ตั้งแต่ ChatGPT เปิดตัวเปิดราวปลายปีที่แล้ว ทั่วโลกเริ่มใช้ AI อย่างแพร่หลายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ด้านโลกการเงินก็เริ่มตื่นตัวกับการใช้ AI ช่วยลงทุน กันมากขึ้นเช่นกัน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ AI บอกว่าสินทรัพย์ไหนจะทำผลตอบแทนดีได้แม่นยำกว่ามนุษย์
วันนี้พี่ทุยเลยขอพานักลงทุนทุกคนไปดูกันหน่อยว่า AI จะเข้ามาทดแทนนักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมการเงินได้หรือยัง แต่ก่อนอื่นพี่ทุยขอพาไปรู้จักกับ AI ที่ใช้กันในวงการการเงินกันก่อน!!!
AI ช่วยลงทุน ได้จริงมั้ย? ช่วยอย่างไร?
ปัจจุบันวงการการเงินใช้ AI แบบที่เรียกว่า Generative AI ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับ ChatGPT และ Bard ของ Google มีลักษณะการทำงานเหมือนสมองมนุษย์ที่สามารถคิดวิเคราะห์งานซับซ้อนได้ โดย AI ถูกฝึกฝนด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลและเรียนรู้วิธีใช้ข้อมูลเหล่านั้นสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา เช่น เขียนนิยาย, สรุปรายงาน
ในสถาบันการเงินระดับมืออาชีพใช้ Generative AI เพื่ออ่านรายงานผลประกอบการ รายงานการประชุมผู้ถือหุ้น และเอกสารอื่นเพื่อหาสัญญาณ โอกาส หรือความเสี่ยงในการลงทุน โดยมองหาจากคำที่มีความสำคัญ ซึ่งหากใช้มนุษย์ก็ต้องใช้เวลามากกว่าถึงจะอ่านเอกสารเหล่านั้นเสร็จ
ส่วน Hedge Fund กำลังทดลองใช้ ChatGPT เขียนโค้ดโปรแกรม เขียนรายงานการลงทุนให้ลูกค้า หรือสรุปบทวิเคราะห์ ขณะที่ทั้งธนาคารพาณิชย์และ Fintech ใช้ chatbot ตอบคำถามการลงทุนกับลูกค้า ด้านสำนักข่าวการเงินก็ใช้ AI รวบรวมและเลือกข่าวให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า
มีรายงานว่า ChatGPT สามารถหาผลต่อตลาดการลงทุนจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และข่าวของบริษัทได้ดีเทียบเท่ามนุษย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
Generative AI จะทดแทนนักวิเคราะห์ได้หรือยัง?
ในตอนนี้ Generative AI ถูกใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลจากบทวิเคราะห์จำนวนมหาศาล วิเคราะห์ข้อมูล และเขียนรายงานการลงทุนให้ลูกค้า ซึ่งทดแทนแรงมนุษย์ได้มหาศาล บริษัทก็ไม่ต้องเสียสวัสดิการให้พนักงาน แต่ยังสุดท้ายก็ยังต้องให้นักวิเคราะห์ตัดสินใจขั้นสุดท้ายอยู่ดี ดังนั้นจึงบอกได้ว่านี่ยังไม่ถึงเวลาที่ Generative AI จะทดแทนนักวิเคราะห์ได้ทั้งหมด และนี่กลับเป็นโอกาสให้ Data Engineer
มี AI แบบอื่นถูกใช้ในวงการลงทุนหรือไม่
AI อีกแบบ คือ Predictive AI ถูกใช้วิเคราะห์ด้านตัวเลขเพื่อเทรดสินทรัพย์ ซึ่งเป็นกลุ่มข้อมูลเชิงตัวเลขขนาดมหาศาลที่มนุษย์น้อยคนจะวิเคราะห์ได้ และถึงจะวิเคราะห์ได้ก็ต้องใช้เวลานานมาก โดยเป้าหมายเพื่อหากลยุทธ์การเทรดใหม่ที่ได้ผลดียิ่งขึ้น
AI กลุ่มนี้ถูกใช้เพื่อทำนายทิศทางราคาสินทรัพย์ ซึ่งโมเดลที่ใช้มาโดยตลอดเป็นโมเดลที่สร้างโดยมีตัวแปรไม่กี่ตัวและเขียนโดยให้มีความสัมพันธ์กับราคาโดยตรง ไม่มีความซับซ้อนหรือมีความเกี่ยวข้องกันระหว่างตัวแปร ซึ่งตัวแปรทั้งหมดนี้อาจมีความสัมพันธ์กันในรูปแบบที่มีเงื่อนไขซับซ้อน ส่วนการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ของนักลงทุนในตลาดก็ไม่ได้ถูกใส่ลงไปในโมเดล เพราะอาจทำนายทิศทางหรือวัดค่าออกมาเป็นตัวเลขยากมาก
แต่ Predictive AI สามารถเรียนรู้และสร้างโมเดลที่ทำนายทิศทางราคาจากตัวแปรในตลาดซึ่งมีมากมายได้สมบูรณ์แบบกว่าโมเดลที่เคยใช้กันมา โดยเกิดจากการเรียนรู้ความเคลื่อนไหวของราคาและข้อมูลในตลาดที่มีมหาศาล จากนั้นก็หาความสัมพันธ์ระหว่างกัน
Predictive AI ช่วยลงทุน จะแทนที่เทรดเดอร์หรือนักกลยุทธ์ได้มั้ย ?
การแทนที่เทรดเดอร์หรือนักกลยุทธ์ทั้งหมดคงไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้หรอก เพราะความเคลื่อนไหวของราคาแต่ละวันขึ้นอยู่กับปัจจัยเยอะมาก มากกว่านั้นยังมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่น การเปลี่ยนแปลงกฎ เม็ดเงินลงทุนเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งบางครั้งกลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลในวันนี้อาจไม่ได้ผลแล้วในวันข้างหน้า เรื่องนี้จึงต้องพัฒนาต่อไป
ระบบการเรียนรู้ของ AI เป็นแบบ black box ที่ค้นหาความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างตัวแปรอันมหาศาล ทำให้เมื่อโมเดลไม่ได้ผลก็ยากมากที่จะอธิบายเหตุผลให้ลูกค้าที่ใช้โมเดลเข้าใจ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ นี่จึงเป็นอีกปัญหาที่ Predictive AI ยังไม่สามารถแทนที่เทรดเดอร์หรือนักกลยุทธ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อนาคต AI จะทำผลตอบแทนชนะตลาดได้หรือไม่?
ยังไม่มีผลที่ชัดเจน แต่ Eurekahedge index ดัชนีชี้วัดผลตอบแทน Hedge Fund ที่ใช้ AI บริหาร ก็ทำผลตอบแทนต่ำกว่าการบริหารแบบอื่นตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ส่วน AI Powered Equity ETF ก็ทำผลตอบแทนต่ำกว่าดัชนี S&P 500 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน
แต่ดูเหมือนหน้าที่ที่ AI จะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนดีขึ้น คือ การทำงานที่มนุษย์ใช้เวลานานและให้คำแนะนำเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักวิเคราะห์หรือนักกลยุทธ์
ปัจจุบันสถาบันการเงินใช้ AI เพื่อคำนวณและวิเคราะห์ความเสี่ยงในการลงทุน พี่ทุยมองว่าเมื่อเวลาผ่านไป จะมีการใช้ AI ในการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่แน่ว่าการทดแทนมนุษย์อาจเกิดเร็วกว่าที่คิด เพราะในตอนนี้ AI มีองค์ประกอบที่ต้องใช้ในการพัฒนาครบแล้ว ทั้งข้อมูลจำนวนมหาศาลและชิปที่มีพลังมากพอใช้ในการประมวลผล
ดังนั้นทุกคนจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้เครื่องจักรได้ทดแทนมนุษย์ในส่วนแรงงานไปแล้ว กระแสการใช้ AI ต่อจากนี้จะกลายเป็นการทดแทนตำแหน่งงานระดับบริหาร
อ่านเพิ่ม