การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ที่เป็นการต่อยอดการพัฒนาจากโครงการ Eastern Seaboard นั้นหลายคนคงน่าจะเคยได้ยินกันอยู่แล้ว ที่มีชื่อว่า Eastern Economic Corridor (EEC) ถือว่าเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทย และดึงดูดการลงทุน การเข้ามาตั้งฐานการผลิตจากทั้งในและต่างประเทศ
แน่นอนว่า พอมีการตั้งฐานการผลิตที่มากขึ้น ก็จะทำให้ความต้องการ ‘โรงงาน (Factory)’ เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงความต้องการ ‘คลังสินค้า (Warehouse)’ ด้วยเช่นกัน
สำหรับใครที่อยากลงทุนในธุรกิจปล่อยเช่าโรงงานหรือคลังสินค้า ไม่ต้องไปหาซื้อที่เพื่อพัฒนาเป็นโรงงานหรือคลังสินค้า พี่ทุยแนะนำว่าสามารถลงทุนผ่าน “ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT)” ที่เน้นลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดิน อาคารโรงงานและคลังสินค้าสำเร็จรูป ซึ่ง “HREIT” ถือว่าโดดเด่นในเรื่องกองทรัสต์ที่เน้นลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าในนิคมอุตสาหกรรมบนพื้นที่ EEC เลย
นอกจากนี้หลังจากการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 “HREIT” มีการประมาณการการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนต่อหน่วย เป็นจำนวน 0.69 บาท ประกอบกับศักยภาพของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT เข้าไปลงทุนมีความโดดเด่นเรื่องอัตราการเช่าพื้นที่ (occupancy rate) ในระดับสูง ทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ และศักยภาพของผู้เช่า ส่งผลให้ผู้ถือหน่วยทรัสต์จะได้รับผลตอบแทนที่มีความมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุนในโรงงานรวมถึงคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าในนิคมอุตสาหกรรมบริเวณพื้นที่ EEC ตอนนี้ทาง HREIT เตรียมเพิ่มทุนครั้งที่ 2 เพื่อเข้าลงทุนเพิ่มอีก 13 โรงงาน และอีก 2 คลังสินค้า พื้นที่รวม 48,127 ตารางเมตร โดยการลงทุนในครั้งนี้จะประกอบไปด้วย 5 โครงการ
การลงทุนของ HREIT ในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพ โดยทำให้มีพื้นที่โรงงานที่สามารถปล่อยเช่าได้เพิ่มอีก 13 โรงงาน พื้นที่รวม 39,226 ตารางเมตร ซึ่งมาจากทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่
1. โครงการ WHA Chonburi Industrial Estate 1 (WHA CIE 1)
ประกอบด้วยโรงงาน 5 โรงงานโดยจะมีทั้งอาคารโรงงานแบบเดี่ยว ที่มีลักษณะเป็นอาคารโรงงานขนาดใหญ่ อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีรั้วกั้นเป็นสัดส่วน (Detached Building) และอาคารโรงงานแบบที่ใช้กำแพงร่วมกับผู้เช่ารายอื่น (Attached Building) พื้นที่รวม 6,204 ตารางเมตร โดยการลงทุนจะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ยาว 30 ปี และสิทธิในการต่อสัญญาไปอีก 30 ปี
2. โครงการ WHA Eastern Seaboard Industrial Estate 1 (WHA ESIE 1)
ประกอบด้วยโรงงานแบบเดี่ยว ที่มีลักษณะเป็นอาคารโรงงานขนาดใหญ่ อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีรั้วกั้นเป็นสัดส่วน(Detached Building) รวม 6 โรงงาน พื้นที่รวม 23,320 ตารางเมตร โดยการลงทุนจะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ยาว 30 ปี และสิทธิในการต่อสัญญาไปอีก 30 ปี
3. โครงการ WHA Saraburi Industrial Land (WHA SIL)
ประกอบด้วยอาคารโรงงานแบบที่ใช้กำแพงร่วมกับผู้เช่ารายอื่น (Attached Building) รวม 2 โรงงาน พื้นที่รวม 9,702 ตารางเมตร โดยการลงทุนจะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ยาว 30 ปี และสิทธิในการต่อสัญญาไปอีก 30 ปี
นอกจากนี้ ยังทำให้มีพื้นที่ปล่อยเช่าสำหรับคลังสินค้าเพิ่มเติมอีก 2 คลังสินค้า พื้นที่รวม 8,901 ตารางเมตร ได้แก่
1. คลังสินค้า WHA Logistics Park 2 (WHA LP2)
คลังสินค้า (Warehouse) พื้นที่รวม 5,124 ตารางเมตร โดยการลงทุนจะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ยาว 30 ปี และสิทธิในการต่อสัญญาไปอีก 30 ปี
2. คลังสินค้า WHA Logistics Park 4 (WHA LP4)
คลังสินค้า (Warehouse) พื้นที่รวม 3,777 ตารางเมตร โดยการลงทุนจะเป็นการลงทุนในสิทธิการเช่า (Leasehold) ยาว 30 ปี และสิทธิในการต่อสัญญาไปอีก 30 ปี
ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 นี้จะทำให้ “พื้นที่เช่าทั้งหมด (Net Leasable Area)” เพิ่มขึ้นถึง 14% และยังช่วยลดอายุเฉลี่ยของทรัพย์สินลงมาอยู่ที่ 7.9 ปี โดยประมาณการอัตราการเช่า (Occupancy Rate) หลังเข้าเพิ่มทุนครั้งที่ 2 อยู่ที่ 92.51% และประมาณการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในปีแรกที่เข้าลงทุนสูงถึง 0.69 บาทต่อหน่วย
การเพิ่มทุนครั้งที่ 2 นี้จะมีกำหนดการเสนอขาย
- เสนอขายให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม (Preferential Public Offering): 16-20 และ 23-26 พ.ย. 63
- เสนอขายให้กับบุคคลทั่วไป (Public Offering)*: 16-20 และ 23-27 พ.ย. 63
สำหรับใครที่สนใจ พี่ทุยแนะนำให้ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือ www.hemarajreit.com ได้เลย
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
*การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่าย เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
Comment