วันนี้พี่ทุยจะพาเพื่อน ๆ นั่งรถไฟไปเที่ยวจังหวัดที่ 77 ของประเทศไทย นั่นก็คือ “บึงกาฬ” ในงบสุดประหยัดแค่ 2,000 บาทเท่านั้น งบแค่นี้ แต่ได้สัมผัสธรรมชาติที่คุ้มค่า และสมบูรณ์แบบ ไปดูกันเลยว่าพี่ทุยจัดสรรงบประมาณไปเที่ยวยังไงกันบ้าง!
พี่ทุยและผองเพื่อนเลือกที่จะนั่งรถไฟไป เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศ แถมยังประหยัดงบประมาณลงได้อีกด้วย เดินทางโดยรถไฟนั่งกรุงเทพฯ – อุดร ที่พี่ทุยมาลงอุดรธานีก่อน เพราะว่ามีรถเข้าบึงกาฬเยอะมาก ถ้าไม่อยากเช่ารถ สามารถขึ้นรถตู้ หน้าห้างเซนทรัลอุดรธานีได้เลย ไม่แนะให้ลงหนองคายนะ เพราะรถไฟห่างจาก บขส ค่อนข้างไกล จะทำให้เดินทางลำบาก
มาถึงที่ราคาตั๋วกันบ้าง สำหรับรถไฟนั่งปรับอากาศ ไป-กลับคนละ 1,018 บาท ตกเที่ยวละ 509 บาท เท่านั้นเอง รถไฟค่อนข้างใหม่ นอนสบาย แอร์นี่เย็นเฉียบ หาซื้อตั๋วได้ที่เว็บไซต์ www.busonlineticket.co.th ได้เลย
เนื่องจากพี่ทุยและผองเพื่อนเอี้ยงมากันถึง 6 คน เลยเลือกที่จะเช่ารถกัน ซึ่งเช่าได้ที่ Budget Thailand เลยจ้า เจ้าเก่าเจ้าเดิม (อันนี้ไม่ได้สปอนเซอร์ด้วยนะ แต่ถ้าลูกค้าอยากสปอนเซอร์ก็ติดต่อมาได้เลย ฮ่า)
โดยพี่ทุยเลือกแบบ Car Rental + Fuel 1 วัน ราคาอยู่ที่ 900 บาท ถือว่าไม่แพงเลยนะ แล้วหาร 6 เข้าไปอีก ตกคนละ 150 บาท/วัน แต่พี่ทุยนั้นต้องใช้ถึง 2 วัน ก็จะเป็น 1,800 บาท ค่ารถเช่าก็จะเป็น 300 บาท/คน ไปจ้าขับรถไปดูที่พักของเรากัน
พี่ทุยเลือกพักที่ โรงแรม เดอะวัน บึงกาฬ ซึ่งอยู่ใจกลางเมืองเลย เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก ห้องดี อาหารอร่อย ห้องนึงจะนอนได้ 2 คน คืนละ 600 บาท หาร 2 จะตกคนละ 300 บาท/คน เอง คุ้มมากนะบอกเลย
เท่านั้นยังไม่พอ เพราะที่พักนี้ ให้ฟรีอาหารเช้าอีกต่างหาก คุ้มกว่านี้มีอีกมั้ย! แนะนำนำให้จองใน Agoda เลย ประหยัดลงได้อีก ส่วนลดเพียบ!ไปจ้า เก็บของแล้วลุย! ไม่รอช้า วันหยุดเราน้อย (ฮ่า)
ขับรถมาถึงที่นี่บอกเลยไม่ผิดหวังจริง ๆ แหละ “ภูทอก” งดงามตามท้องเรื่อง หลายคนบอกว่าถ้าไม่มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึงบึงกาฬนะจ้ะ “ภูทอก” จะเป็นภูเขาสองลูก มีลูกเล็กกับลูกใหญ่ จะมีบันไดไม้เวียนรอบเขาที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวไปได้เรื่อย ๆ ตลอดทาง นี่แหละคือจุดที่ต้องหยิบกล้องขึ้นมาแล้วถ่ายรูปให้เพื่อนเลยจ้า นางโพสต์ท่ารอแล้ว (ฮ่า) พี่ทุยแนะนำให้มาช่วงฤดูหนาวกับฤดูฝนนะ ที่นี่จะสวยมาก ๆ เลยล่ะ
ช่วงเย็นเราก็มาต่อกันที่ “หินสามวาฬ” เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คเลย แต่ว่าทางขึ้นค่อนข้างเขาชันมาก ต้องต่อรถกระบะขึ้นไป เหมาคันละ 500 บาท หาร 6 ก็จะตกคนละ 83 บาทเท่านั้นเอง
ความอลังการของ หินสามวาฬ ทำให้พี่ทุยและผองเพื่อนต้องมาเยือนสักครั้ง ที่นี่เป็นเขตพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบ เต็มไปด้วยกลุ่มก้อนหินที่สวยแปลกตา ที่เด่นที่สุดเลยคงจะเป็น หินสามวาฬก้อนใหญ่ติดหน้าผา
เหตุผลที่เรียกว่าหินสามวาฬเพราะว่า จุดชมวิวตรงนี้มีลักษณะ เป็นหินก้อนใหญ่สามก้อนคล้ายวาฬยื่นออกมา ใคร ๆ ต่างก็พากันมาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ที่นี่ตอนเย็นว่าสวยแล้ว ตอนเช้าเค้าบอกว่าสวยกว่า นั่งชมพระอาทิตย์ตอนเช้ากับหมอกบาง ๆ ล้อมรอบด้วยต้นไม้สีเขียว ๆ เต็มไปหมด ทุกคนลองนึกภาพตามพี่ทุยนะ มันดีมาก! วันนี้เราก็ได้เที่ยวถึงสองที่แล้ว ขออนุญาตกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน แล้วค่อยลุยต่อกันพรุ่งนี้นะ
นอนเก็บแรงเป็นที่เรียบร้อย เช้านี้เรามาต่อกันที่ “น้ำตกถ้ำพระ” แต่ว่าการจะเข้าไปได้ต้องนั่งเรือเข้าไป โดยเค้าจะมีเรือรับจ้าง ค่าโดยสารเพียงคนละ 20 บาทเท่านั้น นั่งเรือเพียง 15 นาที แต่ต้องเดินเข้าไปอีก ประมาณ 1 กิโลเมตร ก็เป็นอันว่าถึง
น้ำตกถ้ำพระนั้นเป็น น้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลอยู่บนภูเขาทรายขนาดใหญ่ แนะนำให้ไปช่วงเดือน กรกฎาคม – ต้นเดือนตุลาคมเท่านั้น เพราะถ้าไปช่วงอื่นน้ำจะน้อยมาก ซึ่งพี่ทุยมาช่วงที่น้ำน้อยพอดี เสียดายนิดหน่อย แต่น้ำน้อยยังสวยขนาดนี้ น้ำไหลหลากมาก ๆ จะสวยขนาดไหนกันน้า ใครเคยเป็นแล้ว เอารูปมาอวดให้พี่ทุยอิจฉาที
เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยว 2 วัน 1 คืน ที่คุ้มค่าแก่การมาเที่ยวมาก ๆ เที่ยวตั้งหลายที่ แถมงบประมาณยังถือว่าเป็นที่น่าพอใจมาก ๆ อีกด้วย ใช้งบทั้งหมดแค่เพียง 2,121 บาทเท่านั้น
ถึงจะมีงบไม่มากมาย ก็สามารถเที่ยวได้นะ แค่ต้องมีการบริหารเงินที่ดี มีการตั้งงบไว้ ไม่ฟุ่มเฟือย ใครชอบไปเที่ยว ก็กดติดตามเพจ Money Buffalo แล้วมาดูกันว่าครั้งหน้าพี่ทุยและผองเพื่อนเอี้ยงจะพาไปเที่ยวไหนกัน หรือถ้าใครอยากให้พี่ทุยพาไปเที่ยวที่ไหน ก็บอกกันมาได้เลยน้า
ไปดูทริปงบประหยัดทริปอื่น ๆ กัน
รูปล่าง ของ mobile
Comment