เลือกลงทุน RMF เครื่องมือสำหรับเกษียณกับ บลจ. อเบอร์ดีน

เลือกลงทุน RMF สุดยอดเครื่องมือสำหรับเกษียณกองทุนไหนดี ?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากสำคัญคนไทยเลยก็คือ คนไทยมีความสามารถในการเกษียณอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงมาก
  • สินทรัพย์การเงินที่พี่ทุยแนะนำว่าเป็นสุดยอดเครื่องมือสำหรับการเกษียณเลยก็คือ Retirement Mutual Fund หรือที่เราต้องเรียกติดปากกันว่า RMF ที่เป็นกองทุนประเภทพิเศษที่ได้รับเงินการลดหย่อนภาษีจากทางสรรพากร
  • ตอนนี้ทาง “บลจ. อเบอร์ดีน” มีโปรโมชันให้สำหรับนักลงทุนที่เปิดบัญชีและกำลังจะซื้อ RMF และ SSF สำหรับการลดหย่อนภาษี

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เรื่อง “เกษียณอายุ” สำหรับคนไทยในตอนนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นจัดการเงินสำหรับเกษียณอายุ แนะนำว่า RMF คือหนึ่งในเครื่องมือที่ดีมาก ๆ แถมยังได้ลดหย่อนภาษีไปด้วย วันนี้พี่ทุยมี 5 กองทุน 5 สไตล์จาก “บลจ. อเบอร์ดีน” มาแนะนำกัน

เกษียณอายุ

หนึ่งเรื่องเวลาที่เราวางแผนการเงินที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ “เกษียณอายุ” เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่ทำให้เราหันมาสนใจจัดการเรื่องเงิน แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างมากสำคัญคนไทยเลยก็คือ คนไทยมีความสามารถในการเกษียณอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงมาก

สถิติจาก Mercer บริษัทให้คำปรึกษาระดับโลก และ CFA Institute ร่วมกันจัดทำ Mercer CFA Institute Global Pension Index (MCGPI) ซึ่งเป็นดัชนี “ระบบบำนาญทั่วโลก” ประจำปี 2022 เป็นตัวเลขให้เห็นกันแบบชัด ๆ ยิ่งกว่าหนัง 4K ว่า “ประเทศไทย” ได้การตัดเกรดอยู่ในระดับ D หรือเรียกว่าอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วงเลยก็ว่าได้ ซึ่งแปลว่าถ้าใครหวังว่าจะหวังพึ่งพา “ระบบบำนาญ” ในบ้านเราอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสักหน่อย

เลือกลงทุน RMF เครื่องมือสำหรับเกษียณกับ บลจ. อเบอร์ดีน

แต่ทีนี้พอไปดูงานวิจัย หรือสถิติเรื่องการออมเงินของคนไทยในปัจจุบัน บอกเลยว่าอยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง โดยปัญหาก็คือคนส่วนใหญ่รู้ว่าต้องออมเงิน แต่ไม่รู้ว่าต้องออมเท่าไหร่ถึงจะพอ หรือบางคนออมเงินเป็นอย่างเดียว แต่อาจไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปลงทุนอย่างไรให้งอกเงย ซึ่งอาจจะทำให้ปัญหาเรื่องการเกษียณกลายเป็นปัญหาหลักในอนาคตเลยก็ว่าได้

เลือกลงทุน RMF เครื่องมือสำหรับเกษียณกับ บลจ. อเบอร์ดีน

สำหรับการวางแผนเกษียณ หรือการคำนวณว่าเราต้องวางแผนเก็บเงินเท่าไหร่เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเกษียณ จริง ๆ พี่ทุย ก็มีหลักการคำนวณแบบง่าย ๆ เพื่อให้เราเห็นภาพได้อยู่เหมือนกันนั่นก็คือการเตรียมเงินไว้อย่างน้อย 70% ของค่าใช้จ่ายก่อนเกษียณในแต่ละเดือน

สมมติว่าเราใช้จ่ายอยู่ตอนนี้เดือนละ 50,000 บาท อย่างน้อยในวัยเกษียณเราต้องคำนวณไว้ว่าจะต้องเตรียมไว้อย่างน้อย 70% ของค่าใช้จ่ายนั้น ๆ เป็นอย่างน้อย หรือเท่ากับ 35,000 บาท

สมมติว่าเราตั้งใจเกษียณตอนอายุ 55 ปี คาดว่าจะมีอายุขัยถึง 85 ปี ก็แปลว่าเราต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อย ๆ เลยก็ 35,000 บาท x 12 เดือน x 30 ปีชีวิตเป็นช่วงชีวิตหลังเกษียณจะเท่ากับ 12,600,000 บาทเป็นกองทุนสำหรับเกษียณที่ควรมีเลย ณ วันเกษียณ

หรือถ้าใครอยากคำนวณแบบละเอียดมีข้อมูลรายละเอียดพร้อมชัดเจนเลย ก็สามารถใช้เครื่องคิดเลขในการคำนวณได้ที่ https://www.set.or.th/project/caltools/www/html/retirement.html

จัดการแผนเกษียณ

สำหรับใครเริ่มรู้สึกว่าอยากเริ่มต้นจัดการแผนเกษียณตัวเอง พี่ทุยแนะนำว่าลองคำนวณแบบละเอียดดูจะได้เห็นภาพว่าเราต้องเริ่มออมเดือนละเท่าไหร่ เพื่อให้สามารถถึงเป้าหมายได้

ซึ่งสินทรัพย์การเงินที่พี่ทุยแนะนำว่าเป็นสุดยอดเครื่องมือสำหรับการเกษียณเลยก็คือ Retirement Mutual Fund หรือที่เราต้องเรียกติดปากกันว่า RMF ที่เป็นกองทุนประเภทพิเศษที่ได้รับเงินการลดหย่อนภาษีจากทางสรรพากร

ทางสรรพากรให้เงื่อนไขไว้ว่าเงินที่นำมาซื้อหน่วยลงทุน RMF สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อนับรวมกับ SSF กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กบข. กอช. ประกันชีวิตแบบบำนาญและกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนห้ามเกิน 500,000 บาท พร้อมด้วยเงื่อนไขการถือครองอย่างน้อย 5 ปีและขายได้เมื่อายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เท่านั้น

เลือกลงทุน RMF เครื่องมือสำหรับเกษียณกับ บลจ. อเบอร์ดีน

ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ RMF เหมาะกับการเกษียณอายุมาก ๆ ก็เพราะว่าเงื่อนไขการถือครองที่ต้องซื้อทุกปี และต้องถืออย่างน้อย 5 ปีและขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ ช่วยทำให้การเก็บเงินเกษียณเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น

1. การบังคับ “ซื้อทุกปี” ก็เปรียบเสมือนกับการทำ DCA ที่ทยอยลงทุนทำให้เราได้ต้นทุนเฉลี่ยที่ดี ตัดเรื่องการจับจังหวะตลาดออกไปได้ แถมยังช่วยเรื่องวินัยในการลงทุนได้เป็นอย่างดี

2. ช่วยทำให้เราสามารถล็อคเงินไปจนถึง “อายุ 55 ปี” ของเราให้มั่นใจได้ว่าเงินก้อนนี้จะถูกนำมาใช้กับเป้าหมายเกษียณอายุอย่างแน่นอน

3. ช่วยทำให้เป็นการถือลงทุนใน “ระยะยาว” ช่วยทำให้ผลตอบแทนคาดหวังน่าสนใจขึ้น แถมยังช่วยลดความผันผวนในการลงทุนได้เป็นอย่างดี

5 กองทุน RMF 5 สไตล์จาก บลจ. อเบอร์ดีน

ABGDD-RMF

สำหรับใครที่กำลังมองหา RMF สำหรับการลงทุนสำหรับเกษียณอายุ แถมยังได้ลดหย่อนภาษีไปด้วย วันนี้พี่ทุยมี 5 กองทุน 5 สไตล์จาก “บลจ. อเบอร์ดีน” มาแนะนำกัน

1. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน โกลบอล ไดนามิค ดิวิเด็น เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ ABGDD-RMF

ABGDD-RMF จะนำเงินลงทุนไปลงทุนผ่านกองทุนหลัก “Aberdeen Standard SICAV I – Global Dynamic Dividend Fund Z Gross MInc US ” ที่มีนโยบายลงทุนกระจายลงทุนหุ้นเด่นทั่วโลก 80 – 100 ตัว

โดยมองหาหุ้นที่มีความสามารถในการเติบโตในระยะยาว ซึ่งกองทุนหลักตั้งเป้าจ่ายเงินปันผลรายเดือนสม่ำเสมอ ด้วยอัตราการจ่ายปันผลที่สูงกว่า ดัชนี้ชี้วัด MSCI AC World (Net) Index 

ซึ่ง ABGDD-RMF จะมีกลยุทธ์พิเศษด้วยการแบ่งเงิน 5% ของพอร์ตไปทำกลยุทธ์ที่เรียกว่า Dividend Capture Sleeve ด้วยการไปลงทุนในระยะสั้นในบริษัทที่มีหรือจะมีเหตุการณ์พิเศษต่าง ๆ เพื่อหาโอกาสในการรับเงินปันผลที่จ่ายในกรณีพิเศษ (One off or Special dividends)” เพื่อเพิ่มเงินปันผลในภาพรวมให้สูงขึ้น

โดย ณ ปัจจุบัน กองทุนหลักของ ABGDD-RMF เน้นกระจายการลงทุนใน 3 อุตสาหกรรมหลัก IT (16.39%) , Finance (16%) , และ Healthcare (14.22%) (ที่มา: abrdn, 31 ต.ค. 2565) 

สำหรับใครที่สนใจ ABGDD-RMF กองนี้กำลัง IPO ในช่วง 6 – 16 ธ.ค. 2565 นี้ เป็นช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับการซื้อลดหย่อนแบบพอดิบพอดีเลย 

กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ เพื่อการเลี้ยงชีพ

ABSM-RMF

2. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ ABSM-RMF

ABSM อีกหนึ่งกองทุนที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนานล่าสุดกำลังเปิด IPO RMF ใหม่ชื่อว่า ABSM-RMF กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ เพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSM-RMF) 

ABSM-RMF มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กของไทย ที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีศักยภาพที่สามารถเติบโตได้ในระยะยาว พร้อมก้าวเป็นบริษัทขนาดใหญ่ในอนาคต โดยหุ้นที่เน้นลงทุนเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาด (Market Capitalization) ไม่เกิน 80,000 ล้านบาท ณ วันที่กองทุนตัดสินใจเข้าลงทุน และกองทุนยังให้ความสำคัญกับ ESG เพื่อโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย 

โดยปัจจุบัน ABSM-RMF ให้ความสนในใน 3 ธีมหลักก็คือ 

– Digital Transformation , Aging Society และ Tourism ที่ถือว่าเป็น 3 Megatrend หลักของประเทศไทย ณ ปัจจุบัน (ที่มา : abrdn, ก.ย. 2565. ธีมการลงทุนดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมในอนาคต)

สำหรับใครที่สนใจ ABSM-RMF กำลัง IPO ในช่วง 6 – 16 ธ.ค. 2565 นี้เช่นเดียวกัน

กองทุุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ

ABSC-RMF

3. กองทุุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทแคปปิตอลเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ ABSC-RMF

ABSC-RMF จะเป็นกองทุนรวมหุ้นที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีที่มีศักยภาพเติบโตอย่างมั่นคง และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม นอกจากนั้นกองทุน ABSC-RMF ยังได้รับ  MSCI ESG Rating ระดับ A (ที่มา: MSCI, 26 ตุลาคม 2565)  ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ABSC-RMF มีธีมการลงทุนหลักทั้งหมด 3 ธีมด้วยกัน

ธีมแรก “Re-Opening” หรือการเปิดประเทศ โดยหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์ก็จะมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นค้าปลีก โรงแรม ห้าง อสังหาฯ และ นิคมอุตสาหกรรม

ธีมที่สอง “Global recession risk” โดยโฟกัสที่กลุ่ม Defensive เช่น โรงพยาบาล โรงไฟฟ้าที่เน้นพลังงานสะอาด

ธีมที่สาม “Long term interest rate hike” กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น เช่น กลุ่มธนาคาร 

(ที่มา: abrdn,  ก.ย. 2565, ธีมการลงทุนอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)

ABSC-RMF จะเหมาะสำหรับคนที่สนใจลงทุนในหุ้นไทยและมองว่าไทยเรากำลังจะฟื้นตัวได้ดี ซึ่งพี่ทุยแอบบอกก่อนว่าเลยว่าประเทศไทยเราเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่ IMF มองว่า GDP จะมีโอกาสเติบโตได้นะ ปัจจัยหลักก็คือเรื่อง  “Re-Opening” ที่ดึงนักท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นปัจจัยกำลังที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยกำลังจะกลับมา

กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ

ABSI-RMF

4. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทอินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ ABSI-RMF

ABSI-RMF เป็นกองทุนรวม “ตราสารหนี้” เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงสูงๆ ณ ปัจจุบัน ABSI-RMF จะเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ระยะสั้น อายุไม่เกิน 1 ปีเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้นอยู่ ณ เวลานี้

หรือในอีกมุมหนึ่ง ทำให้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งระยะเวลาของตราสารที่ถือครองหรือ Duration ที่สั้นถือว่าเป็นกลยุทธ์หลักของการลงทุนตราสารหนี้ ณ เวลานี้เลยก็ว่าได้ (ที่มา : abrdn, ต.ค. 2565)

หรือสำหรับใครที่มองว่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น ยังไม่ผ่านจุดต่ำสุดไป หรือยังไม่แน่ใจเรื่องความผันผวนของตลาดแต่ต้องซื้อ RMF เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีนี้ ก็สามารถลงทุน ABSI-RMF ไปก่อนได้ในช่วงนี้ แต่พอเห็นว่าจังหวะเริ่มดีก็สามารถ “สับเปลี่ยน” ไปยังกองทุน RMF อื่น ๆ ที่เราชอบได้ในอนาคต

กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ

ABAPAC-RMF

5. กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ ABAPAC-RMF

ABAPAC-RMF จะนำเงินลงทุนไปลงทุนผ่านกองทุนหลัก “ abrdn Pacific Equity Fund ” ที่มีนโยบายลงทุนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น เน้นคัดเลือกหุ้นที่มีคุณภาพ มีงบการเงินที่แข็งแกร่งแบบ Bottom-Up ดูพื้นฐานของกิจการเป็นหลัก และยังต้องให้ความสำคัญกับ ESG ด้วยซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างดีในระยะยาว 

โดย 6 ธีมหลักที่กองทุนหลักให้ความสนใจก็คือ Aspiration,  Building Asia, Digital Future, Tech Enablers, Health & Wellness และ Going Green ที่ถือว่ากำลังเป็นกระแสที่ตอบรับกับการเจริญเติบโตของภูมิภาคเอเชีย (ที่มา : abrdn, ก.ย. 2565. ธีมการลงทุนดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมในอนาคต)

– Aspiration ความมุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่งคั่งนำไปสู่การเติบโตอย่างรวดเร็วในการบริโภคสินค้าและบริการในระดับพรีเมียม ที่เริ่มขยายตัวไปในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ บริการทางการเงิน และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

– Building Asia เอเชียมีการขยายตัวของสังคมเมือง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้ผลิตวัสดุก่อสร้าง

– Digital Future การเติบโตของดิจิทัลแบบบูรณาการ การที่ภาคธุรกิจนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ สะท้อนอนาคตที่สดใส เช่น อีคอมเมิร์ซ เกมออนไลน์ ฟินเทค และ ผู้ให้บริการคลาวด์

– Tech Enablers หรือการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เอเชียมีห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีที่ดี สำหรับการเติบโตเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการเปิดตัว 5G, บิ๊กดาต้า และการเชื่อมต่อทางดิจิทัล

– Health & Wellness ด้วยแนวโน้มรายได้ที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งส่งผลไปทั้งห่วงโซ่คุณค่าในด้านต่างๆ เช่น การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามสัญญาของลูกค้า เภสัชกรรมเชิงนวัตกรรม และคลินิกการแพทย์

– Going Green ทั่วโลกต่างกำหนดนโยบายมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเอเชียก็พร้อมขับเคลื่อนในเรื่องนี้ ทั้งในแง่การขับเคลื่อนใช้พลังงานหมุนเวียน การผลิตแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งถ้าหากไปดู Top Holding ของ “ abrdn Pacific Equity Fund ” เชื่อว่าทุกคนที่เป็นนักลงทุนจะต้องรู้จักกันมาบ้างอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น TSMC , Samsung,  AIA Group ,  และ BHP Group (ที่มา : abrdn, ต.ค. 2565)

บลจ. อเบอร์ดีน มาพร้อมโปรชัน เน้นสำหรับการซื้อ RMF/SSF เพื่อลดหย่อนภาษี

เลือกลงทุน RMF เครื่องมือสำหรับเกษียณกับ บลจ. อเบอร์ดีน

แล้วตอนนี้ทาง “บลจ. อเบอร์ดีน” มีโปรโมชันให้สำหรับนักลงทุนที่เปิดบัญชีและกำลังจะซื้อ RMF และ SSF สำหรับการลดหย่อนภาษีด้วยนะ

โปรโมชันที่ 1 

รับหน่วยลงทุน “กองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) มูลค่า 100 บาท” 

สำหรับเงินลงทุนทุก ๆ 50,000 บาทใน RMF และ SSF ที่ร่วมรายการ (ยกเว้น ABSI-RMF) วันนี้ – 30 ธ.ค. 2565 
โปรโมชันที่ 2  

รับหน่วยลงทุน “กองทุนเปิด อเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น (ABCC) มูลค่า 200 บาท” 

สำหรับการเปิดบัญชีออนไลน์ ระหว่าง วันนี้ – 30 ธ.ค. 2565 

สนใจเปิดบัญชีออนไลน์กับ อเบอร์ดีน คลิกที่นี่ได้เลยครับ https://www.abrdn.com/th-th/investor/myinvestments/how-to-open-abrdns-online-trading-account

** เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด **

แต่ยังไงอย่าลืมศึกษาเรื่องเงื่อนไขและรายละเอียดก่อนการลงทุนนะทุกคน 

สำหรับใครสนใจและอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปได้ที่  https://www.abrdn.com/th-th/investor/what-we-do/tax-savings-document

หรือติดต่อ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ : 02-352-3388  Email : [email protected] 

ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งอาจทำให้ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก 

กองทุน ABGDD-RMF และ ABAPAC-RMF มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน

ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
บทความนี้เป็นบทความ Advertorial