อุปสรรคใหญ่ของการลงทุน คือ “ความกลัว” อย่างเช่น ‘กลัวขาดทุน’ เมื่อเห็นความผันผวนของตลาด หรือ ‘การไม่มีเวลา’ ที่ทำให้รู้สึกการลงทุนนั้นวุ่นวาย ใช้เอกสารเยอะ แถมยังต้อง ‘ใช้เงินลงทุนสูง’ วันนี้พี่ทุยเลยมี “Wealth PLUS” และ “FinVest” แอป ฯ ที่ KBank ร่วมพัฒนากับกลุ่มโรโบเวลธ์ และ ลู อินเตอร์เนชันแนลมาแนะนำ !
“Wealth PLUS” และ “FinVest” ตัวช่วยที่ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องง่าย ใคร ๆ ก็สามารถเป็นนักลงทุนได้ จะอุปสรรคไหน ๆ ก็ไม่หวั่น เพื่อให้ทุกคนได้เร่งสปีดเงินเก็บไปทำตามฝันกันได้เร็วยิ่งขึ้น
พี่ทุยเชื่อว่าเวลานี้คงไม่มีใครไม่สนใจเรื่องการลงทุนแล้วล่ะ ไหนจะดอกเบี้ยที่ถูกกดจนต่ำซะเหลือเกิน ไปจนถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นแบบฉุดไม่ไหว เฟ้อจนสูงที่สุดในรอบ 30 ปีแบบนี้ ทำให้ใคร ๆ ก็เริ่มมองหา ‘การลงทุน’
หลาย ๆ ครั้งที่พูดคุยถกเถียงเรื่องการลงทุน ก็มักจะตามมาด้วยเรื่องของข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่หลายคนก็ไม่ได้มีเวลาติดตามมากนัก แถมยังไม่มีประสบการณ์ที่ทำให้ชำนาญมากพอจะคัดเลือกหรือจับจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม รวมถึงการคำนวณจำนวนเงินที่เหมาะสมสำหรับใช้วางแผนลงทุนในอนาคตอีก
นอกจากนี้ เรื่องของเงินทุนเริ่มต้นในการลงทุน และเอกสารอันสุดวุ่นวายในการเปิดบัญชีกองทุน ก็ยังเป็นประเด็นที่น่าปวดหัวไม่แพ้กัน และนั่นเองที่ทำให้เราเริ่มต้นลงทุนกันไม่ได้สักที
วันนี้พี่ทุยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเครื่องมือที่จะเป็นทางออกสำหรับคนที่อยากลงทุน ให้สามารถเริ่มลงทุนได้ง่าย ๆ Wealth PLUS และ FinVest
Wealth PLUS เป็นหนึ่งในบริการที่อยู่บน “K PLUS” ของธนาคารกสิกรไทย เป็นตัวช่วย ‘การลงทุนแบบอัตโนมัติ’ โดยที่ Wealth PLUS จะช่วยวางแผนการลงทุน และคัดเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับเราตาม ‘เป้าหมาย’ ‘ระยะเวลา’ และ ‘ระดับความเสี่ยง’ ที่เรายอมรับได้ จะว่าไป Wealth PLUS ก็ทำงานคล้าย ๆ กับ ROBO Advisor นั่นแหละ แต่ว่าเจ๋งกว่าตรงที่เขามีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลแผนลงทุนของเราควบคู่ไปกับการใช้ระบบด้วย เหมือนมีคนดูแลให้สองชั้นเลย
FinVest อีกหนึ่งแพลตฟอร์มการลงทุนดิจิทัลแบบ ‘Open Architecture’ จากความร่วมมือของ 3 บริษัทชั้นนำ คือ ธนาคารกสิกรไทย, กลุ่มโรโบเวลธ์ และลู อินเตอร์เนชันแนล ที่จะช่วยทำให้เราเข้าถึง ‘กองทุนทั่วโลก’ ได้ในแอป ฯ เดียว มีให้เลือกลงทุนมากกว่า 1,000 กองทุนรวม โดยเป็นแอป ฯ แรกที่เราสามารถไปลงทุนได้โดยตรงในกองทุนต่างประเทศ จาก 35 บลจ. ชั้นนำของโลก นับว่าเป็นผู้ช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กันนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
ใครที่รู้สึกว่าติดนู่นติดนี่จนทำให้ไม่สามารถเริ่มต้นลงทุนได้สักที ก็สามารถให้ Wealth PLUS และ FinVest มาช่วยเป็น ‘ทางออก’ ในการลงทุนได้นะ
Wealth PLUS และ FinVest ตัวช่วยลงทุนสำหรับคนไม่มีเวลา
หนึ่งในข้อจำกัดที่ทำให้หลาย ๆ คนลงทุนได้ลำบาก คือ เรื่องของ “เวลา” ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปทันที เพราะทาง Wealth PLUS จะมีระบบที่คอยช่วยวางแผนการลงทุนให้อย่างครบครัน ตั้งแต่การวิเคราะห์ ไปจนถึงการคัดเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายของเรา และถ้าตลาดเกิดความผันผวน หรือถึงเวลาต้องปรับแผนลงทุน Wealth PLUS ก็จะแจ้งเตือนและปรับแผนให้อัตโนมัติ ทำให้ลงทุนได้สบายใจ ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าตลาดจะขึ้นแรง ลงแรง ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอตลอด
ส่วนใครที่อยากเลือกกองทุน จัดการซื้อ-ขาย ปรับพอร์ตเอง FinVest ก็ตอบโจทย์คนไม่มีเวลาด้วยบริการ “กองทุนแนะนำประจำสัปดาห์” ชี้เป้ากองทุนน่าสนใจ อัปเดตกันทุกวีค ซึ่งแต่ละกองทุนที่แนะนำ ก็ผ่านการวิเคราะห์จากทีมผู้เชี่ยวชาญของ FinVest จับสัญญาณการลงทุนทั่วโลก เพื่อเฟ้นหากองทุนที่น่าสนใจ แบ่งเป็นธีมต่าง ๆ ที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต เพื่อให้เราสามารถจับจังหวะลงทุนตามได้ทันกระแส แม้ไม่มีเวลาติดตามตลาดเอง
Wealth PLUS และ FinVest ตัวช่วยลงทุนสุดง่ายและสะดวก
พูดก็พูดเลยว่าเวลานี้ได้หมดยุคของการยื่นเอกสารที่หน้าสาขาธนาคารไปแล้ว เพราะอย่างการเปิดใช้งาน Wealth PLUS นั้นก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แค่มี K PLUS เท่านั้นก็เริ่มลงทุนได้เลย ส่วน FinVest ก็เช่นกัน แค่โหลดแอป ฯ มาก็ใช้ลงทุนได้เลยบนมือถือ
นอกจากนี้ ทั้ง Wealth PLUS และ FinVest ยังสามารถลงทุนเพิ่ม หรือขายกองทุนเมื่อไหร่ก็ได้ สามารถจัดการได้เองเลยผ่านแอป ฯ เลย
“Wealth PLUS” และ “FinVest” 1,000 เดียวก็เริ่มต้นลงทุนได้
ดีขนาดนี้ เหมือนมีผู้ช่วยลงทุนส่วนตัวมาช่วยดูแลลงทุนให้เรา หลาย ๆ คน อาจจะะคิดว่าต้องใช้เงินลงทุนเยอะแน่เลย แต่จริง ๆ แล้ว ทั้ง Wealth PLUS และ FinVest ใช้เงินเริ่มต้นลงทุนแค่ 1,000 บาท เท่านั้น เพราะธนาคารกสิกรไทยและพันธมิตรช่วยกันลดข้อจำกัดเรื่องเงินลงทุน เพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มลงทุนกันได้ง่ายขึ้น เป็นโอกาสให้มีเงินเก็บ เงินใช้มากขึ้น ซึ่งประโยชน์ คือ ทำให้เราสามารถแบ่งเงินจากชีวิตประจำวันทยอยมาลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลจะต้องมีเงินก้อนเป็นหมื่นเป็นแสนถึงสามารถลงทุนได้อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ
อย่าง Wealth PLUS เองก็มีบริการลงทุนอัตโนมัติรายเดือน (DCA) ที่เริ่มต้นแค่เดือนละ 500 บาทเท่านั้น หรือถ้าอยากจะปรับแผนเอง ลดเงิน เพิ่มเงิน ก็ทำได้ตลอดเวลา โดยระบบจะช่วยคำนวณแผนให้เราใหม่อัตโนมัติ ส่วนคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนต่างประเทศโดยตรงผ่าน FinVest ก็ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นแค่ 30,000 บาท ซึ่งช่วยให้สามารถลงทุนต่างประเทศโดยตรงได้ง่ายขึ้น จากแต่ก่อนที่ต้องมีเงินแสนเงินล้านถึงจะทำได้
ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียมก็ไม่ต้องห่วง เพราะถึงจะใช้งาน Wealth PLUS และ FinVest กันหนักขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายกองทุนรวมปกติเลย สบายใจได้ หายห่วง เพราะธนาคารกสิกรไทยเขาอยากให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนกันมากขึ้นจริง ๆ
Wealth PLUS เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการตัวช่วยวางแผนการลงทุน และคอยติดตามดูแลแผนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จด้านการลงทุนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้
ส่วน FinVest จะเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงกองทุนรวมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะในประเทศหรือนอกประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มสูงขึ้น
พี่ทุยว่า Wealth PLUS และ FinVest จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้เราสามารถเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้น ตามสไตล์การลงทุนของตัวเอง ใครที่อยากเอาชนะอัตราดอกเบี้ยกับตัวเลขเงินเฟ้อด้วยการลงทุนล่ะก็ ให้ Wealth PLUS และ FinVest เขาช่วยติดสปีดให้นะ
สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดได้ที่
Wealth PLUS :https://kbank.co/31r0SaJ
FinVest: https://finvest.onelink.me/CoWV/70a2e1e0
ดาวน์โหลดแอป ฯ ได้ทั้ง App Store และ Google Play
