ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มบำรุงกำลัง พี่ทุยเชื่อว่าทุกคนคงนึกถึง 3 แบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ทำตลาดอยู่ในประเทศไทยในปัจจุบัน วันนี้พี่ทุยจะพามาเจาะลึก บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น CBG ผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของประเทศไทย จะมีความน่าสนใจและน่าลงทุนแค่ไหน พี่ทุยได้ทำสรุปพร้อมวิเคราะห์มาให้นักลงทุนได้เข้าใจง่าย ๆ กัน
หุ้น CBG ทำอะไร ?
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งมีการลงทุนหลักในธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ อย่างครบวงจร เช่น คาราบาวแดง, คาราบาวสปอร์ต, กาแฟคาราบาว, วู้ดดี้ ซี+ล็อค มีภาพรวมการประกอบธุรกิจของบริษัท ดังนี้
1. ธุรกิจผลิตและจัดหาขวดแก้ว
ประกอบธุรกิจผลิตและจัดหาขวดแก้วเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ ดำเนินธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัท เอเชียแปซิฟิกกลาส จำกัด หรือ APG
2. ธุรกิจผลิตกระป๋องอลูมิเนียม
ประกอบธุรกิจผลิตกระป๋องอลูมิเนียมเพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่นฯ โรงผลิต กระป๋องอลูมิเนียม ดำเนินธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัท เอเชีย แคน แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ ACM
3. ธุรกิจผลิตและจัดหาบรรจุภัณฑ์
ประกอบธุรกิจผลิตและจัดหาบรรจุภัณฑ์ 3 ประเภท คือ กล่องกระดาษลูกฟูก ฉลากพลาสติกชนิด OPP และแผ่นฟิล์มหด เพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ดำเนินธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัท เอเชีย แพ็คเกจจิ้ง แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ APM
4. ธุรกิจผลิต การตลาด ขายและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ
ประกอบธุรกิจผลิต การตลาด ขายและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เครื่องดื่มผสมซิงค์และเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่บริษัทฯ จะดำเนินการ ผลิตเพื่อจัดจำหน่ายในอนาคตทั้งสำหรับธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ดำเนินธุรกิจโดยการลงทุนใน บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด หรือ CBD
5. ธุรกิจบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับธุรกิจในประเทศ
ประกอบธุรกิจบริหารจัดการช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับธุรกิจในประเทศ ครอบคลุมทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าที่ บริษัทฯ เป็นเจ้าของ ประกอบไปด้วยเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มผสมซิงค์ที่ บริษัทฯ ดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง และน้ำดื่ม กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผง และกาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่มที่บริษัทฯ ว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการ ผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาว และเครื่องดื่มอื่นๆ ที่บริษัทฯ ทำการตลาด ขายและจัดจำหน่ายในอนาคต ดำเนินธุรกิจโดยการลงทุนในบริษัท ตะวันแดง ดีซีเอ็ม จำกัด หรือ DCM
6. ธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มประเภท Functional Drinks
ประกอบธุรกิจพัฒนาผลิตภัณฑ์และทำการตลาด เครื่องดื่มประเภท Functional Drinks และเครื่องดื่มอื่นในอนาคตภายใต้ตราสินค้าของบริษัทร่วมทุน เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ภายในประเทศ โดยอาศัยภาพลักษณ์การดูแลตนเองและใส่ใจในสุขภาพ และจุดเด่นในการเป็นผู้ที่มีอิทธิพลทางสื่อสังคมออนไลน์ของคุณวุฒิธร มิลินทจินดา (วู้ดดี้) พิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท เอ วู้ดดี้ ดริงค์ จำกัด หรือ AWD ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนโดยการถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อยในประเทศ ได้แก่ บริษัท เอเชียคาราบาวเวนเจอร์ จำกัด หรือ ACV
7. ธุรกิจการตลาด ขายและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ในประเทศอังกฤษและประเทศอื่นนอกทวีปเอเชีย
ประกอบธุรกิจการตลาด ขายและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ในประเทศอังกฤษและประเทศอื่นนอกทวีปเอเชีย โดยสินค้าสำเร็จรูปที่ใช้ในการประกอบธุรกิจได้เปลี่ยนมาดำเนินการผลิตโดยบริษัทฯ ทดแทนการว่าจ้างบุคคลภายนอก เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในด้านปริมาณการผลิตตามให้เหมาะสมกับความต้องการทางการตลาดและขนาดธุรกิจ
ทั้งนี้ได้เริ่มขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้า คาราบาวในประเทศอังกฤษโดยมุ่งเน้นแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท INTERCARABAO LIMITED หรือ ICUK ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนโดยการถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อยต่างประเทศ 2 แห่ง ได้แก่ CHHK และ CVHLUX
โครงสร้างรายได้ ปี 2563 ของ บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CBG)
โครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ แบ่งตามผลิตภัณฑ์ได้เป็น 3 ประเภทหลัก ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ ผลิตภัณฑ์รับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก และผลิตภัณฑ์อื่น ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ มีทั้งในส่วนที่ดำเนินการ ผลิตด้วยตนเองและว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดำเนินการผลิต โครงสร้างรายได้จากการขาย จำแนกตามผลิตภัณฑ์สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
1. รายได้จากผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ จำนวน 14,525 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 84.30% ของรายได้จากการขายทั้งหมด แบ่งเป็น
- รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ดำเนินการผลิต จำนวน 14,082 ล้านบาท
- รายได้ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ว่าจ้างบุคคลภายนอกดำเนินการผลิต จำนวน 443 ล้านบาท
2. รายได้จากผลิตภัณฑ์รับจ้างจัดจำหน่ายให้แก่บุคคลภายนอก จำนวน 2,413 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 14.00% ของรายได้จากการขายทั้งหมด แบ่งเป็น
- กลุ่มอุปโภคบริโภคทั่วไป จำนวน 260 ล้านบาท
- กลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 2,153 ล้านบาท
3. รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์อื่น จำนวน 292 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.70% ของรายได้จากการขายทั้งหมด
ผลการดำเนินงานปี 2561-2563

รายได้จากการขาย
ในปี 2563 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้จากการขายทำสถิติสูงสุดใหม่จำนวน 17,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,181 ล้านบาทหรือ 14.5% จากการเติบโตของรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าของตนเอง และการเติบโตของรายได้รับจ้างจัดจำหน่ายสินค้าให้บุคคลภายนอกในประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากทั้งการเติบโตของยอดส่งออกเครื่องดื่มบำรุงกำลังไปยังตลาดต่างประเทศ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศอย่างเครื่องดื่มวิตามินซี วู้ดดี้ ซี+ล็อค ซึ่งเริ่มจำหน่ายครั้งแรกในเดือน มี.ค. 2563
กำไรสุทธิและอัตรากำไรสุทธิ
ในปี 2563 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯจำนวน 3,525 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,019 ล้านบาท หรือ 40.6% คิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้จากการขายรวม 20.5% เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 16.8% ในปีก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนหลักจากรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นของกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ดำเนินการผลิต ขายและจัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนสโมสร Chelsea ที่ลดลง และการรับรู้ผลขาดทุนจากการดำเนินงานของ ICUK ที่ลดลงจาก 12.6 ล้านปอนด์ในปี 2562 มาอยู่ที่ 3.7 ล้านปอนด์ในปี 2563 จากการควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นเฉพาะกิจกรรมและช่องทางการขายที่บริษัทฯ เชื่อว่าจะนำมาซึ่ง อัตราการขายที่ดีขึ้นในระยะยาว
กำไรขั้นต้น
ในปี 2563 กำไรขั้นต้นจำนวน 7,058 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,247 ล้านบาทหรือ 21.5% มีปัจจัยหนุนหลักจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ดำเนินการผลิตด้วยตนเอง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่มีสัดส่วนรายได้คิดเป็นสัดส่วน 84% ของรายได้จากการขายรวม มีรายได้เติบโตและอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น เป็นผลของวัตถุดิบและหีบห่อรายการสำคัญมีต้นทุนลดลง ประกอบกับประสิทธิภาพสายการผลิตที่มีเทคโนโลยีทันสมัยตั้งแต่โรงผลิตขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียมไปจนถึงโรงบรรจุสินค้าสำเร็จรูป เอื้อหนุนต่อประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด
จุดแข็งของ หุ้น CBG
1. เป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศ
เครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบบรรจุขวดภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวแดง ยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณที่ 21.4% เป็นอันดับ 2 ของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศ และเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในภาคกลาง ด้วยกลยุทธ์การจัดจำหน่ายที่คลอบคลุมพื้นที่การค้าสำคัญทั่วประเทศ และการพัฒนาระบบการติดตามข้อมูลงานขาย ตลอดต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ร้านค้าขนาดใหญ่ไปจนถึงผู้บริโภค เพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ บริหาร และพัฒนาการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งกับเครือข่าย ร้านค้า และผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง
2. ‘แอ๊ด คาราบาว’ เป็น Presenter แบรนด์
ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่ทำให้ผู้คนเริ่มรู้จัก CBG คือ เครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์คาราบาวแดง ที่นำน้าแอ๊ด วงคาราบาว ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตที่มีแฟนเพลงรักและศรัทธามากที่สุดในประเทศไทย มาเป็น Presenter ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ CBG ประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน
3. การตลาดที่แข็งแกร่ง
สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ จะทำการตลาดกับผู้บริโภคเป้าหมายโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความต้องการบริโภคผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ภายใต้แนวคิด สินค้าระดับโลก แบรนด์ระดับโลก เพื่อชูภาพความทันสมัย นวัตกรรมเครื่องดื่มระดับโลกผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ ในรููปแบบของ Above the Line (การตลาดผ่านสื่อที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง), Below the Line (การตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง) รวมถึง การตลาดแบบ Digital (การตลาดดิจิทัล)
4. ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลงและได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ในการผลิต
การมีส่วนร่วมในภาคอุตสาหกรรมการผลิตบรรจุภัณฑ์ของบริษัทย่อยของ “หุ้น CBG” ช่วยลดการพึ่งพิงการจัดหาขวดแก้วและกระป๋องอลูมิเนียมจากบุคคลภายนอก ในขณะที่เครื่องจักร อุปกรณ์ และระบบสนับสนุนที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงทำเลที่ตั้งเดียวกันในลักษณะกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เอื้ออำนวยต่อการบริหารจัดการลดต้นทุนการผลิตและประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด ตั้งแต่กิจกรรมต้นน้ำจากโรงผลิตขวดแก้วสีชาและกระป๋องอลูมิเนียมไปจนถึงโรงบรรจุขวดและกระป๋องสินค้าสำเร็จรูป
5. เป็นผู้สนับสนุนสโมสรและการแข่งขันฟุตบอลชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Chelsea Football Club Limited (CFC) และ English Football League (EFL)
เป็นเครื่องมือสื่อสารทางการตลาด เพื่อประโยชน์ในการขยายกลุ่มผู้บริโภคและเพิ่มจุดขายในแต่ละประเทศ ไม่จำกัดเฉพาะตลาดส่งออกหลักเดิม แต่ยังรวมถึงตลาดส่งออกใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคตอย่างเป็นระบบ
อัตราส่วนทางการเงินของหุ้น CBG
สำหรับในงบปี 2563 พี่ทุยมาสรุปให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ กันไปทีละส่วน
ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่งเนื่องจากทำกำไรโตต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2561 โดยสามารถรักษายอดขายไว้ได้แม้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
P/BV Ratio มีค่าที่สูงกว่า 1 บ่งบอกถึงนักลงทุนมองเห็นแนวโน้มในอนาคตว่าบริษัทฯ จะเติบโตจนมีกำไรสะสมกลับมาช่วยทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นได้ในอนาคต
“กำไรต่อหุ้น (EPS)” เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บ่งบอกถึงบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับงบปี 2562 โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 3.53 บาท/หุ้น จากงบปี 2562 อยู่ที่ 2.51 บาท/หุ้น
P/E Ratio เท่ากับ 33.14 เท่าหากเอามาเปรียบเทียบกับ หุ้นที่ทำธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลัง คู่แข่งรายสำคัญอย่าง OSP พบว่า P/E Ratio เท่ากับ 30.67
ในส่วนของ D/E Ratio ตามปกติแล้วบริษัทที่มี D/E Ratio มีค่าที่ต่ำแปลว่าบริษัทมีภาระหนี้สินที่ต่ำ คือใช้เงินส่วนใหญ่ของตัวบริษัทเองในการทำธุรกิจ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของธุรกิจที่มีน้อยนั่นเอง
ROA และ ROE ตามหลักการแล้วยิ่งสูง ยิ่งถือว่าบริษัทนั้นสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากดูในงบ ปี 2563 แล้วพบว่า ทั้งสองอัตราส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
เป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ “หุ้น CBG”
CBG มีเป้าหมายระยะยาว โดยวางเป้าเป็นที่ 1 ในประเทศไทย ภายใน 1 ปี (2564) หลังจากนั้นจะเป็นที่ 1 ในอาเซียน ภายใน 3 ปี (2565) และจะเป็นที่ 1 ในเอเชีย ภายใน 5 ปี (2567) โดยในปี 2563 เครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบบรรจุขวดภายใต้เครื่องหมายการค้า คาราบาวแดง ยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดเชิงปริมาณที่ 21.4% เป็นอันดับ 2 ของตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศ
อนาคตของ CBG จะเป็นอย่างไร มีประเด็นอะไรที่ต้องติดตาม ?
1. ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำตาลทราย
น้ำตาลทรายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Product) ที่มีราคาขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทานในตลาด และนโยบายของรัฐบาล หากราคาปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางลบต่อธุรกิจ ผลการดำเนินงาน และฐานะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากส่วนผสมน้ำตาลเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับการผลิต
2. สถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมากระทบการส่งออกสินค้าของบริษัท
สถานการณ์ในเมียนมาถือเป็นความเสี่ยงต่อ “หุ้น CBG” เพราะเป็นตลาดส่งออกใหญ่อันดับ 2 (กลุ่มประเทศ CLMV) ของบริษัท ซึ่งอาจจะกระทบต่อรายได้และอัตรากำไรของบริษัทได้ หากดูจากปีที่ผ่านมา รายได้ของ CBG จากเมียนมาอยู่ที่ราว 400-500 ล้านบาท จากยอดส่งออกประมาณ 8 พันล้านบาท มองว่าจะอาจได้รับผลกระทบจากด้าน logistic ข้ามแดนทำให้ขนส่งล่าช้า การบริโภคในเมียนมาปรับตัวลดลง
3. การแข่งขันในธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น
เนื่องจากเครื่องดื่มชูกำลังนับว่าเป็นสินค้าที่ทดแทนกันได้ (Substitute Goods) หากแบรนด์หนึ่งลดราคา ยอดขายของอีกแบรนด์หนึ่งก็จะเทไปให้แบรนด์ที่ลดราคา นี่จึงเป็นสาเหตุที่เครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มอื่น ๆ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูง ส่งผลให้ที่ผ่านมาผู้ประกอบการมิได้ปรับราคาขายเครื่องดื่มบำรุงกำลังอย่างมีนัยสำคัญ
โดยในปัจจุบัน เครื่องดื่มบำรุงกำลังแบบขวดซึ่งมีขนาดบรรจุ 150 มิลลิลิตร ยังคงราคาขายปลีกในประเทศไทยโดยทั่วไปอยู่ ที่ขวดละ 10 บาท อย่างไรก็ตามเพื่อคงหรือเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลัง บริษัทฯ ได้มีการจัดทำกิจกรรมทางการตลาด และส่งเสริมการขายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนมุ่งเน้นการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถลดต้นทุนการผลิต ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ
4. ขาดทุนจากการดำเนินงานของ ICUK อย่างต่อเนื่อง
ในปี 2563 บริษัทย่อย INTERCARABAO LIMITED (ICUK) ประเทศอังกฤษ เริ่มมีผลขาดทุนในอัตราลดลง และได้ส่วนลดจากการโฆษณาคาราบาวคัพ หรืออีเอฟแอลคัพ (EFL Cup) ทำให้ค่าใช้จ่ายของบริษัทลดลง และเชื่อว่าจะนำมาซึ่งอัตราการขายที่ดีขึ้นในระยะยาว
5. ภาครัฐเปิดให้กัญชาและกัญชงสามารถนำมาใช้ในเชิงธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการทำเครื่องดื่มเพื่อการผ่อนคลาย
การพัฒนาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชง ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากปีนี้ทาง อย. มีความชัดเจน บริษัทก็พร้อมดำเนินการได้ทันที ซึ่งในอนาคตธุรกิจ กัญชง-กัญชา อาจจะเกิดเป็นอุตสาหกรรมใหม่ในตลาดหุ้นก็เป็นไปได้หากตลาดเมืองไทยได้รับความนิยมในผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าว และผู้บริโภคมีความเชื่อว่าจะช่วยรักษาสุขภาพได้