"หุ้น Walmart" เติบโตสูงสุดในรอบ 4 ปี สวนทางวิกฤตโควิด-19

“หุ้น Walmart” เติบโตสูงสุดในรอบ 4 ปี สวนทางวิกฤตโควิด-19

3 min read  

ฉบับย่อ

  • ราคา “หุ้น Walmart” พุ่งขึ้นทำ All time high ในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 หลังจากบริษัทรายงานกำไรสุทธิปีล่าสุด กลับมาเติบโตครั้งแรกในรอบ 4 ปี และยังเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปีก่อนหน้า
  • การลงทุนสร้างระบบ Omni channel ดูเหมือนจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้บริษัทกลับมาเติบโตอีกครั้ง และยังทำให้บริษัทขายสินค้าได้ไม่สะดุด แม้ไวรัสกำลังแพร่ระบาด
  • แต่การเติบโตของ Walmart ในอนาคตดูเหมือนจะไม่ได้ก้าวกระโดดอีกแล้ว เพราะปัจจุบันบริษัทมีรายได้สูงถึงปีละ 17 ล้านล้านบาท มีกำไรปีละประมาณ 4.7 แสนล้านบาท

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เศรษฐกิจโลกฉบับวิกฤตโควิด-19 คงจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ต่อธุรกิจส่วนใหญ่ สำหรับยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา และของโลกอย่าง Walmart แน่นอนว่าย่อมได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย แต่ดูเหมือนว่าการปรับตัวของ Walmart ในช่วงก่อนหน้านี้ จะช่วยบริษัทฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดูจากราคา “หุ้น Walmart” ที่พุ่งขึ้นทำ All time high สวนทางกับหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลกในปีนี้

กลางเดือน เมษายน ที่ผ่านมา ราคาหุ้น Walmart พุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราว 133 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังบริษัทรายงานกำไรปีล่าสุด สิ้นสุด ณ 31 มกราคม 2020 และเมื่อย้อนกลับไปดู 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าผลประกอบการของ Walmart เพิ่งจะกลับมาเติบโตอีกครั้งในปีล่าสุดนี้

ผลประกอบการของ Walmart ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา

ปี 2015/2016 มีกำไรสุทธิ 1.47 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.77 แสนล้านบาท
ปี 2016/2017 มีกำไรสุทธิ 1.36 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.42 แสนล้านบาท
ปี 2017/2018 มีกำไรสุทธิ 9.86 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 3.20 แสนล้านบาท
ปี 2018/2019 มีกำไรสุทธิ 6.67 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.17 แสนล้านบาท
ปี 2019/2020 มีกำไรสุทธิ 1.48 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 4.81 แสนล้านบาท
ปี 2020 ออกมาเติบโตเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี

คำตอบของการกลับมาเติบโตในปีก่อน คือ การลงทุนสร้างระบบ Omni channel ของ Walmart ที่ทำมาต่อเนื่องในระยะหลัง ก่อนอื่นพี่ทุยขอขยายความคำว่า Omni channel ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้ามาเติมเต็มข้อจำกัดของร้านค้าปลีกทั้งในส่วนของออนไลน์และออฟไลน์

ข้อจำกัดของออฟไลน์ คือ ขนาดของร้านค้า ทำให้ไม่สามารถจะจัดเก็บสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมด รวมถึงเวลาเปิดปิด ขณะที่ข้อจำกัดของออนไลน์ คือ ลูกค้าไม่สามารถทดลองสินค้า บริการหลังการขายได้ หรือระยะเวลาในการรอจัดส่งสินค้าเพราะฉะนั้นแนวคิด Omni channel จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้สมบูรณ์มากขึ้น

สำหรับ Walmart คงไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นธุรกิจค้าปลีกที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากในฐานะออฟไลน์ ด้วยจำนวนสาขารวมในสหรัฐอเมริกากว่า 5,000 แห่ง และรวมกว่า 11,000 แห่ง ทั่วโลก บริษัทได้ต่อยอดให้สาขาเหล่านี้ รวมถึงการขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อตอบสนองการเป็น Omni channel ทำให้ปัจจุบัน Walmart มีจุดรับสินค้าทั่วสหรัฐอเมริกากว่า 3,100 จุด และจุดให้บริการขนส่งสินค้ากว่า 1,600 แห่ง และด้วยสินค้าของ Walmart ซึ่งเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แม้ในยามวิกฤตเช่นนี้ดูเหมือนว่า Walmart ก็ยังคงสามารถขายของได้ เพียงแต่อาจจะเปลี่ยนมาเป็นการขายออนไลน์มากขึ้น

อย่างไรก็ตามคำถามที่มักจะตามมาหลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาแบบนี้ คือ แล้ว Walmart จะยังคงการเติบโตไปได้ต่อเนื่องขนาดไหน เพราะต้องยอมรับว่า Walmart ในปัจจุบันไม่ใช่ดาวรุ่งอีกต่อไปแล้ว นี่คือยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในตลาดมาอย่างยาวนานด้วยรายได้ปัจจุบันที่สูงถึง 5.23 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 17 ล้านล้านบาทต่อปี

หากคิดเป็นการเติบโตในเชิงตัวเงิน ปีที่ผ่านมารายได้ของ Walmart เพิ่มขึ้น 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3.1 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หากคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การเติบโตแล้ว มันช่างดูเล็กน้อยนัก คือเพียง 1.85% ทั้งนี้มีการคาดการณ์กันไว้ว่ากำไรของบริษัทจะเติบโต 4% ในปีนี้ และ 6% ในปีถัดไป หลังจากที่ก้าวกระโดดกว่าเท่าตัวเมื่อปีก่อน ก็คงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า การเติบโตของ Walmart ในระดับนี้จะยังช่วยดันให้ราคา “หุ้น Walmart” ทำจุดสูงสุดใหม่ไปได้ต่อเนื่องแค่ไหน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply