อีกหนึ่งธีมการลงทุนที่น่าสนใจก็คือธีม Global ที่กระจายการลงทุนเพื่อเข้าถึงสินทรัพย์คุณภาพทั่วโลก สำหรับใครที่กำลังมองหา SSF/RMF ที่กระจายลงทุนไปทั่วโลก วันนี้พี่ทุยอยากมาแนะนำ 2 กองทุนจาก UOBAM ขนมาทั้ง “ตราสารหนี้” ที่เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ และ “หุ้น” สำหรับการลงทุนระยะยาว
จะมีกองทุนไหนบ้าง ? น่าสนใจยัง ? พี่ทุยสรุปมาให้เรียบร้อยแล้ว!
สำหรับใครที่กำลังมอง SSF/RMF สำหรับการลดหย่อนปลายปี หนึ่งในธีมที่พี่ทุยแนะนำให้ทุกคนลงทุนเลยก็คือธีม “Global” ที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลก เพราะจะช่วยทำให้สามารถเข้าถึงสินทรัพย์การลงทุนที่หลากหลาย พร้อมกับเข้าถึงหุ้นที่ดีมีคุณภาพแข็งแกร่งได้ แล้วถ้าหากเราดูผลตอบแทนในอดีต การลงทุนแต่ในหุ้นเท่านั้นอาจจะไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับนักลงทุนในเวลานี้สักเท่าไหร่
และด้วยเงื่อนไขของสรรพากรสำหรับ SSF ต้องถือ 10 ปี สำหรับ RMF ต้องถืออย่างน้อย 5 ปีและอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งด้วยเงื่อนไขนี้แปลว่าการลงทุน SSF และ RMF คือการลงทุนในระยะยาวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
วันนี้พี่ทุยจะมาแนะนำอีก 2 กองทุนที่กระจายการลงทุนที่คัดมาแล้วแบบเน้น ๆ จาก UOBAM ให้เลือกลงทุนกันได้เลย
กองทุน UGISRMF จาก UOBAM
มาที่กองแรกเลย เหมาะกับคนที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง เป็นกองทุนที่กระจายการลงทุนในตราสารหนี้ นั่นก็คือ “กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ UGISRMF” ที่จะไปลงทุนในกองตราสารหนี้ชื่อดังอย่าง PIMCO GIS Income ที่เป็นกองตราสารหนี้แบบ Active ที่ทำผลตอบแทนได้อย่างน่าสนใจ
ซึ่งในช่วงเวลาดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแบบนี้ การลงทุนในตราสารหนี้แบบทั่วไป ๆ อาจจะไม่สามารถทำผลตอบแทนที่ดีหรืออาจจะส่งผลขาดทุนกลับมาได้เลย และยังมีสภาวะ Recession คอยกดดันอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะลงทุนไม่ได้เลย ซึ่งกลยุทธ์ที่ต้องงัดขึ้นมาใช้ในช่วงนี้สำหรับการลงทุนตราสารหนี้เลยก็คือ
1. Duration สั้น หรืออายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ที่สั้นลงเพื่อให้ครบกำหนดอายุเร็วขึ้นและนำเงินไปซื้อตราสารหนี้ชุดใหม่ ๆ ที่ออกมาได้ เพื่อให้ได้ Yield ที่เพิ่มขึ้น
2. High Yield Bond เป็นตราสารหนี้ที่สามารถให้อัตราดอกเบี้ยที่สูง เมื่อเทียบกับการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
3. Floating Rate และ Inflation Linked Bond เมื่อมีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายหรือเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น เราจะได้รับดอกเบี้ยที่เพิ่มตามการปรับเพิ่มทำให้มีความเสี่ยงเรื่อง Interest Risk ที่ลดลง
ซึ่ง PIMCO GIS Income ได้มีการลด Duration ลงมาเหลือเพียง 2.06 ปี แถมยังมีการใช้ High Yield Bond ที่ให้ดอกเบี้ยที่สูง แต่ก็ยังคำนึงถึงคุณภาพของตราสารหนี้ เพื่อให้สามารถทนสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นด้วย ด้วยกลยุทธ์นี้ทำให้ PIMCO GIS Income มีระดับ YTM ที่ 6.81% ที่ Duration 2.06 เมื่อเทียบกับ US high Yield มี YTM ที่ 7.65% Duration ประมาณ 4 เรียกว่า Duration ดีแล้วยังรักษาระดับ YTM ได้น่าสนใจ
แล้วถ้าหากเราไปดูผลตอบแทนย้อนหลัง ก็สามารถชนะ Benchmark ได้อย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นฝีมือของกองทุนที่สามารถเอาชนะตลาดได้ทุกช่วงเวลา และนอกจากนี้ PIMCO GIS Income ยังได้รับการันตีคุณภาพ 4 ดาวจาก Morningstar ด้วย
ลงทุน SSF/RMF กับกองทุน UGQG-SSF จาก UOBAM
หรือสำหรับใครอยากจะเสี่ยงมาขึ้นหน่อย การลงทุนในตราสารหนี้อาจจะรู้สึกว่าไม่เร้าใจตอบแทนไม่ดึงดูดเท่าไหร่ ซึ่งส่วนตัวพี่ทุยเองแนะนำให้ใส่หุ้นเยอะสักหน่อยสำหรับการลงทุน SSF/RMF นะ เพราะมันเป็นการลงทุนระยะยาว สำหรับกองทุนที่แนะนำก็คือ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ ชนิดเพื่อการออม หรือ UGQG-SSF นั่นเอง
ที่จะลงทุนในกองทุนหลัก United Global Quality Growth Fund ที่เน้นคัดเลือกลงทุนทั่วโลก หุ้นเติบโตได้ดี มีคุณภาพสูง
ซึ่ง United Global Quality Growth Fund จะมีกฎเหล็กสำหรับการคัดเลือกหุ้นเข้าพอร์ตอยู่ 5 ข้อหลักก็คือ
1. รายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเป็นรายได้แบบ Organic Growth คือไม่ได้มีรายได้พิเศษ หรือการเติบโตจากการส่งเสริมการขายที่รุนแรง
2. ธุรกิจต้องแผนธุรกิจที่มีคุณภาพ มีแผนการสร้างกำไรที่โดดเด่น
3. ประเมินมูลค่าออกมาได้ต่ำ ณ ปัจจุบัน เพื่อให้สะท้อนโอกาสเติบโตให้อนาคตได้
4. มีผลตอบแทนกลับมาให้กับผู้ถือหุ้นไม่ว่าจะทั้งจากการเอากำไรไปลงทุนต่อ หรือเงินปันผลที่จ่ายกลับมาให้กับผู้ถือหุ้น
5. มีการพัฒนาของพื้นฐานกิจการต่อเนื่อง
ซึ่งวิธีการคัดเลือกหุ้นจะเห็นได้ว่า United Global Quality Growth Fund จะเน้นคัดเลือกหุ้นแบบ Bottom Up Selection เพื่อให้ได้หุ้นที่ดีมีคุณภาพและมีโอกาสเติบโตในอนาคตได้
โดยทีมผู้จัดการกองทุนเค้าจะคัดเลือกหุ้นกว่า 3,000 ตัวทั่วโลกให้เหลือ Top Rank 500 จากนั้นจะทำการไปเจาะลึกรายบริษัทเพื่อเลือกเพียง 60 – 90 บริษัทเข้ามาที่พอร์ตของกองทุน ซึ่งด้วยประสบการณ์กว่า 37 ปีของผู้จัดการกองทุนทำให้เข้าใจวัฏจักรของเศรษฐกิจมาเป็นอย่างดี
เรียกว่าเป็นอีกกองทุนหนึ่งที่มีการคัดเลือกแบบ Selective แบบสุด ๆ เพราะถ้าหากไปดูหุ้นในพอร์ตทั้งหมดเราจะเห็นมีมากกว่า 81% ที่เหมือนกับดัชนีชี้วัด (Benchmark) เลย
ซึ่งด้วยเหตุนี้ถ้าหากเราไปดูผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนในระยะสั้น ๆ จะเห็นได้ว่าออกต่ำกว่าในช่วงระยะสั้น 1 – 3 ปี เพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มวัฏจักร (cyclical stock) และ หุ้นกลุ่มพลังงานที่มีการปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันในช่วงปีที่ผ่านมา แต่ต้องยอมรับว่าหุ้น 2 กลุ่มนี้เป็นหุ้นเล่นรอบตามวัฏจักรทำกำไรตามราคาพลังงานหรือจังหวะของเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งจะไม่เข้าเงื่อนไขการเลือกหุ้นเข้ากองทุน
แต่ถ้าหากเรามองในระยะยาว 5 ปีขึ้นไปจะเห็นว่า United Global Quality Growth Fund ทำผลตอบแทนได้น่าสนใจที่เดียว ส่วนตัวพี่ทุยเวลาเลือกกองทุนจะไม่ได้เลือกมองแค่ ผลตอบแทนย้อนหลังเท่านั้น แต่ต้องมองแนวโน้มระยะยาวในอนาคตด้วยว่าเป็นอย่างไร แล้วยิ่งลงทุนผ่าน SSF /RMF ด้วยแล้ว ต้องมองอนาคตไกล ๆ ระดับ 10 ปีเลย
ซึ่งระหว่างทางเราก็ต้องติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนอย่างน้อยปีละครั้ง แต่ถ้าออกนอกลู่นอกทางเราสามารถ “สับเปลี่ยน” ไปยัง SSF/RMF อื่น ๆ ได้
สำหรับใครสนใจกองทุนรวม SSF/RMF จาก UOBAM สามารถเข้าไปที่ www.uobam.co.th หรือโทร 0 2786 2222
แต่ถ้าจะเปิดบัญชีลงทุนผ่านแอป UOBAM Invest ก็ทำได้ทันที
เงื่อนไข:
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะกองทุน นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
อ่านเพิ่ม