ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ คืออะไร ไทยเสียโอกาสแค่ไหน?

ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ คืออะไร ไทยเสียโอกาสแค่ไหน?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • ทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ ทัวร์ที่ขายในราคาต่ำกว่าต้นทุน แล้วถอนทุนหรือเอากำไรด้วยการพานักท่องเที่ยวไปชอปปิงในร้านค้าเครือข่าย
  • ที่ผ่านมามีความพยายามแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญกันมาตลอด ทั้งจากฝั่งจีนและไทย ไม่ว่าจะเป็นการให้บริษัททัวร์ต้องนำเที่ยวตามรายการ ห้ามเปลี่ยนแปลงกำหนดการโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีการจัดทำบัญชีรายชื่อบริษัทนำเที่ยวและคู่ค้า เพื่อประกอบการพิจารณาให้วีซ่ากับนักท่องเที่ยวจีน 
  • การจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญ เคยเกิดขึ้นในปี 2559 แต่จากนั้นเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดี ปรากฎว่า ในปี 2565 ศาลฏีกาก็ยกฟ้อง เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ 
  • ปัญหานี้กลับมาได้รับความสนใจ เพราะจีนเปิดประเทศ และไทยก็คาดหวังว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทย สร้างรายได้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2566 แต่ก็เป็นห่วงว่าปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญจะกลับมาด้วย และอาจเป็นแบบที่หนักกว่าเดิม คือ คนจีนดำเนินธุรกิจสีเทาเบ็ดเสร็จ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ถ้าจะบอกว่า ปี 2566 นี้ การท่องเที่ยว คือความหวัง (เดียว) ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตก็คงจะไม่ผิด โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งก่อนโควิดเป็นชาติที่มาเที่ยวไทยอันดับ 1 แต่สิ่งที่คนเป็นห่วงตามมาจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน คือ ปัญหา “ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ”

ทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ อะไร ทำไมจะต้องเป็นห่วงเรื่องนี้ วันนี้พี่ทุยจะมาเล่าให้ฟัง 

รู้จักกับ ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ

ชื่อภาษาอังกฤษ​

  • zero dollar tour​
  • zero fare tour ​
  • unreasonably low-priced tour  

ชื่อภาษาจีน

  • 零团费 (Ling tuan fei – หลิงถวนเฟ่ย) 

นิยาม 

ทัวร์ศูนย์เหรียญ คือ แพ็กเกจนำเที่ยวที่บริษัททัวร์จากประเทศต้นทาง ซึ่งหลัก ๆ ก็คือ จีน ขายให้กลุ่มนักท่องเที่ยวในราคาต่ำกว่าต้นทุน เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการนำเที่ยวให้บริษัททัวร์ในไทยที่รับนักท่องเที่ยวไปดูแลต่อแม้แต่เหรียญเดียว หรืออาจจะได้รับเงินค่าซื้อหัวลูกค้ามาจากบริษัททัวร์ในไทยด้วยซ้ำ  

เมื่อมาถึงไทยแล้ว บริษัททัวร์ในไทยก็จะบังคับพากลุ่มนักท่องเที่ยวเหล่านี้ไปตามร้านค้าเครือข่าย เพื่อซื้อสินค้าและบริการในราคาที่สูงเกินจริง เพื่อหากำไรจากช่องทางนี้ชดเชยรายได้ค่าธรรมเนียมการนำเที่ยวที่ไม่ได้รับ

นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย

เพิ่งเริ่มเดินทางท่องเที่ยวครั้งแรก มีประสบการณ์น้อย และเน้นเดินทางแบบประหยัด

ปัญหาที่ตามมาจาก ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ 

การมีอยู่ของทัวร์ศูนย์เหรียญ สร้างปัญหาหลายด้านให้เมืองไทย ดังนี้

1. ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยเสียหาย 

เพราะเมื่อบริษัททัวร์ไทยไม่ได้ค่าธรรมเนียมการนำเที่ยว และอาจจะต้องจ่ายเงินซื้อค่าหัวนักท่องเที่ยว จึงต้องประหยัดต้นทุนทุกทาง ทั้งค่าที่พัก อาหาร การเดินทาง และมัคคุเทศก์ และต้องบังคับนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าและบริการให้ได้ตามยอดที่กำหนด ซึ่งในบางครั้งถ้ามัคคุเทศก์อาจจะโดนปรับด้วย ถ้าไม่สามารถทำยอดซื้อได้ และเมื่อไหร่ที่รู้ว่าการนำเที่ยวนั้นจะไม่คุ้มทุน ก็จะทิ้งคณะนักท่องเที่ยว

2. สถานที่ท่องเที่ยวได้รับความเสียหาย 

เพราะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์ศูนย์เหรียญ มักจะขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับข้อปฏิบัติที่ควรกระทำในการท่องเที่ยว จึงมักจะสร้างความสกปรก เสียหายให้กับแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งอาจจะมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 

3. ผลกระทบจากการถูกคนจีนมาเปิดธุรกิจกินรวบรายได้

เนื่องจากคนจีนก็เห็นโอกาสจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยที่เติบโต จึงปลอมบัตรประชาชนไทย หรือร่วมมือกับคนไทยเปิดธุรกิจแบบครบวงจรเพื่อเป็นตัวแทนรับนักท่องเที่ยวจีนโดยตรง ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทยจริง ๆ ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย  หรืออาจแทบไม่ได้อะไรเลย ไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทย  

4. ผลกระทบด้านการจ้างงาน 

อาจจะเกิดการแย่งอาชีพคนไทย จากการที่คนจีนมาทำหน้าที่มัคคุเทศก์เถื่อน หรือในกรณีที่มีการจ้างมัคคุเทศก์ไทยที่มีบัตรมัคคุเทศก์จริง ๆ ก็อาจจะจ้างคนที่มีไม่มีความถนัดทางภาษา ประสบการณ์น้อยในราคาถูก ​เพื่อมานั่งหน้ารถ หรือที่เรียกว่าเป็น Sitiing guide ทำหน้าที่อำนวยความสะดวก ประสานงานต่าง ๆ แต่ไม่ได้ให้ความรู้ หรือนำเที่ยวใด ๆ จริง ๆ 

ถ้าดูจากข้อมูลที่พี่ทุยหยิบมาเล่าให้ฟัง ก็ต้องบอกว่า เรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งภาคท่องเที่ยวไทยก็มีการพูดถึงปัญหานี้มานาน มีความพยายามจะแก้ปัญหานี้กันตลอด ส่วนทางการจีนก็เคยพยายามแก้ปัญหานี้ และทั้ง 2 ประเทศก็เคยมีความพยายาม​ทำงานร่วมกัน 

ตัวอย่างความพยายามแก้ปัญหา ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ

ปี 2555

หน่วยงานกำกับด้านการท่องเที่ยวของจีน ออกกฎคุมเข้มการทำทัวร์ที่ราคาไม่สมเหตุสมผล ทำให้ตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวในจีนต้องให้ยกเลิกการขายแพ็กเกจทัวร์ที่ไม่มีคุณภาพ ที่หารายได้จากการพานักท่องเที่ยวไปชอปปิง 

ปี 2558

24 ธ.ค.​2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยในช่วงเวลานั้น พร้อมด้วยตัวแทนจาก กรมการท่องเที่ยว กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน และสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย  ประชุมร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ

หลังจากนั้นก็ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือการบริหารจัดการการแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์แก่นักท่องเที่ยวชาวจีน โดยมีสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กำกับดูแลการแก้ไขปัญหาการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์

สิ่งที่ดำเนินการร่วมกัน 

  1. การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างองค์กรทั้งหมดนี้ เกี่ยวกับพฤติกรรม การประกอบธุรกิจนำเที่ยวผิดกฎหมาย โดยมีกรมการท่องเที่ยวเป็นศูนย์กลางของข้อมูล
  2. สร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว ไม่บังคับข่มขู่ ไม่หลอกลวง ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว
  3. ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ต้องใช้มัคคุเทศก์ไทยที่มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย
  4. ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ต้องไม่เรียกเก็บค่าหัว ค่าปรับจากมัคคุเทศก์ และมัคคุเทศก์ต้องไม่จ่ายค่าหัว ค่าปรับให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
  5. มัคคุเทศก์ต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อย รักษามารยาท ปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์อย่างเต็มกำลังความสามารถ
  6. ห้ามมิให้มัคคุเทศก์จำหน่ายสินค้าและบริการ โดยมิได้รับความยินยอมจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
  7. กำกับดูแล ปราบปราม ตรวจสอบ และดำเนินการติดตาม บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดเต็มกำลังความสามารถ

ปี 2559 

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CNTA)  ว่าด้วยความร่วมมือในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีสาระสำคัญ คือ​ 

1. ตั้งคณะทำงานร่วมกันในการดูแลให้นักท่องเที่ยวทั้ง 2 ประเทศ ได้รับความปลอดภัยในการท่องเที่ยวและได้รับความเป็นธรรมจากบริษัทนำเที่ยว 

2. ร่วมกันควบคุมดูแล และจัดการด้านการท่องเที่ยว รับมือเมื่อเกิดเหตุร้ายกับนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ  

3. ร่วมกันประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพและการฝึกอบรมบุคลากรด้านการท่องเที่ยวให้มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ​ ร่วมกันฝึกอบรมมัคคุเทศก์และหัวหน้าทัวร์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบรรยาย ความรู้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งภาษาไทยและภาษาจีน พร้อมกำกับดูแลความเรียบร้อยของนักท่องเที่ยว 

 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ Alitrip บริษัทตัวแทนจำหน่ายท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ยักษ์ใหญ่ของจีน เพื่อสนับสนุนโปรโมทแพ็กเกคท่องเที่ยวคุณภาพในไทย

ปี 2566

จีน – เดือน เม.ย.​ 2566 กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ออกหนังสือเวียนเกี่ยวกับการปราบปรามการทำทัวร์ราคาไม่สมเหตุสมผล ที่บังคับการซื้อสินค้า โดยระบุว่า บริษัทนำเที่ยวในจีนจะต้องปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด ในการลงนามในสัญญาท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยว ส่งเสริมการใช้สัญญาอิเล็กทรอนิกส์ และห้ามเปลี่ยนกำหนดการเดินทางโดยไม่ได้รับอนุญาต 

ไทย – เดือน เม.ย.​ 2566 กรมการท่องเที่ยว ทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เปิดให้บริษัทนำเที่ยวตลาดจีนขึ้นทะเบียนคู่ค้าไทย-จีน และจัดส่งบัญชีคู่ค้าให้กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อแจ้งสถานทูตไทยในจีนทุกแห่งใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยว พร้อมประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวจีนซื้อทัวร์กับบริษัทนำเที่ยวตามบัญชีรายชื่อ โดยในกรณีที่เดินทางกับบริษัทที่ไม่มีชื่อในบัญชีจะถูกตรวจสอบประวัตินักท่องเที่ยวเข้มข้นขึ้น มีการพิจารณาโปรแกรมการเดินทางว่าเข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญหรือไม่ 

มีการเตรียมทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ระดับรัฐบาลกับรัฐบาล ลงนามร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สาธารณรัฐประชาชนจีน วางแนวทางแก้ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ ไกด์เถื่อน ธุรกิจนอมินี ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และการคุ้มครองสิทธิของนักท่องเที่ยวจีน

ตัวอย่างการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญที่เคยเกิดขึ้นในไทย 

พี่ทุยพาไปดูความพยายามแก้ไขทัวร์จีนศูนย์เหรียญในไทยกัน

การจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญในเดือน ส.ค​. 2559

รัฐบาลในเวลานั้น ได้จับกุมผู้ประกอบการที่ถูกกล่าวหาว่าทำทัวร์ศูนย์เหรียญ ด้วยข้อหาเป็นอั้งยี่​ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับค่าบริการ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว​ ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวหาประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมจากนักท่องเที่ยว ร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้อนุญาต และบางรายยังถูกต้องข้อหาร่วมกันฟอกเงินด้วย

ผลที่ตามมาจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ 

  • นักท่องเที่ยวจีนยกเลิกเดินทางมาไทย 40-50%  
  • บริษัททัวร์ชะลอการรับ หรือไม่กล้ารับนักท่องเที่ยวจีนชั่วคราว กลัวเข้าข่ายทัวร์ศูนย์เหรียญ จึงขอรอดูความชัดเจนไปอีกระยะ 
  • ผู้ประกอบการที่รับทัวร์จีนได้รับผลกระทบ เช่น โรงแรมขนาดเล็กที่รับทัวร์จีนเป็นหลัก ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากรายได้หลักหายไป นอกจากนี้ยังมี ร้านอาหาร ร้ายขายของที่ระลึก รถทัวร์ ด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากดำเนินการจับกุม และดำเนินคดี จนล่วงเลยถึงเดือน มี.ค. 2565 ศาลฎีกาก็ยกฟ้องคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ โดยให้เหตุผลว่า ข้อกล่าวหาเป็นเพียงการคาดคะเนเอาเอง ไม่มีพยานหลักฐานอื่นที่มีเหตุผลสนับสนุน ส่วนเรื่องการพาไปซื้อสินค้า ไม่ปรากฎว่ามีการบังคับข่มขู่ ไม่ปรากฎว่าเป็นสินค้าไม่มีคุณภาพและราคาสูงกว่าปกติมากในลักษณะเอาเปรียบ  สินค้ามีใบรับประกัน สามารถนำมาคืนได้ในภายหลัง

ก็ต้องบอกว่า การเอาผิดทัวร์ศูนย์เหรียญไม่ได้ง่ายเท่าไหร่ เพราะหาหลักฐานมัดตัวยาก ซึ่งปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญถูกพูดถึงมากอีกครั้งในปี 2566 ก็เพราะว่า ปีนี้จีนเปิดประเทศแล้ว วงการท่องเที่ยวไทยก็หวังว่า นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมาเที่ยวไทยมาก สอดคล้องกับข้อมูลของ Airbnb ที่ทำสำรวจไว้ช่วงปลายปี 2565 ว่า ไทยเป็นจุดหมายในฝันอันดับ 1 ที่คนจีนอยากจะเดินทางมา โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา

อย่างไรก็ตาม ก็มีความกลัวเช่นกันว่าทัวร์ศูนย์เหรียญจะคืนชีพตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่กลับมาด้วย 

ปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญมีแค่ไทยรึเปล่า?

พี่ทุยต้องบอกว่า ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ไทยเราหรอกที่เจอทัวร์ศูนย์เหรียญ เพราะประเทศอื่น เมืองอื่น ที่รับนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมาก เช่น ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย สิงคโปร์ ก็เจอปัญหานี้แบบเรา และก็มีความพยายามแก้ปัญหา หรือแบนทัวร์ศูนย์เหรียญเช่นกัน

นอกจากนี้ พี่ทุยมองว่า จริง ๆ แล้ว ก่อนหน้านี้ที่เราเคยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ เราก็อาจจะเคยเจอทัวร์ราคาถูกที่พาเราไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปนิดเดียว แต่พาเข้าร้านเครือข่ายเยอะ ๆ ไม่ต่างจากที่คนจีนมาไทยแล้วต้องไปร้านเครือข่ายเพื่อซื้อสินค้า ต่างกันตรงที่ ทัวร์ที่เราไปอาจจะไม่ได้ถึงขั้นต่ำกว่าต้นทุน และไม่ถูกบังคับซื้อสินค้า เป็นการซื้อตามความสมัครใจ เพียงแต่ราคายิ่งถูกเท่าไหร่ จำนวนร้านค้าเครือข่ายที่เราจะต้องไปก็มากเท่านั้น 

สุดท้ายนี้ พี่ทุยเชื่อว่า ถ้านักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยแบบเต็มเหนี่ยว และระหว่างนี้ แต่ละฝ่ายก็แกล้งทำลืม ๆ กันไป เดี๋ยวปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญก็ต้องกลับมาแน่นอน ยกเว้นว่า ถ้าทางฝั่งรัฐบาลกลางจีน ออกมาลงดาบจริงจัง คุมเข้มเบอร์แรง เหมือนกับที่ปราบปรามด้านเทคโนโลยี หรือการศึกษา ที่เราเห็นกัน

พี่ทุยเชื่อว่า ปัญหาคงจะซา ๆ ลงไปบ้าง แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า มีคนจีนจำนวนมากมาตั้งรกราก หรือมีคนไทยที่เข้าไปร่วมขบวนการทุนจีนสีเทา ที่เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตให้เราเห็นกันอยู่เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งพี่ทุยมองว่า กลุ่มนี้ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีความเชื่อมโยงกับทัวร์ศูนย์เหรียญได้ในอนาคต

สถิตินักท่องเที่ยวจีนที่มาไทย ทัวร์จีนศูนย์เหรียญ

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile