เทคนิคประหยัดค่าใช้จ่ายช่วง เทศกาลหยุดยาว

สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้ว วันหยุดหรือช่วง เทศกาลหยุดยาว นั้นมีความสำคัญและมีความหมายมาก เปรียบเหมือนของยาวิเศษเยียวยาจิตใจที่ห่อเหี่ยวได้ (ฮ่า) และหลายคนก็ไม่อยากให้วันหยุดที่แสนจะหอมหวานหมดลงอย่างรวดเร็ว วันหยุดคือสิ่งที่โหยหาและแน่นอนว่าโอกาสของการจะได้หยุดพักนาน ๆ หรือหยุดหลายวันหน่อยก็ไม่ได้มีมาง่าย ๆ เลย

แน่นอนว่าไม่มีมนุษย์เงินเดือนคนไหนที่ไม่ชอบวันหยุด หลังจากที่ทำงานกันมาอย่างเหน็ดเหนื่อย ในช่วงเวลาของวันหยุดบางคนจึงพยายามคืนความสุขของช่วงเวลาทำงานให้กับตัวเอง ใช้เงินเพื่อซื้อความสบายให้กับตัวเอง แต่พี่ทุยอยากเตือนว่าอย่าประมาทและต้องควบคุมตัวเอง รวมทั้งการใช้จ่ายให้ดีด้วยนะ และอย่าลืมว่าการหยุดในช่วงวันหยุดตามเทศกาล หรือวันหยุดยาวส่วนใหญ่เป็นวันที่ทุก ๆ คนหยุดไม่ต่างกัน ข้าวของต่าง ๆ ก็มีราคาสูงกว่าช่วงปกติมากกกก

เทคนิคการประหยัดค่าใช้จ่ายใน เทศกาลหยุดยาว

พี่ทุยมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากทุกคน เพื่อที่ได้ใช้เวลาในวันหยุดยาวได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องกลัวว่า หลังจากกลับมาทำงานแล้วเงินที่เหลืออยู่จะพอใช้ในช่วงที่เหลือของเดือนหรือเปล่า และจะได้ไม่ต้องเจอปัญหาเงินไม่พอใช้ หรือชักหน้าไม่ถึงหลัง รวมทั้งปัญหาหนี้สินอีกด้วย

1. วางแผน เทศกาลหยุดยาว ล่วงหน้านาน ๆ

ข้อเสียของวันหยุดในช่วงเทศกาล นั่นคือ ทุกคนหยุดเหมือนกันหมด มันจึงเป็นช่วงที่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แพงไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทางต่าง ๆ ก็พากันขึ้นตามความต้องการที่มากขึ้นของคนทั้งน้านนนน พี่ทุยว่าการจัดเตรียมล่วงหน้าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้เยอะนะ อย่างที่รู้กันดีว่าช่วงวันหยุดยาว ๆ หรือช่วงเทศกาลเนี้ย คนนิยมออกเดินทางไปเที่ยวกันค่อนข้างเยอะ ซึ่งแน่นอนว่าค่าโดยสารและตั๋วเครื่องบินจะมีราคาแพง !

ดังนั้นถ้าเราวางแผนล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะไปที่ไหน วันไหนได้แล้วให้ดูตั๋วไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และ อย่าจองตั๋วช้าจนเกินไป เพราะการจองตั๋วกระชั้นชิดพี่ทุยบอกเลยว่าราคาตั๋วจะเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดแน่ ๆ เช่น ซื้อก่อนเดินทางไม่กี่วันอาจจะเจอตั๋วแพงกว่าเดิมหลายเท่าเอาได้เลย

อีกเรื่องที่ก็สำคัญไม่แพ้กันก็คือ วันเดินทาง วิธีที่พี่ทุยแนะนำคืออยากให้ลองเลือกเดินทางวันที่ราคาตั๋วค่อนข้างถูกหน่อยก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงได้ อย่างถ้าเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดและใช้เที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนใหญ่แล้วช่วงกลางสัปดาห์จะถูกกว่าวันอื่น ๆ นั่นคือ วันอังคาร วันพุธและวันพฤหัส แต่ที่แน่นอนกว่าคือวันที่แพงที่สุดได้แก่ วันศุกร์กับวันอาทิตย์ นั่นเอง

2. ตั้งงบประมาณและวางแผนการใช้จ่าย

ช่วงเทศกาลต่าง ๆ มักเป็นช่วงเวลาของการสังสรรค์เฮฮาในครอบครัว ญาติพี่น้องหรือกลุ่มเพื่อนฝูง ไหนจะของฝาก ของที่ระลึกที่จะซื้อกลับไปฝากเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานอีก พี่ทุยว่าการตั้งงบประมาณและวางแผนการใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะช่วยให้เราสามารถกำหนดทิศทางของการใช้จ่ายแต่ละอย่างได้ชัดเจน และยังช่วยควบคุมการใช้จ่ายของเราเองได้ด้วยน้า พี่ทุยว่ามันเป็นตัวช่วยที่ดีในการป้องกันการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในสิ่งที่ไม่จำเป็น

นอกจากนั้นแล้ว สำหรับใครที่เดินทางไปกลับบ้านหรือไปเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัว เราจะต้องประมาณค่าใช้จ่ายทั้งขาไปและขากลับไม่ว่าเป็นค่ารถ ค่าน้ำมัน และในส่วนของค่าใช้จ่ายยิบย่อยอื่น ๆ ก็ควรจะลิสต์รายการออกมาประมาณคร่าวๆซะก่อน ว่าจะต้องใช้เงินไปกับเรื่องไหนบ้าง แต่ละอย่างมีงบประมาณอยู่ที่เท่าไหร่ และสามารถควบคุมการใช้จ่ายเพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในช่วงที่เหลือของเดือนด้วย ไม่ใช่ว่าสนุกกับการใช้ชีวิตในช่วงวันหยุดแต่มาลำบากที่หลังอันนี้พี่ทุยว่ามันก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่เลยนะ

3. ทางเลือกที่ประหยัดและสบายใจ คือ การพักผ่อนอยู่บ้าน

การพักผ่อนอยู่บ้านในช่วงที่หลาย ๆ คนออกไปท่องเที่ยวข้างนอกก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง ที่พี่ทุยว่าก็ค่อนข้างน่าสนใจอยู่เลย เพราะนอกจากจะไม่ต้องออกไปแย่งกันเที่ยว แย่งกันกินกับคนอื่น ๆ ในช่วงที่ราคาข้าวของแพง ๆ แล้ว พี่ทุยว่ายังทำให้ครอบครัวมีกิจกรรมร่วมกัน ถือว่าเป็นการสร้างช่วงเวลาดีๆร่วมกันได้ เพราะช่วงเวลาทำงานแต่ละคนก็ต้องรีบตื่นเช้าออกไปทำงาน วัน ๆ หนึ่งแทบไม่มีเวลาคุยกัน

พี่ทุยว่าการพักผ่อนดูทีวี หรือการทำอาหารทานเองที่บ้านหรือทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัว และกลุ่มเพื่อนก็เป็นการชาร์จแบต ชาร์จพลังในช่วงวันหยุดยาวๆได้เป็นอย่างดีไม่ต่างกับการไปเที่ยวเลย และที่สำคัญก็ช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ได้ดีมากกว่าการออกไปใช้จ่ายข้างนอกบ้านเสียอีก

พี่ทุยอยากให้ทุกคนวางแผนบริหารจัดการเงินและการใช้จ่ายให้ดีไว้แต่เนิ่น ๆ และอย่าให้ความสุข หรือความสบายของการใช้ชีวิตและการพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวมาพรากความสุขและเงินในกระเป๋าไปซะหมด แล้วในช่วงเวลาที่เหลือของเดือนกลับต้องมาลำบากเพราะตัวเองซะอย่างนั้น จะได้ไม่ต้องเจอปัญหาเงินไม่พอใช้และหนี้สินรุงรังต่างๆที่ตามมากันนะ

อ่านเพิ่ม

• ทำไมการเป็น “หนี้สิน” ถึงเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์เงินเดือน ?