พี่ทุยดูผลตอบแทนแล้วใน สินทรัพย์สุดฮอต ใครวางเงินถูกที่ บอกเลย…ปีนี้ชีวิตเปลี่ยน ! ถ้าเมื่อต้นปี เรานำเงิน 100,000 บาท ไปลงทุนแบบ “เสี่ยงดวง” กับหนึ่งใน สินทรัพย์สุดฮอต พอเวลาผ่านมา 6-7 เดือนตอนนี้ ผลลัพธ์ของแต่ละตัวก็บอกอะไรกับเราได้หลายอย่าง บางอย่างก็พาเราโตแรงจนยิ้มกว้าง บางอย่างก็ทำเอาน้ำตาซึม แทบไม่กล้าเปิดแอปลงทุน
วันนี้พี่ทุยเลยอยากชวนมาดูกันครับว่า 5 สินทรัพย์ยอดฮิตในปี 2025 นี้ ถ้าเราลงทุนไปเมื่อต้นปี จะได้เงินกลับมาเท่าไหร่ พร้อมกับชวนคิดต่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนอะไรกับโลกการลงทุนในตอนนี้
1. Bitcoin – 130,680 บาท (+30.68 %)
ขึ้นแรงไม่แผ่ว ครึ่งปีโกยไปเกือบ +31%
ปีนี้ Bitcoin กลับมาเป็นพระเอกอีกครั้ง หนึ่งในแรงหนุนสำคัญคือการ Halving ที่เกิดขึ้นในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งโดยธรรมชาติของ Bitcoin การ Halving มักจะมาก่อน “ขาขึ้นรอบใหญ่” เสมอ
นอกจากนี้ หลายคนเริ่มมอง Bitcoin ในฐานะ “ทองคำยุคใหม่” หรือ Store of Value ในโลกดิจิทัล ทำให้ความต้องการถือ Bitcoin เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากนักลงทุนสถาบันและกองทุนที่เริ่มเปิดรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
ทำไม Bitcoin ถึงพุ่ง ?
ความหวังจาก Halving
ความเชื่อในบทบาท “ทองคำดิจิทัล”
ความต้องการจากนักลงทุนรายใหญ่
กระแส ETF สินทรัพย์ดิจิทัลในตลาดสหรัฐฯ
2. ทองคำ – 129,360 บาท (+29.36 %)
ไม่หวือหวา แต่พุ่งเงียบ ๆ แบบผู้ใหญ่มีคลาส
ทองคำยังคงรักษาสถานะ “หลุมหลบภัย” ได้อย่างเหนียวแน่น เพราะในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเฟ้อ การเมือง หรือภาวะสงคราม นักลงทุนจำนวนมากก็ยังเลือกกลับมาซบทองคำ ปีนี้ราคาทองคำวิ่งขึ้นเกือบ +30 % ทั้งที่ไม่ค่อยมีข่าวหวือหวาเท่า Bitcoin แต่ก็แสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม
ทำไมทองคำยังฮิต ?
ความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก
ดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่อาจเริ่มลดลง
ความไม่แน่นอนทางการเมือง/ภูมิรัฐศาสตร์
พฤติกรรมนักลงทุนที่ “ย้ายเงินเข้าทอง” ช่วงตลาดผันผวน
3. S&P 500 – 106,430 บาท (+6.43 %)
ค่อย ๆ โตแบบไม่เสี่ยงเยอะ
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P 500 ก็ยังสามารถให้ผลตอบแทนเป็นบวก แม้จะไม่ได้หวือหวาเท่าคริปโตหรือทองคำ แต่ก็ถือว่าเติบโตได้ดีในฐานะตัวแทนของบริษัทชั้นนำในโลก การเติบโตของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะ AI อย่าง Nvidia, Microsoft, Apple ช่วยหนุนดัชนีให้เดินหน้าต่อได้ แม้จะมีแรงกดดันจากดอกเบี้ยและภาวะเศรษฐกิจอยู่บ้าง
4. ดัชนีหุ้นจีน – 105,420 บาท (+5.42%)
เริ่มมีสัญญาณฟื้น…แต่ยังไม่คึกคัก
แม้เศรษฐกิจจีนจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ภาครัฐก็พยายามกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งลดดอกเบี้ย ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และดึงดูดเงินลงทุนจากต่างชาติ ทำให้ตลาดหุ้นเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาบ้าง แต่ด้วยความไม่แน่นอนหลายด้าน โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังเปราะบาง ทำให้นักลงทุนจำนวนไม่น้อยยังอยู่ในโหมดระมัดระวัง
5. ดัชนีหุ้นไทย – 77,900 บาท (-22.10%)
จาก 100,000 เหลือไม่ถึง 80,000
พี่ทุยดูตัวเลขแล้ว ถึงกับต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า… “ทำไมหุ้นไทยถึงแย่ขนาดนี้ ?”บางคนอาจคิดว่าแค่ตลาดไม่ดี แต่จริง ๆ มันมีหลายปัจจัยสะสม ตั้งแต่
เศรษฐกิจในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ความไม่แน่นอนทางการเมือง
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังไม่กลับมา
และที่สำคัญคือ Fund Flow ต่างชาติไหลออกต่อเนื่อง
ต่างชาติขาย เราก็ขาย รายย่อยเข้าซื้อ รายย่อยก็ติด ราคาก็ยิ่งลงวนแบบนี้ไม่จบ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจึงถดถอยลงชัดเจน จนหลายคนเริ่มถามว่า “ตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุนอยู่ไหม ?”แต่ในอีกมุมหนึ่ง ตลาดไทยอาจกำลังอยู่ในช่วง “มืดก่อนรุ่ง” ก็เป็นได้ เพราะในอดีต เวลาตลาดหุ้นลงแรง มักตามมาด้วยการฟื้นตัวแรงเสมอ…คำถามคือ “มันจะฟื้นเมื่อไหร่?” กับ “เราจะยังอยู่ถึงตอนนั้นมั้ย ?”
บทสรุป
ปีนี้สอนเราชัดเจนว่า “แค่เลือกสินทรัพย์ถูก” ชีวิตก็เปลี่ยนได้
ใครลง Bitcoin หรือทอง คงยิ้มแก้มปริ
ใครถือหุ้นไทย ก็อาจจะเริ่มตั้งคำถามกับชีวิต
แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ฝั่งไหน พี่ทุยอยากให้มองการลงทุนเป็นเรื่องระยะยาว และ “เรียนรู้” จากสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะบางครั้ง สิ่งที่เจ็บวันนี้…อาจกลายเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในวันหน้า อย่าลืมว่า การลงทุนไม่ใช่แค่เรื่องของกำไร แต่มันคือกระบวนการของการเข้าใจตัวเอง เข้าใจตลาด และรู้ว่าควรอยู่ตรงไหนในช่วงเวลาไหน
วางเงินถูกที่…ก็เปลี่ยนชีวิตได้ แต่ถ้าช่วงนี้เรายังวางเงินผิดที่ ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง บางทีสิ่งที่เราถืออยู่…อาจเป็น “ของดี” ที่ยังไม่ถึงเวลาเฉิดฉายก็ได้นะครับ
ติดตามพี่ทุยเพิ่มเติมได้ที่ Facebookหรืออ่านบทความเพิ่มเติมได้