีเงินทุนมาก เพราะจะได้ผลตอบแทนที่มากกว่า ส่วนคนที่ยังมีเงินทุนไม่มากพี่ทุยแนะนำว่าอาจจะไปลงทุนในหุ้นที่ไม่ปันผลก่อนจะดีกว่า เพราะถ้าเราเลือกหุ้นของบริษัทที่ดีมีอนาคต และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ในอนาคตก็จะทำให้เราได้ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (Capital Gain)
ถ้าเราเก็บสะสมกำไรจากตรงนี้บวกกับการค่อย ๆ เติมเงินเข้าไปในพอร์ตมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้พอร์ตเราโตได้เร็วกว่าการไปลงทุนในหุ้นปันผล
ถ้าเลือกไม่ได้ก็ซื้อทั้งสองแบบเลย
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วยังเลือกไม่ได้ว่าจะลงทุนในหุ้นแบบไหนดี พี่ทุยแนะนำให้เราลองแบ่งพอร์ตในการลงทุนดู เช่น แบ่งเงิน 60% ของพอร์ตลงทุนในหุ้นปันผล และอีก 40% ลงทุนในหุ้นไม่ปันผล เหตุผลที่พี่ทุยแบ่งเงินในส่วนของหุ้นปันผลมากหน่อย เพราะหุ้นปันผลต้องใช้เงินลงทุนเยอะถึงจะคุ้มค่าการลงทุน และอีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะว่า หุ้นปันผลมีความมั่นคงและแน่นอนกว่าหุ้นที่ไม่ปันผลที่ผลตอบแทนขึ้นอยู่กับส่วนต่างราคาหุ้น (Capital Gain) นั่นเอง
ข้อดีของการบริหารพอร์ตแบบนี้คือ เราจะมีรายได้จากทั้งสองทาง คือทั้งจากเงินปันผล (Dividend) และส่วนต่างราคา (Capital Gain) ซึ่งข้อดีของการมีรายได้จากสองทาง คือเวลาที่กำไรจากทางหนึ่งหายไป กำไรจากอีกทางหนึ่งก็จะสามารถเข้ามาทดแทนได้ เช่น ในช่วงที่หุ้นเป็นขาลงกำไรจากส่วนต่างราคาอาจจะทำได้ยาก แต่เราก็ยังมีกำไรจากเงินปันผลมาช่วยเราได้
สุดท้ายพี่ทุยหวังว่าหลาย ๆ คนที่เข้ามาอ่านบทความนี้น่าจะมีความเข้าใจและเห็นความแตกต่างของหุ้นปันผลและไม่ปันผลกันมากขึ้น และพี่ทุยจะดีใจมากถ้ามันช่วยให้ทุกคนลงทุนได้ดีมากขึ้น สำหรับซีรีส์การเงินในตอนหน้าก็จะเป็นตอนสุดท้ายของซีรีส์การเงินตอน “ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน” แล้ว ยังไงต้องติดตามกันให้ดีว่าพี่ทุยจะมาพูดถึงอะไรกัน..
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นเพื่อลงสนามจริงอยู่ พี่ทุยแนะนำให้เปิดบัญชีกับทาง LH Securities ผู้สนับสนุนหลักของ ซีรีส์ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน
เพราะทั้งสะดวก และให้บริการครบ สามารถจบในที่เดียวได้ ตั้งแต่เปิดบัญชี การสมัครบริการตัดเงินบัญชีอัตโนมัติ ไปจนถึงวางหลักประกัน LH Securities ก็มีให้บริการ และที่สำคัญคือสามารถทำทุกอย่างผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย สะดวกและง่ายมาก ๆ
สนใจเปิดบัญชีกับ LH Securities พร้อมดูขั้นตอนแบบละเอียด สามารถทำตามได้แบบ Step by Step คลิกที่นี่เลย
ยังไม่หมดแค่นั้น ! เปิดพอร์ตกับทาง LH Securities ตอนนี้รับสิทธิ์เข้าเรียนคอร์สเทรดหุ้นออนไลน์กันแบบฟรี ๆ กับ “คุณเคน – จักรกฤษณ์ กิจการรัฐบุตร , CFP ®” ผู้ร่วมก่อตั้ง Money Buffalo ของเรา ที่จะมาพาจับมือเทรดกันตั้งแต่ 0 ไปจนถึง 100 ให้ โดยจะเน้นที่การวิเคราะห์เชิงเทคนิค (Technical Analysis) วิเคราะห์กราฟกันแบบมันส์ ๆ พร้อมลุยตลาดจริงกันเลย
อ่าน EP ต่อไป
ย้อนกลับไปอ่าน EP ก่อนหน้านี้
ติดตามซีรีส์การเงิน “ลงทุนหุ้นเป็นใน 30 วัน” ตอนอื่น ๆ ได้ที่นี่