ฟุตบอลยูโร 2024 เริ่มขึ้นแล้วเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. นี้ ด้วยความยิ่งใหญ่ของแต่ละชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันพร้อมด้วยซุปเปอร์สตาร์ระดับโลกและผู้ชมกว่าพันล้านทั่วโลก มูลค่าทัวร์นาเมนต์จึงสูงขึ้นไปพร้อมกันด้วย ด้วยมูลค่าที่สูงมากย่อมดึงดูดบริษัทจากทั่วโลกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลยูโร และหนึ่งในนั้นก็คือ บริษัทจากจีน ที่แม้ว่าจะไม่ได้เป็นทีมผู้เข้าแข่งขัน แต่แบรนด์จีนก็เข้ามาเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ที่สุดของยูโร 2024
ยูฟ่าเผยรายได้ ฟุตบอลยูโร 2024 เพิ่มขึ้น แบรนด์จีนแห่สปอนเซอร์เพียบ
Guy-Laurent Epstein ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด UEFA เผยว่ารายได้บอลยูโร 2024 จากทุกช่องทางซึ่งประกอบด้วยการทำธุรกิจเชิงพาณิชย์ สปอนเซอร์ การขายลิขสิทธิ์ การออกอากาศ และค่าตั๋ว จะเพิ่มขึ้นประมาณ 25% จากบอลยูโร 2020
จะเห็นว่าหนึ่งในรายได้ของบอลยูโรมาจากสปอนเซอร์ โดยมีแบรนด์ร่วมเป็นสปอนเซอร์ระดับโลก (Official global sponsors) รวม 13 แบรนด์ และที่น่าสนใจคือมีแบรนด์สัญชาติจีนถึง 5 แบรนด์ คือ AliExpress, Alipay, BYD, Hisense และ Vivo เพิ่มขึ้นจากบอลยูโร 2020 ที่มี 4 แบรนด์ ประกอบด้วย Alipay, Hisense, TikTok และ Vivo
คำถามที่น่าสนใจ คือ ทำไมแบรนด์จีนถึงแห่เป็นสปอนเซอร์บอลยูโร 2024 ที่เป็นการแข่งขันฟุตบอลของชาติในทวีปยุโรป?
ทำไมแบรนด์จีนแห่เป็นสปอนเซอร์ ฟุตบอลยูโร 2024
บอลยูโร 2024 นอกจากจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปแล้ว ยังกลายเป็นเวทีกีฬาที่เหล่าแบรนด์จีนเข้ามาประกาศให้โลกรู้ถึงความยิ่งใหญ่ถึงทวีปยุโรปที่ห่างเป็นพันกิโลเมตรจากประเทศจีน
แล้วแบรนด์จีนเหล่านี้จะได้อะไรบ้างจากการเสียเงินค่าสปอนเซอร์ให้บอลยูโรครั้งนี้?
- ถึงเวลาต้องเปิดตลาดใหม่
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เหล่าบริษัทจีนได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวปีละ 7-10% ทำให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น รายได้และกำไรก็เติบโตตามไปด้วย ช่วงนั้นทุกฝ่ายมองไปอีกขั้นแล้วว่าสักวันหนึ่งในอนาคตเศรษฐกิจจีนจะเติบโตน้อยลง และบริษัทจีนต้องหันไปลุยตลาดต่างประเทศหาการเติบโตอีกครั้ง
และแล้วเวลานั้นก็มาถึงเมื่อ 2-3 ปีก่อน เศรษฐกิจจีนเริ่มอิ่มตัวและสะดุดกับปัญหาใหญ่ในภาคอสังหาฯ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บความมั่งคั่งของประชาชนจีน ประชาชนจึงต้องเข้าโหมดประหยัดเพราะเงินไปจมกับอสังหาฯ ก็ถึงจุดที่บริษัทจีนต้องออกไปหาโอกาสในต่างประเทศ
ตลาดประเทศตะวันตกเป็นแหล่งที่มีกำลังจ่ายมากพอจะทำให้บริษัทจีนยังเติบโตได้ด้วยอัตราเดิม นี่เป็นครั้งแรกที่แบรนด์จีนจะต้องเข้าไปตีตลาดฝั่งตะวันตก ความท้าทาย คือ ต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์จากบริษัทจีนสู่ระดับโลก ซึ่งบอลยูโร 2024 ตอบโจทย์นี้ โดยคาดกันว่าจะมีผู้ชมทัวร์นาเมนต์นี้ทั่วโลกกว่า 5,000 ล้านคน
- สร้างภาพแบรนด์ระดับโลก เชื่อมโยงหาลูกค้าใหม่
ด้วยความตื่นเต้น กติกาเข้าใจง่าย ทุกคนทุกวัยเข้าถึงได้ ทำให้กีฬาฟุตบอลเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ซึ่งตอบโจทย์เบสิคด้านการตลาดที่ต้องมีช่องทางเข้าสู่สายตาคนทั่วโลกอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ฝั่งบริษัทเองถึงแม้จะมีเงินทุนหนาแล้ว ต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคเห็นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาว ซึ่งบอลยูโร 2024 เป็นทัวร์นาเมนต์กีฬาที่มีภาพลักษณ์ระดับโลก ดังนั้นแบรนด์ที่สปอนเซอร์ก็เสมือนได้สถานะแบรนด์ระดับโลกไปด้วย
แถมยังเป็นโอกาสให้แบรนด์จีนได้เป็นที่รู้จักและเพิ่มลูกค้าในทวีปยุโรปที่มีกว่า 450 ล้านคน ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ในทวีปนี้มีรายได้สูง เรียกได้ว่าถ้าเจาะตลาดนี้ได้ เห็นภาพรายได้เติบโตแน่นอน
นอกจากนี้บริษัทจีนยังมีโอกาสได้ข้อมูลลูกค้าที่หลากหลายมากกว่าข้อมูลเพียงแค่ในประเทศจีน ช่วยให้พัฒนาประสิทธิภาพธุรกิจเจาะตลาดยุโรปง่ายขึ้น และพร้อมบุกตลาดทวีปอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันได้อีก
ที่ผ่านมาแบรนด์จีนเคยเป็นสปอนเซอร์มหกรรมกีฬาอะไรบ้าง?
ในปี 2016 Hisense บริษัทเครื่องใช้ภายในบ้านเป็นแบรนด์จีนแบรนด์แรกที่เป็นสปอนเซอร์ให้กับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอล UEFA และปี 2018 ก็เข้าเป็นสปอนเซอร์ฟุตบอลโลกที่รัสเซีย ซึ่งยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 274.4% ในระหว่างทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2018
ด้าน Alipay ก็เซ็นสัญญามูลค่า 200 ล้านยูโร เป็นสปอนเซอร์ให้กับทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลระดับชาติของ UEFA ในระหว่างปี 2018-2026 นั่นหมายความว่าแบรนด์ได้ปรากฎต่อแฟนบอลทั่วโลกผ่านศึกยูโร 2020 และยูโร 2024 นอกจากนี้ทั้ง Alipay และ AliExpress ยังสปอนเซอร์มหกรรมกีฬาโอลิมปิกในช่วงปี 2017-2028 อีกด้วย
ส่วน Vivo ก็ไม่น้อยหน้า เคยเป็นสปอนเซอร์ให้กับ FIFA ระหว่างปี 2017-2022 ทำให้ได้ร่วมศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียและฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
แม้ค่าเซ็นสัญญากับมหกรรมกีฬาระดับโลกจะแสนแพง แต่บริษัทระดับโลกก็ยังยอมจ่าย ซึ่งนอกจากจะได้ภาพลักษณ์ที่ดีแล้ว เคสยอดขาย Hisense ที่เติบโตแรง เป็นอีกผลลัพธ์ที่หลายแบรนด์อาจได้จากการเป็นสปอนเซอร์
แต่ละแบรนด์จีนคาดหวังจะได้อะไรจากยูโร 2024
ทวีปยุโรปเป็นตลาดที่รถ EV จากจีนเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้เกิดกระแสต่อต้าน ซึ่ง BYD ไม่ต้องการเสียภาพลักษณ์ในตลาดนี้ จึงต้องแสดงให้เห็นว่าแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนยุโรปสู่เศรษฐกิจ Zero carbon โดย BYD ใช้เวทียูโร 2024 แสดงเทคโนโลยี EV สุดล้ำต่อชาวโลก รวมถึงมอบรถ EV ให้ผู้จัดการแข่งขันไว้ใช้ด้วย
AliExpress แพลตฟอร์ม e-Commerce จะได้ฐานลูกค้าใหม่ในยุโรป ในช่วงฟุตบอลโลก 2022 บริษัทได้ใช้โอกาสนั้นขายเสื้อแข่งและสินค้าของทีมไปทั่วโลก แน่นอนว่าอาจต่อยอดกลยุทธ์นี้กับยูโร 2024 ได้อีกครั้ง และอาจดึงดูดลูกค้ามากขึ้นด้วยโปรโมชันผ่านช่องทางออนไลน์หรือส่วนลดพิเศษเฉพาะสินค้าของทีมใดทีมหนึ่ง
ส่วน Alipay นอกจากจะเซ็นสัญญาสปอนเซอร์แล้ว ยังเป็นพันธมิตรด้านการชำระเงินระดับโลกของ UEFA ซึ่งกีฬาระดับฟุตบอลยูโรดึงดูดแฟนบอลจากทั่วโลก ทำให้ Alipay ได้ทั้งภาพลักษณ์และลูกค้าเพิ่มขึ้นจากการเป็นอีกช่องทางให้แฟนบอลชำระเงินค่าตั๋ว โดยเฉพาะแฟนฟุตบอลจากเอเชียที่เดินทางไปชมบอลยูโรครั้งนี้
สรุปแล้ว แบรนด์จีนต้องการเป็นสปอนเซอร์บอลยูโร ก็เพราะบริษัทจีนถึงเวลาต้องขยายธุรกิจไประดับโลกเพื่อรักษาการเติบโต ซึ่งประเทศตะวันตกเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ และฟุตบอลยูโร 2024 เป็นมหกรรมกีฬาที่เข้าถึงผู้ชมจำนวนมากทั่วโลก สามารถใช้เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการก้าวไปสู่ระดับโลก
อ่านเพิ่ม