ยุคดอกเบี้ยต่ำติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน

ยุค “ดอกเบี้ยต่ำ” ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

4 min read  

ฉบับย่อ

  • เดี๋ยวนี้เวลาที่เดินไปฝากเงินที่ธนาคาร อย่างหนึ่งที่ปวดใจมาก ๆ เลยก็คือ “ดอกเบี้ย” เรียกได้ว่าตอนนี้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำสุด ๆ แทบจะไม่ได้อะไรเลยจากการฝากเงินเลยก็ว่าได้
  • พี่ทุยคิดว่าตอนนี้การลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Dividend เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถสร้างโอกาสในการได้รับกระแสเงินสดจากกำไรจากหุ้นในพอร์ตและ Dividend (เงินปันผล) อย่างสม่ำเสมอ
  • กองทุน Aberdeen Standard SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund โดยกองทุนหลักจะมีการกระจายการลงทุนในหุ้นประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและในหลายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจุดเด่นของกองทุนหลัก ที่ ABGDD ไปลงทุนนั้น มีการใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Divided

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ในยุคที่ “ดอกเบี้ยต่ำ” การฝากเงิน หรือการลงทุนในตราสารหนี้อาจจะไม่สามารถตอบโจทย์เป้าหมายทางเงินได้ดีนักเนื่องจากได้ผลตอบแทนที่ต่ำจนเกินไป การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นจึงดึงดูดความน่าสนใจให้แก่นักลงทุนมากขึ้น เพราะช่วยสร้างโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีมากขึ้นได้

วันนี้พี่ทุยจะมาแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Dividend  ที่มีข้อดีจากทั้งโอกาสที่จะได้รับ Dividend และกำไรของมูลค่าของหุ้นในพอร์ตของกองทุนหลักที่เพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน ยังมีโอกาสได้รับ Dividend ที่จ่ายให้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย (Get Paid to Wait)

กลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Dividend คืออะไร ? มีข้อดียังไง ? แล้วการลงทุนใน  “Aberdeen Standard Global Dynamic Dividend (ABGDD)” มีจุดเด่นอะไรที่จะสร้างโอกาสการได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอได้

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

เดี๋ยวนี้เวลาที่เดินไปฝากเงินที่ธนาคาร อย่างหนึ่งที่ปวดใจมาก ๆ เลยก็คือ “ดอกเบี้ย” เรียกได้ว่าตอนนี้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่ต่ำสุด ๆ แทบจะไม่ได้อะไรเลยจากการฝากเงินเลยก็ว่าได้

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

ลงทุนในตราสารหนี้ก็ยัง “ดอกเบี้ยต่ำ”

ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มหันไปลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น แต่พอหันมาดูที่ตลาดตราสารหนี้เอง ก็ต้องบอกว่าให้อัตราผลตอบแทนในระดับที่ต่ำไม่แพ้กันเลย จากข้อมูลที่พี่ทุยไปเจอมา พบว่า

จากปริมาณตราสารหนี้ทั่วโลกมากกว่า 2 ใน 3 หรือ 67% ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า 1% และมีเพียงแค่ 0.3% เท่านั้นที่ยังให้อัตราผลตอบแทนสูงมากกว่า 5%

ซึ่งพี่ทุยเดาว่า ตราสารหนี้เหล่านั้นก็น่าจะเป็นตราสารหนี้ที่มีอายุมาก ๆ ที่ยังไม่หมดอายุนั่นเอง ซึ่งเราจะไปหาลงทุนก็คงเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ แล้ว  

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

ทางออกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนแล้วต้องการสร้างกระแสเงินสดรับอย่างต่อเนื่อง พี่ทุยคิดว่าตอนนี้การลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ที่มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Dividend เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถสร้างโอกาสในการได้รับกระแสเงินสดจากกำไรจากหุ้นในพอร์ตและ Dividend (เงินปันผล) อย่างสม่ำเสมอ

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

แก้ปัญหา “ดอกเบี้ยต่ำ” ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมก็น่าสนใจ

แต่ก็แน่นอนว่าการลงทุนในหุ้นนั่นต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจต่าง ๆ ที่มากกว่าการฝากเงินหรือลงทุนในตราสารหนี้พอสมควร สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ หรือไม่มีเวลาติดตามการลงทุนและคัดเลือกหุ้นด้วยตัวเอง การลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” ก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

สำหรับกองทุนที่พี่ทุยจะมาแนะนำในวันนี้ คือ Aberdeen Standard Global Dynamic Dividend หรือตัวย่อ ABGDD ที่ลงทุนในกองทุน Aberdeen Standard SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund โดยกองทุนหลักจะมีการกระจายการลงทุนในหุ้นประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกและในหลายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจุดเด่นของกองทุนหลัก ที่ ABGDD ไปลงทุนนั้น มีการใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Divided ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า โดยแบ่งเงินลงทุนส่วนใหญ่ไปลงทุนระยะยาวเพื่อสร้างกระแสรายรับจาก Dividend และโอกาสในการได้รับกำไรจากมูลค่าของหุ้นที่เพิ่มขึ้น (Capital Gain) ในขณะเดียวกันกองทุนหลักจะแบ่งเงินลงทุนในส่วนที่เหลือไปลงทุนระยะสั้นในบริษัทที่มีหรือจะมีเหตุการณ์พิเศษต่าง ๆ เพื่อหาโอกาสในการได้รับทั้งเงินปันผลปกติและเงินปันผลที่จ่ายให้เป็นกรณีพิเศษ (one off or special dividends) เพื่อเพิ่มกระแสรายรับจากเงินปันผลโดยรวมให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ กองทุนหลักของ ABGDD ยังมุ่งสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้มากกว่าผลตอบแทนของดัชนี MSCI AC World Index (ก่อนหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุน) ด้วยนะ

โดย ABGDD มีจุดเด่นอะไรอีกบ้าง พี่ทุยจะมาสรุปให้ฟังกันแบบง่าย ๆ !

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

จุดเด่นที่หนึ่ง : หุ้นที่หลากหลาย ทั่วโลก ครอบคลุมหลายภาคอุตสาหกรรม

กองทุนหลักของ ABGDD เป็นกองทุนที่มีการบริหารแบบ Active Fund กระจายลงทุนในหุ้นทั่วโลก กว่า 80 – 100 ตัว โดยใช้วิธีการเลือกหุ้นแบบ Bottom-up ซึ่งกองทุนหลักมีการถือครองหุ้นทั้งที่เป็น Growth และ Value Stock 

การกระจายการลงทุนของกองทุนหลักของ ABGDD เน้นกระจายทั้งภูมิภาคไปทั่วโลกทั้ง สหรัฐฯ อังกฤษ จีน ยุโรป เอเซีย พร้อมกระจายการลงทุนอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยจะเน้นไปที่หุ้นที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยจะมีหลัก ๆ ด้วยกัน 3 อุตสาหกรรมที่ให้เลือกลงทุน คือ กลุ่มการเงิน Finance , IT และ Healthcare

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

จุดเด่นที่สอง : กระแสรายรับ Dividend ของกองทุนหลัก

กองทุนหลักของ ABGDD ตั้งเป้าหมายที่จ่ายกระแสเงินสดรับอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ที่ผ่านมากองทุนหลัก มีอัตราการจ่าย Dividend เฉลี่ยอยู่ที่ 5%* จะเห็นได้ว่าโอกาสในการเติบโตของกระแสเงินสดรับของกองทุนหลักมีความต่อเนื่องและสม่ำเสมอในอนาคต จึงส่งผลทำให้ ABGDD ทำผลตอบแทนได้ดีอย่างต่อเนื่อง

และสำหรับกองทุน  ABGDD นักลงทุนสามารถเลือกรับผลตอบแทนในรูปแบบของคลาส Auto Redemption เพื่อสร้างโอกาสกระแสเงินสดรับอย่างสม่ำเสมอ  โดยไม่ต้องเสียภาษีเงินปันผล 10% อีกด้วย

จุดเด่นที่สาม : กลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Dividend

กองทุนหลักของ ABGDD มีการใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบ Global Dynamic Dividend คือการแบ่งส่วนการลงทุนออกเป็น 2 ส่วน เพื่อสร้างกระแสรายรับที่เพิ่มขึ้นให้กับกองทุน ได้แก่

1. “ส่วนการลงทุนหลัก (Core Portfolio)” สัดส่วนการลงทุนประมาณ 95% โดยจะเน้นคัดเลือกหุ้นที่ดี มีโอกาสเติบโต แล้วถือลงทุนในระยะยาว นอกจากจะสร้างกระแสเงินสดรับให้กับนักลงทุน (Dividend) แล้วยังช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับกำไรจากมูลค่าของหุ้นที่เพิ่มขึ้น (Capital Gain) มากขึ้นได้

2. “ส่วนจับจังหวะการลงทุน (Dividend Capture Sleeve)” สัดส่วนการลงทุนประมาณ 5% จะเป็นส่วนที่ผู้จัดการลงทุนจะจับจังหวะตลาด หาโอกาสจากการจ่ายปันผลพิเศษต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งมักจะมี payout ที่สูงกว่าการจ่ายปันผลประจำปีทั่วไป เพื่อหาโอกาสในการได้ รับทั้งเงินปันผลปกติและเงินปันผลที่จ่ายให้เป็นกรณีพิเศษ (one off or special dividends)

*ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

*อัตราการจ่าย Dividend ไม่ได้การันตี  

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

จุดเด่นที่สี่ : กองทุนหลักของ ABGDD มาพร้อมทีมผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์กว่า 140 คนทั่วโลก

พี่ทุยเชื่อว่าชื่อของ “Aberdeen” สำหรับนักลงทุนไทยแล้วน่าจะไม่มีใครไม่รู้จักเพราะ Aberdeen มีกองทุนที่มากมาย โดยเฉพาะกองที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศมีหลายกองเลยที่ได้รับรางวัล สำหรับพี่ทุย Aberdeen จึงถือว่าโดดเด่นเลยทีเดียว

และสำหรับกองทุนหลักของ  “ABGDD” มีทีมผู้จัดการกองทุนและทีมนักวิเคราะห์กว่า 140 คนทั่วโลกที่มีประสบการณ์อย่างยาวนานมาคอยดูแล ช่วยคัดเลือกหุ้นที่ดีและมีคุณภาพเข้าพอร์ตการลงทุนอยู่เสมอ นอกจากนี้ Aberdeen ยังพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เป็นหนึ่งในกระบวนการการลงทุน (Investment Process) อีกด้วย ทั้งหมดนี้ก็เชื่อมั่นได้เลยว่า นักลงทุนสามารถไว้ใจได้ ลงทุนได้อย่างสบายใจ ไม่มีมั่วแน่นอน

ยุค "ดอกเบี้ยต่ำ" ติดดินแบบนี้ เอาไงดีกับการลงทุน ?

สำหรับใครที่สนใจลงทุน Aberdeen Standard Global Dynamic Dividend (ABGDD) กองทุน มีเลือกถึง 3 คลาส (Class) เพื่อตอบทุกโจทย์ทุกเป้าหมายของการลงทุน

1) Class R – Auto Redemption

เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการรับผลตอบแทนจาก การขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียภาษีทำให้ได้รับผลตอบแทนแบบเต็มๆ ไม่เหมือนกับเงินปันผลที่ต้องเสียภาษีที่ 10%  ซึ่งมีการจ่ายครั้งล่าสุดไปเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

2)  Class A – Accumulation
เหมาะสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุนในระยะยาว (Total Return)

3)  Class SSF
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี พร้อมลงทุนระยะยาวสะสมไปเรื่อยๆ ในหุ้นเติบโตทั่วโลก โดยคาดหวังที่จะได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุนในระยะยาว (Total Return)

หลังจากที่ ABGDD เปิดขาย IPO ในช่วงเดือน ก.ย. 2564 ที่ผ่านมาต้องบอกเลยว่ามีการตอบรับจากนักลงทุนที่ดีเกินคาดมาก ๆ  พี่ทุยแนะนำว่าลองเข้าไปศึกษารายละเอียดเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่นี่

หรือติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ : +66-2352-3388 Email: [email protected]

คำเตือน :

-การจ่ายเงินปันผลในอดีต ไม่สามารถการันตีการจ่ายเงินปันผลในอนาคต

-ผลการดำเนินงานในอดีต/ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

-ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

-การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก 

กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน โดยปัจจุบันมีเป้าหมายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ทั้งนี้ตัวชี้วัดแสดงในรูปสกุลเงิน USD ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเดียวกับกองทุนหลัก โดยมิได้ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

-ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
บทความนี้เป็นบทความ Advertorial