ตอนที่เราตัดสินใจ “ซื้อกองทุน” แสดงว่าเราอาจจะไม่มีเวลาติดตามข้อมูลข่าวสารการลงทุนเท่าไหร่ หรือยังไม่มีความเชี่ยวชาญในการลงทุน ก็เลยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดการกองทุนคอยดูแลและบริหารจัดการให้ ด้วยเหตุนี้ทำให้หลาย ๆ คนไม่ลงมาศึกษาเรื่องการลงทุนในกองทุนรวมอย่างจริงจัง ก็เลยทำให้ยังมีหลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมอยู่เยอะพอสมควร
ความเข้าใจผิดอันดับต้น ๆ เลย ก็คือ “ซื้อกองทุนที่ NAV ยิ่งน้อย ยิ่งดี” กองที่ NAV สูงเรียกว่าแพงไปแล้ว กองที่ NAV ต่ำดีกว่าราคายังไม่ไปไกลมาก แต่พี่ทุยจะบอกว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ได้เกี่ยวกันเลย สิ่งที่เราควรดูเวลาซื้อกองทุนรวมคือ “ผลตอบแทน” ไม่ใช่ราคา NAV เพราะผลตอบแทนที่กองทุนทำได้จะเป็นตัวที่บอก Performance ของกองทุนนั้นๆ ถ้ากองไหนบริหารได้ผลตอบแทนดีก็จะสะท้อนเข้าไปในราคา NAV ของกองนั้น ซึ่งจะทำให้ NAV สูงขึ้น ลองเข้าไปอ่านบทความ 3 เรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับ NAV ของกองทุนรวม น่าจะช่วยทำให้เห็นภาพของ NAV กันมากขึ้น
ความเข้าใจผิดอันดับถัดมาก็คือ “กองทุนรวมที่จ่ายเงินปันผลให้ผลตอบแทนดีกว่ากองที่ไม่จ่ายเงินปันผล” เพราะกองปันผลได้ทั้งเงินระหว่างปี และเงินกำไรจากตอนขาย แต่กองที่ไม่จ่ายปันผล ได้แค่เงินกำไรตอนขายอย่างเดียว
ในความจริงแล้วกองที่ไม่จ่ายเงินปันผล ก็มีได้รับปันผลเหมือนกันนั่นแหละ แต่จะเอาเงินปันผลนั้นกลับเข้าไปลงทุนให้เราอีกที แล้วก็ไปสะท้อนในราคาของ NAV ที่สูงขึ้น ส่วนกองที่จ่ายเงินปันผลนั้น ถ้าเราลองสังเกตุช่วงที่จ่ายเงินปันผลให้นักลงทุน ราคา NAV ก็มักจะตกลงมา และเงินปันผลที่เราได้รับนั้น เราจะโดนเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 10% ไปอีกด้วยนะ ซึ่งบางทีถ้าเอามาเทียบกับกองที่ไม่จ่ายเงินปันผล ผลตอบแทนที่เราได้รับจริง ๆ อาจจะน้อยกว่าก็ได้ เพราะเราต้องเสียภาษีไป
และความเข้าใจผิดอีกอย่างนึงที่พี่ทุยเจอบ่อย ๆ ก็คือ บางคนเข้าใจว่ากองทุนที่จ่ายเงินปันผลจะลงทุนเฉพาะหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเท่านั้น ส่วนกองที่ไม่มีการจ่ายปันผลก็จะลงทุนเฉพาะหุ้นที่ไม่จ่ายปันผล แต่ความเป็นจริงแล้วคือทั้งกองทุนที่จ่ายเงินปันผลและไม่จ่ายเงินปันผล อาจจะซื้อทั้งหุ้นที่จ่ายและไม่จ่ายเงินปันผลได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่ากองทุนที่ไม่จ่ายเงินปันผล จะเอาเงินปันผลที่ได้รับระหว่างปีเอากลับเข้าไปลงทุนต่อ อย่างที่พี่ทุยบอกไปตอนต้นนั่นเอง