ในระยะ 4-5 ปีมานี้ ธุรกิจการบินของไทยอาจไม่ได้อยู่ในสายตาของนักลงทุนเท่าใดนัก เนื่องจากกำไรของบริษัทในอุตสาหกรรมการบินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันต้องประสบผลขาดทุนแทบทุกราย แต่นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Southwest Airline สายการบินต้นทุนต่ำ (Low-Cost Airline) สัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นสายการบินที่ผู้โดยสารภายในประเทศสหรัฐฯ ใช้บริการมากที่สุดในปัจจุบัน จนทำให้ Southwest Airline เป็นสายการบินที่สามารถทำกำไรเป็นปีที่ 46 ติดต่อกันแล้ว จากที่เริ่มเปิดให้บริการมาทั้งสิ้น 48 ปี
สำหรับผลประกอบการของ Southwest Airline ในช่วง 3 ปีหลังสุด
ปี 2559 มีกำไรสุทธิ 2.18 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.09% จากปี 2558
ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 3.35 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 53.78% จากปี 2559
ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 2.46 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 26.57% จากปี 2560
และครึ่งปีแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 1.13 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 5.68% จากครึ่งปีแรกของปี 2561
Herb Kelleher ผู้ร่วมก่อตั้ง และอดีต CEO คือ บุคคลสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสายการบินที่ใช้รูปหัวใจสามสีเป็นโลโก้ต่อท้ายชื่อ Southwest แห่งนี้ เมื่อครั้งที่ Southwest เริ่มเปิดให้บริการในช่วงแรกเมื่อปี 2514 ราคาตั๋วเครื่องบิน ณ จากเมือง Antonio ไป Dallas ณ เวลานั้น อยู่ที่เพียง 13 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำกว่าคู่แข่งซึ่งอยู่ที่ 62 ดอลลาร์เหรียญสหรัฐฯ จนทำให้ผู้ถือหุ้นกังวลว่าอาจจะขาดทุน และเสนอขอให้บริษัทปรับค่าตั๋วเพิ่มอีกสัก 1-2 เหรียญ
Herb Kelleher กล่าวว่า
“บางทีคุณอาจจะยังไม่เข้าใจ เราต้องการแข่งขันกับการเดินทางด้วยรถโดยสารและรถยนต์ส่วนตัว ไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับสายการบินที่มีอยู่แล้ว”
การกดราคาค่าตั๋วลงมาเป็นเพียงหนึ่งในจุดเริ่มต้นเท่านั้น แต่สิ่งที่ Southwest Airline สามารถทำได้โดดเด่นจากสายการบินอื่น คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงาน หากใครเคยใช้บริการจะสังเกตได้ว่า สายการบินแห่งนี้จะใช้เครื่องบินเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นในการทำธุรกิจ คือ โบอิ้ง 747 เพื่อง่ายต่อการซ่อมบำรุงและฝึกฝนพนักงาน ช่วยลดเวลาที่เครื่องบินจอดอยู่บนพื้นดินให้เหลือน้อยที่สุด
นอกจากนี้ บริษัทจะเลือกใช้สนามบินที่มีสายการบินอื่นใช้น้อย ช่วยลดเวลารอเครื่องขึ้นลง รวมถึงการตัดบริการอาหารในเครื่องบิน ยกเว้นเครื่องดื่ม รวมถึงนโยบายที่จะไม่กำหนดที่นั่งตายตัวให้กับผู้โดยสาร หากใครเช็คอินก่อนก็มีสิทธิในการเลือกที่นั่งก่อน แม้จะใช้นโยบายที่อาจจะทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกน้อยลงเทียบกับสายการบินทั่ว ๆ ไป แต่ผลลัพธ์คือ ยังคงเป็นสายการบินที่ลูกค้าพึงพอใจสูงที่สุด จากการสำรวจของ J.D. Power’s travel โดยได้รับคะแนน 773 จาก 1000 คะแนน ถามว่าอะไรที่ทำให้ Southwest Airline แตกต่างจากสายการบิน ถึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นสายการบินที่ครองใจผู้โดยสารได้มากที่สุด คำตอบอยู่ที่แนวทางในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งมองว่า ‘ความสุขของพนักงานต้องมาก่อนความพึงพอใจของลูกค้า’
ทุกอย่างดูเหมือนจะขัดแย้งไปเสียหมด แต่สิ่งที่เชื่อมั่นคือ หากบริษัทสามารถดูแลพนักงานได้ดีแล้ว พนักงานก็จะดูแลลูกค้าได้ดีเช่นเดียวกัน และที่สำคัญคือ ‘หัวใจสามสี แดง ส้ม น้ำเงิน’ ไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ที่ต่อท้ายชื่อ Southwest เท่านั้น แต่คือสิ่งที่ยืนยันว่าทุกเที่ยวบินจะให้บริการด้วยหัวใจ
นอกจากความโดดเด่นในแง่ผลประกอบการที่ผ่านมาแล้ว บริษัทยังมีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น หลังจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับเพิ่มเครดิต เรทติ้งส์ ของบริษัทขึ้นจากระดับ BBB+ เป็นระดับ A- สูงที่สุดในบรรดาบริษัทสายการบินทั้งหมด จากความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน ซึ่งมีสภาพคล่องสูงถึง 3.7 พันล้านเหรียญ และจากความแข็งแกร่งของฐานะการเงินนี้เอง ทำให้ Southwest Airline เป็นเพียงไม่กี่สายการบินในช่วงโศกนาฏกรรม 9/11 ที่ไม่จำเป็นต้องปลดพนักงานออกเป็นจำนวนมาก เพื่อรักษาหลักการที่จะปฏิบัติต่อพนักงานเอาไว้ให้ได้
เกือบ 50 ปีที่ผ่านมาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การยึดมั่นในหลักการของตัวเอง ซึ่งผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วนั้น ช่วยให้บริษัทสามารถยืดหยัดอยู่ได้เป็นลำดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม ขณะเดียวกัน หุ้น LUV ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยยืนยันถึงความสำเร็จ จากราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 6 เท่าตัว ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาอีกด้วนะบอกเลย
Comment