ก่อนที่ทุกคนคิดอยากจะ เปิดบัญชี Binance ตามที่พี่ทุยเกริ่นนำในหัวข้อของคอนเทนต์นี้ พี่ทุยเชื่อว่าทุกคนน่าจะต้องรู้จักกับ Cryptocurrency หรือที่เราเรียกกันว่าเหรียญ และแน่นอนว่าเหรียญที่หลายคนรู้จักน่าจะหนีไม่พ้น Bitcoin (BTC) และ Dogecoin (DOGE) ที่ราคาวิ่งพุ่งแรงจนทำให้ทุกคนต้องหันมามองเลยว่า Cryptocurrency คืออะไรกันแน่
แต่ก่อนที่เราจะเริ่มเทรด Cryptocurrency ได้นั้น เราต้องเปิดบัญชีเพื่อซื้อขายก่อน และ Binance บริษัทซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะ ณ เวลานี้ Binance มีเหรียญให้นักลงทุนสามารถซื้อขายได้มากที่สุดในโลก ซึ่งบทความนี้พี่ทุยจะพามาสรุปขั้นตอนการเปิดบัญชีของ Binance แบบละเอียด ว่ามีขั้นตอนอย่างไรกันบ้าง
1. เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ เปิดบัญชี Binance
กรอก Email และ Password และกดที่ “Create Account” ได้ทันที แนะนำว่าต้องเป็น Email ที่เราใช้ประจำนะ เพราะเวลาที่เราทำรายการอะไรก็ตาม ก็จะมี OTP ส่งมายืนยันที่ Email นี้ เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของเรานั่นเอง
จากนั้นจะมี Verify Code ส่งไปที่ Email ของเรา เพื่อกรอกรหัส 6 หลักที่ทางบริษัทส่งมาให้ ก็เป็นอันเปิดบัญชีเสร็จเรียบร้อยแล้ว
2. ยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชี (Verified Account)
ถึงแม้ว่าในขั้นตอนแรก เราจะทำการเปิดบัญชีเรียบร้อยแล้วก็จริง แต่เพื่อให้เราสามารถใช้บัญชีเพื่อซื้อขายและเติมเงินได้ เราจำเป็นที่จะต้องไปยืนยันความเป็นเจ้าของบัญชี (Verified Account) ของเราก่อน โดยขั้นตอนนี้พี่ทุยแนะนำให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Binance โดยสามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Andriod
ดาวน์โหลด Binance บน App Store สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS ได้ ที่นี่
ดาวน์โหลด Binance บน Google Play สำหรับระบบปฏิบัติการ Android ได้ ที่นี่
เมื่อเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาแล้ว ให้กดเข้าไปที่ปุ่ม Log In บริเวณมุมบนด้านซ้าย เพื่อกรอก Email และ Password ที่เราได้สมัครไว้ในขั้นตอนที่ 1 จากนั้นให้กดปุ่ม Send code เพื่อส่งรหัส 6 หลักไปยัง Email ที่เราได้ทำการสมัครเอาไว้ และนำกลับเข้ามากรอกรหัส 6 หลัก ในแอปพลิเคชันอีกครั้งเพื่อยืนยันตัวตน
3. ปิดฟังก์ชัน Binance Lite เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบ
เมื่อผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน (Verification) ด้วยการเข้าใช้งานผ่านมือถือเรียบร้อยแล้ว พี่ทุยแนะนำให้ “ปิดฟังก์ชัน Binance Lite” เพื่อการใช้งานได้อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้น โดยกดเข้าไปที่บริเวณมุมด้านขวาบน
และกดปุ่มให้เป็นสัญลักษณ์ปิดบริเวณคำว่า Binance Lite สำหรับในกรณีที่เปิดอยู่ (หากเดิมมีการปิดใช้งานอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกดเปิดอีกครั้งแต่อย่างใด)
4. เปลี่ยนภาษาเป็น ‘ภาษาไทย’ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและใช้งานง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่า Binance จะเป็นแอปพลิเคชันในการแลกเปลี่ยนซื้อขายเหรียญระดับโลก แต่เขาก็มีการให้บริการในเวอร์ชันภาษาไทย เพื่อรองรับการใช้งานของคนไทยอย่างเต็มที่ โดยพี่ทุยแนะนำให้เปลี่ยนเป็นภาษาไทย เพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นและถูกต้องมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าหลากคนจะเก่งภาษาอังกฤษ แต่ยังไงภาษาบ้านเราก็ต้องถนัดมากกว่าแน่นอน
สามารถกดที่บริเวณมุมด้านบนขวา จากนั้นเข้าไปที่ Setting > Language เพื่อเลือก ‘ภาษาไทย’
5. ยืนยันข้อมูลส่วนตัวภายในแอปพลิเคชัน (หากในกรณีที่ต้องการกู้รหัสในภายหลัง)
หลังจากปรับแต่งการใช้งานภายในแอปพลิเคชันมาแล้วในขั้นตอนที่ 3 – 4 หลังจากนี้เราจำเป็นที่จะต้องกดยืนยันตัวตนภายในแอปพลิเคชันอีกครั้ง (อย่าเพิ่งเบื่อกันซะก่อนนะ ใกล้เสร็จสิ้นการเปิดบัญชีกันแล้ว)
เราสามารถกดเข้าไปที่ปุ่ม Verify (สีเหลือง) บริเวณมุมบนด้านซ้ายในหน้าต่างของ Profile จากนั้นก็ให้กรอกข้อมูลตามแบบฟอร์มที่ระบบขึ้นมา พี่ทุยแนะนำให้กรอกตามความเป็นจริงทุกอย่าง เผื่อในกรณีที่ต้องกู้รหัสกลับมาหรือดึงเงินคืน จะได้มีข้อมูลไปยืนยันตัวตนอย่างถูกต้อง
6. เปิดบัญชี Binance : ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน
ในขั้นตอนนี้ ให้เราถ่ายรูปด้านหน้า – ด้านหลังของบัตรประชาชน และทำการอัปโหลดเข้าไปในระบบ
7. เปิดบัญชี Binance : ยืนยันตัวตนด้วยการถ่ายรูปตัวเรา (Facial Verification)
จากนั้นให้ยืนยันด้วยการถ่ายหน้าตัวเราเอง (Selfie) เพื่อเป็นการยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัตรประชาชนดังกล่าวจริง โดยในการถ่ายรูปยืนยันตัวตน ระบบจะมีข้อบังคับ คือ (1) ห้ามสวมหมวก (2) ห้ามใส่แว่นตากันแดด (3) ห้ามใส่ฟิลเตอร์สำหรับกล้องถ่ายรูป (4) หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีแสงน้อย
เมื่อทำตามทั้งหมด 7 ขั้นตอนครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปสำหรับการ เปิดบัญชี Binance จะให้รอไม่เกิน 60 นาที แต่จากที่พี่ทุยใช้มา ใช้เวลาในการรอไม่เกิน 5 นาที ก็สามารถนำเงินเข้าและพร้อมซื้อขายได้ทันที ไว้ครั้งต่อไปพี่ทุยจะมาแนะนำวิธีการนำเงินเข้าบัญชี Binance กันอีกครั้งว่ามีวิธีไหนบ้าง แต่แอบกระซิบบอกเลยก่อนเลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ก็สามารถนำเงินเข้าได้เรียบร้อยแล้ว
สำหรับใครที่ตามไม่ทัน พี่ทุยแนะนำว่าให้เข้าเลื่อนขึ้นไปอ่านคอนเทนต์นี้กันอีกรอบ แต่ก่อนจะเลื่อนขึ้นไป อย่าลืมเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ของ Binance กันก่อน
กดเข้าไปเพื่อเปิดบัญชีของ Binance กันได้เลย คลิกที่นี่
อ่านเพิ่ม