หลายคนน่าจะได้ยินกระแสอย่างหนักของการเข้ามาเก็บ “ภาษีคริปโต” ของกรมสรรพากร ซึ่งก็พบปัญหามากมาย และทางกรมสรรพากรเองก็รีบเปิดรับการแสดงความคิดเห็น จนสรุปเป็นแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายใหม่ เพื่อให้สอดคล้องและลดผลกระทบต่อนักเทรดคริปโตในไทย
ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตเป็นอย่างมาก จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 240 ล้านบาทต่อวันเติบโต เป็น 4,839 ล้านบาท แถมมูลค่าทรัพย์สินของลูกค้าในไทยก็ยังเพิ่มจาก 9,600 ล้านบาท กลายเป็น 114,539 ล้านบาท ในด้านของจำนวนบัญชีก็เติบโตกว่า 10 เท่า จาก 1.7 แสนรายกลายเป็น 1.98 ล้านราย
การคิดภาษีคริปโตแบบเดิม
ในช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ทางสรรพากรได้มีการออกกฎเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีจากคริปโตออกมา ประเด็นใจความสำคัญที่ทำให้เกิดคำถามและข้อสงสัยอย่างมากก็คือ “การเรียกเก็บจากผลกำไรที่เกิดขึ้น โดยไม่สามารถนำผลขาดทุนมาหักลบได้” ซึ่งอาจจะทำให้เราเสียภาษีเกินความเป็นจริงได้
จากในตารางจะเห็นได้ว่า “กำไรสุทธิ” ที่เกิดขึ้นจริงเพียง 35,000 บาทเท่านั้น แต่ภาษีที่นักลงทุนต้องจ่ายจากกำไร 50,000 ที่สามารถทำได้
นอกจากปัญหาเรื่องความไม่สมเหตุสมผลต่อการเรียกเก็บอาจจะทำให้เสียภาษีแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บข้อมูลและแสดงรายการตอนยื่นภาษีด้วย ทำให้ทางสรรพากรต้องมีการพิจารณาใหม่อีก และจัดทำรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) ต่อผู้ที่มีร่วมเกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
รายละเอียดการเก็บภาษีคริปโตแบบเก่า คลิกที่นี่
วิธีการเก็บภาษีคริปโต แบบใหม่
หลังจากการทำ Public Hearing ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของกฎหมายไปจากเดิม ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปตามคาด โดยสามารถนำผลขาดทุนมาหักลบกับกำไรที่เกิดขึ้นในปีภาษีเดียวกันได้ จะเห็นได้ว่าปัญหาส่วนใหญ่ที่เป็นที่ถกเถียงก่อนหน้านี้จะได้การรับฟังและดำเนินการปรับเปลี่ยนแก้ไขให้สอดคล้องกับการใช้งานและการจัดเก็บข้อมูลและสามารถปฏิบัติได้จริงมากขึ้น
ทั้งนี้ภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่มจะได้รับการผ่อนปรนกรณีที่เทรดผ่าน Exchange ที่อยู่ภายใต้ ก.ล.ต. เท่านั้น ถือเป็นการสร้างทางออกให้กับผู้เทรดและใช้งานเหรียญคริปโต และสนับสนุนให้เกิด Exchange ที่ถูกต้องภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
แต่ก็ยังมีปัญหาที่ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอยู่ โดยเฉพาะวิธีการจัดเก็บและส่งข้อมูลให้กับทางสรรพากร ใครที่เป็นผู้รับผิดชอบในการนำส่งข้อมูลครั้งนี้ ซึ่งดูเหมือนว่า ณ ปัจจุบันผู้ที่จะรวบรวมส่งยังคงเป็นหน้าที่ของ “นักลงทุน” อยู่ ซึ่งถือว่ายากในการปฏิบัติจริงอยู่พอสมควร
ทิศทางในอนาคตของสรรพากรเกี่ยวกับการเก็บภาษีคริปโต
หลังจากผ่านการรับฟังเสียงตอบรับจากประชาชนแล้ว สรรพากรเตรียมหารือกับหน่วยงานและสมาคมที่เกี่ยวข้องสร้างนโยบายในอนาคต อย่างการแก้ไขประมวลรัษฎากรมาตรา 50 ที่เกี่ยวกับภาษีหัก ณ ที่จ่าย และในอนาคตอาจมีการนำ Financial Transaction Tax มาใช้ โดยเปลี่ยนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มมาเป็นภาษีธุรกิจเฉพาะคล้าย ๆ กับการเก็บภาษีเงินปันผลจากหุ้น
สุดท้ายนี้สรรพากรเค้าก็ได้เผยแพร่คู่มือการชำระภาษีของผู้มีเงินได้จากการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเอาไว้ให้แล้ว โดยจะมีการระบุเงินได้ให้ชัดเจนให้ครอบคลุมทุกประเภทเงินได้และผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างที่หลาย ๆ คนสงสัยทั้งการขุด การ Stake จะมีการระบุรายละเอียดในเนื้อหา เพื่อให้เข้าใจง่ายในและสามารถยื่นภาษีได้อย่างถูกต้องครบถ้วน เข้าไปดูรายละเอียดได้เลยที่นี่
อ่านเพิ่มเติม