WHART กองทรัสต์ยืนหนึ่งเรื่อง ‘คลังสินค้าและโรงงาน’ เตรียมเพิ่มทุนในปี 2566 พร้อมโตต่อเนื่อง

WHART กองทรัสต์ยืนหนึ่งเรื่อง ‘คลังสินค้าและโรงงาน’ เตรียมเพิ่มทุนในปี 2566 พร้อมโตต่อเนื่อง

3 min read  

ฉบับย่อ

  • การซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) เติบโตมากเท่าไหร่ ความต้องการ “คลังสินค้า” ก็จะยิ่งมีความต้องการมากเท่านั้น
  • WHART จะเน้นลงทุนใน “คลังสินค้าและโรงงาน” ที่มีมาตรฐานระดับ World-Class ในรูปแบบ ‘Built-to-Suit’ และ ‘General Warehouse’ ที่อยู่ทำเล Logistics ที่มีความต้องการเช่าสูง 
  • ล่าสุดทาง WHART ได้เตรียมการประกาศเพิ่มทุนในปี 2566 เตรียมเข้าลงทุนอีก 3 โครงการหลัก มีมูลค่ารวมไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

WHART กองทรัสต์ที่ลงทุนใน ‘คลังสินค้าและโรงงาน’ ระดับ World-Class ที่มีความต้องการเช่าจากผู้ประกอบการทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้เตรียมประกาศเพิ่มทุนในปี 2566 เพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่อง

การเพิ่มทุนครั้งนี้จะเอาไปลงทุนอะไรบ้าง ? จะช่วยทำให้ WHART แข็งแกร่ง มั่นคงได้มากขนาดไหน ? แล้วถ้าสนใจอยากเข้าลงทุนสามารถทำผ่านช่องทางไหนได้บ้าง ? ไปดูกัน

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท

ยิ่งการซื้อขายผ่านช่องทางออนไลน์ (E-Commerce) เติบโตมากเท่าไหร่ ความต้องการ “คลังสินค้า” ก็จะยิ่งมีความต้องการมากเท่านั้น และแน่นอนว่าหากพูดถึงคลังสินค้ายังไงชื่อของ “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART)” ก็ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ แน่นอน

WHART จะเน้นลงทุนใน “คลังสินค้า” และ “โรงงาน” ที่มีมาตรฐานระดับ World-Class ในรูปแบบ ‘Built-to-Suit’ และ ‘General Warehouse’ ที่อยู่ทำเล Logistics ที่มีความต้องการเช่าสูง

ทำให้ WHART มีผู้เช่าจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมสัญญาเช่าเฉลี่ยระยะยาวกว่า 4 ปี และมีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย (Average Occupacy rate) ระดับ 90% มาโดยตลอด และยังสามารถจ่ายเงินปันผลได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่จัดตั้งกองขึ้นมาเลย

เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงเบอร์ต้น ๆ ของเรื่อง ‘คลังสินค้าและโรงงาน’ ในไทย ก็ต้อง WHART นี่แหละ

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท

ด้วยมูลค่าตามราคาตลาด เท่ากับ 35,020.3 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พ.ย. 2566) มูลค่าสินทรัพย์รวมกว่า 51,682.9 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566) และทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการที่มากกว่า 1.74 ล้านตารางเมตร

ทำให้ WHART ณ ปัจจุบันเป็นกองทรัสต์ที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้ Credit Rating จาก TRIS ที่ระดับ A (Stable) และได้รับเลือกให้ติดอันดับ ESG100 จากสถาบันไทยพัฒน์ติดต่อกันเป็นปีที่ 5 สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมั่นคงของ WHART ได้เป็นอย่างดี

WHART เพิ่มทุนในปี 2566 เตรียมเข้าลงทุนอีก 3 คลังสินค้าและโรงงาน

WHART กองทรัสต์ยืนหนึ่งเรื่อง ‘คลังสินค้าและโรงงาน’ เตรียมเพิ่มทุนในปี 2566 พร้อมโตต่อเนื่อง

เพื่อให้สามารถตอบรับกับกระแสความต้องการคลังสินค้าและโรงงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทาง WHART ได้เตรียมการประกาศเพิ่มทุนในปี 2566 เตรียมเข้าลงทุนอีก 3 โครงการหลัก มีมูลค่ารวมไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท

WHART เพิ่มทุนในปี 2566 เตรียมเข้าลงทุนอีก 3 คลังสินค้าและโรงงาน

1. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม.21

โดยจะเข้าลงทุนในรูปแบบสิทธิการเช่าประมาณ 27 ปี 5 เดือน ซึ่งเป็นคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit และ General Warehouse ที่มีพื้นที่อาคารรวม 90,862 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่เช่าหลังคาอีก 33,447 ตารางเมตร

2. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1

เข้าลงทุนในรูปแบบกรรมสิทธิในที่ดินและอาคาร (Freehold) โดยจะเป็นคลังสินค้าแบบ General Warehouse ที่มีพื้นที่อาคารรวม 24,310 ตารางเมตร

3. โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3

เข้าลงทุนในรูปแบบสิทธิการเช่าประมาณ 27 ปี 5 เดือน เป็นคลังสินค้าแบบ General Warehouse ที่มีพื้นที่อาคารรวม 27,724 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่เช่าหลังคาอีก 2,989 ตารางเมตร

โครงการดับบลิวเอชเอ

ซึ่งทั้ง 3 โครงการที่เข้าลงทุนเพิ่มเติมล้วนอยู่ในทำเลทอง ที่มีความต้องการเช่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมไม่เกิน 3,566.49 ล้านบาท

โดยคาดการณ์ว่าหลังจากเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้กองทรัสต์มีประมาณการอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่ประมาณ 8.23%* ทั้งนี้ขึ้นกับราคาเสนอขายสุดท้าย

*อ้างอิงประมาณการผลตอบแทนของกองทรัสต์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567 ตามที่ได้ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน บนสมมติฐานราคาเสนอขายสูงสุดไม่เกิน 9.60 บาทต่อหน่วย

กองทรัสต์ WHART

สำหรับใครที่กำลังมองหาการลงทุนที่เติบโตต่อเนื่อง มีความมั่นคงสูง พร้อมสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอทนต่อทุกสภาวะเศรษฐกิจได้ดี  “กองทรัสต์ WHART” เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเลย

ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อได้ในช่วงเวลา และช่องทางดังนี้

ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิจองซื้อ: 

  • ช่วงเวลาจองซื้อ: วันที่ 1, 4, 6-8 ธ.ค. 2566 
  • ช่องทางการจองซื้อ: เว็บไซต์ K-My Invest และสาขาของ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร 02 888 8888 กด 4 กด 0

ประชาชนทั่วไป: 

  • ช่วงเวลาจองซื้อ: วันที่ 13-15, 18 ธ.ค. 2566 
  • ช่องทางการจองซื้อ: ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)

และสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.whareit.com  หรือติดต่อได้ที่ สาขาของธนาคารกสิกรไทย

หมายเหตุ:

  • การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่าย เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
  • ผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ขอสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมในกรณีที่ผู้จองซื้อเป็นสัญชาติอื่นใดที่มิใช่สัญชาติไทย อย่างไรก็ดี รายชื่อสัญชาติของผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่ไม่ได้รับการเสนอขายหน่วยทรัสต์จะถูกประกาศผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก่อนวันจองซื้อหน่วยทรัสต์
  • ผู้ถือหน่วยเดิมที่มีรายชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ ณ วันที่ 15 พ.ย. 2566
  • ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 9.60 บาทต่อหน่วย และประชาชนทั่วไปจองซื้อที่ราคาเสนอขายสุดท้ายที่จะมีการประกาศในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ทั้งนี้หากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่าราคาเสนอขายสูงสุดจะมีการคืนเงินส่วนต่าง

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
บทความนี้เป็นบทความ Advertorial