ไทย ของแพง ? ช่วงนี้ เศรษฐกิจ บ้านเราเป็นอะไรที่ชวนให้ถอนหายใจ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวของแพงขึ้น เงินเดือนเท่าเดิม แถมธุรกิจบางอย่างก็ยังไม่ฟื้นตัว ลองคิดดูว่า เศรษฐกิจ บ้านเราแย่ขนาดที่ร้านบุฟเฟต์หลาย ๆ เจ้า เข้ามาแข่งกันลดราคา เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง แต่ในขณะที่เรากำลังเหนื่อย กับเศรษฐกิจบ้านเรา ราคาน้ำมันก็ดูเหมือนกำลังจะ “ขึ้นแรง” อย่างกับต้องการซ้ำเติมพวกเราอยู่ อย่างไงอย่างงั้น ทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่า
“เฮ้ย หรือเรากำลังจะเจอกับอะไรที่แย่กว่านี้อีก ?”
คำตอบคือ…ใช่ครับ พวกเรากำลังเจออะไรที่แย่กว่านั้น นั่นคือ เศรษฐกิจนิ่งสนิท + แต่ของแพงขึ้นไม่หยุด ! หรือเรียกอีกอย่างว่า Stagflation
Stagflation คืออะไร ?
ฟังชื่อดูเหมือนศัพท์วิชาการ…แต่ความจริงมันคือฝันร้ายของคนทำงานแบบเรา ๆ เลยล่ะ ! ซึ่งคำว่า Stagflation เป็นศัพท์ที่เกิดจากการรวมกันของ 2 คำคือ…
Stagnation = ภาวะเศรษฐกิจซบเซา ไม่ขยายตัว
Inflation = เงินเฟ้อ ของแพงขึ้นต่อเนื่อง
รวมกันกลายเป็น… เศรษฐกิจหยุดโต แต่ค่าครองชีพแพงขึ้นทุกวัน! มันเหมือนประเทศเรากำลัง “ติดหล่ม” ที่ออกไม่ได้ ในขณะที่รายจ่ายก็กำลัง “เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”
พี่ทุยขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า ปกติเวลาประเทศเศรษฐกิจไม่ดี
- คนจับจ่ายน้อยลง
- สินค้าก็ต้องลดราคาลงตาม
- เงินเฟ้อน่าจะนิ่ง ๆ
แต่รอบนี้กลับตรงข้าม ! เศรษฐกิจไม่ดี คนก็ยังไม่อยากใช้เงิน แต่…น้ำมันแพง ค่าขนส่งแพง ทุกอย่างแพงตามไปด้วย ! หากราคาน้ำมันยังลากยาว ของหลายอย่างขาดตลาด สุดท้าย…ทุกคนต้องยอมจ่ายแพงขึ้น ทั้งที่รายได้ยังเท่าเดิม
ลองนึกภาพง่าย ๆ…ถ้าประเทศเราเป็นเรือจอดนิ่งอยู่กลางทะเล แต่ทะเลตอนนี้ดันมีพายุลูกใหญ่ก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุด นั่นแหละ ชีวิตในยุคของแพง แต่เศรษฐกิจไม่ไปไหน
แล้ว Stagflation ต่างจากเงินเฟ้อธรรมดายังไง ?
เงินเฟ้อตามปกติ มักเกิดในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว คนมีเงินใช้ อยากจับจ่าย ธุรกิจก็ขายดี → ราคาสินค้าก็สูงขึ้นตามกลไกตลาด
แต่… Stagflation คือของแพง ทั้งที่คนไม่มีเงินใช้ !
- เศรษฐกิจไม่โต
- คนตกงาน
- รายได้ไม่ขึ้น
- ความมั่นใจหายไป
- แต่ของยังแพงขึ้น เพราะต้นทุนมันแพงจริง ๆ!
ทำไมรอบนี้เศรษฐกิจไทยเสี่ยงเจอภาวะ Stagflation ?
เศรษฐกิจยังเปราะบาง
- ส่งออกโตช้า นักท่องเที่ยวฟื้นไม่เท่าที่คาด
- คนยังระมัดระวังการใช้จ่าย
ราคาน้ำมันพุ่งไม่หยุด
- สงครามระหว่าง อิสราเอล-อิหร่าน
- ความไม่แน่นอนของอุปทานโลก
- OPEC คุมกำลังการผลิต
ส่งผลให้ต้นทุนการผลิต – ขนส่ง เพิ่มทุกส่วน ราคาสินค้าดีดหมด ไม่ว่าจะข้าวสารหรือค่ารถเมล์
ผลกระทบของ Stagflation กับชีวิตจริง
- ค่าครองชีพสูงขึ้น แต่เงินเดือนเท่าเดิม
- บริษัทไม่กล้าขยาย ไม่จ้างเพิ่ม / ไม่ขึ้นเงินเดือน
- อัตราว่างงานอาจเพิ่ม
- คนเริ่มดึงเงินออมออกมาใช้
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ความรู้สึกเหมือนคนกำลังจนลงเรื่อย ๆ
ไทย ของแพง เหตุการณ์นี้เราควรทำยังไง ?
บริหารค่าใช้จ่ายแบบรัดเข็มขัด แต่ไม่บีบรัดชีวิต
- จดรายจ่ายให้เห็นว่าเงินไหลออกตรงไหน โดย แค่รู้ว่าเราจ่ายไปกับกาแฟ ของกิน หรือเดลิเวอรี่เท่าไรต่อเดือน ก็อาจเจอรูรั่วที่ไม่รู้ตัว
- งดของฟุ่มเฟือยชั่วคราว เช่น งดช้อปเสื้อผ้าใหม่สัก 2 เดือน งดเดลิเวอรี่สัปดาห์ละ 3 วัน ฯลฯ ไม่ต้องถึงขั้นอด แต่ “ตัดเพื่อรอด” ไปก่อน
- ลองช้อปแบบ “คิดถึงความคุ้ม ไม่ใช่ความเคยชิน”เช่น การกินกาแฟแพงๆ ทุกวัน จริงแล้วเราอาจเเค่เคยชิน แต่ไม่ได้คุ้มค่าก็ได้
ลงทุนให้สู้กับเงินเฟ้อได้
รู้มั้ย ? แค่เราวางเงินทิ้งไว้เฉย ๆ ในบัญชีออมทรัพย์ เงินเราก็จนลงทุกวัน โดยไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะ…เงินเฟ้อปีละ 3–5% = ค่าของขึ้นเรื่อย ๆ ดอกเบี้ยออมทรัพย์ได้ 0.25–0.5% เท่านั้น เท่ากับ…เงินในบัญชี กำลังโดนกัดกินแบบเงียบ ๆ ทางรอดคือ หาการลงทุนที่ผลตอบแทนชนะเงินเฟ้อได้
ลองศึกษากองทุนหุ้นที่ลงทุนในธุรกิจดี ๆ เช่น
- กองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ
- บัญชี FCD (ฝากเงินสกุลต่างประเทศ)เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ที่ให้ดอกเบี้ย 4 – 5% ต่อปี เหมาะกับคนอยากพักเงิน แต่ยังให้เงินทำงาน
เพิ่มทักษะ + หารายได้มากกว่า 1 ทาง
ในยุคที่รายได้หลักไม่แน่นอน การมีรายได้เดียวก็เหมือน “มีลมหายใจแค่รูจมูกเดียว” เริ่มจากการ “เรียนรู้สิ่งใหม่” ที่ไม่ต้องเสียเงิน เช่น ดู YouTube ฟรี, เรียนออนไลน์ Coursera / FutureLearn เพิ่มสกิลด้านกราฟิก เขียนคอนเทนต์ ทำบัญชี ฯลฯ
มองหาโอกาสหารายได้เสริม
- ขายของออนไลน์ (ไม่ต้องเริ่มจากสต๊อกเยอะ)
- รับงานฟรีแลนซ์ เช่น ตัดต่อ ทำภาพ พิมพ์งาน
- ทำเพจ TikTok YouTube จากสิ่งที่ชอบก็ได้
4. อย่าทิ้ง “สุขภาพใจ” ระหว่างทาง
พอทุกอย่างรอบตัวดูแย่ ไม่ว่าจะงาน เงิน หรืออนาคต หลายคนเริ่มรู้สึก “หมดแรง” ก่อนที่ปัญหาจะมาถึงจริง ๆ ด้วยซ้ำ
- อย่าเสพข่าวเศรษฐกิจมากเกินไปจนจิตตก การรู้ข่าวเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเช็กเศรษฐกิจทุกชั่วโมง จนเครียดทุกวัน ก็เหมือน “เปิดประตูรับความกลัวเข้ามาอยู่ในบ้าน”
- ให้เวลากับตัวเองบ้าง แม้แค่ 10 นาทีต่อวันก็ยังดี อาจเป็นการนั่งนิ่ง ๆ ฟังเพลง หรือเดินออกกำลังกายให้หัวโล่งขึ้น (ไม่ต้องเสียเงิน)
- พูดคุยกับคนรอบข้าง อย่าปล่อยให้ตัวเองโดดเดี่ยว ไม่ต้องพูดเรื่องเงินก็ได้ แค่ได้หัวเราะหรือแชร์เรื่องที่อึดอัดกับเพื่อน บางครั้งแค่มีใครฟัง เราก็ฮึบขึ้นมาได้อีกนิด
หากตอนนี้ใครที่กำลังรู้สึกว่า การใช้ชีวิตมันยากกว่าเมื่อก่อน อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนอ่านนะครับ เพราะพี่ทุยเชื่อว่า…ยิ่งเข้าใจเร็ว ยิ่งมีโอกาสรอดเร็ว..กว่าคนอื่นเสมอ หรือดังคำว่า รู้เขารู้เรารบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้งนั่นเองครับ
ติดตามพี่ทุยเพิ่มเติมได้ที่ Facebook
หรืออ่านบทความเพิ่มเติมได้