เสี่ยงได้เท่านี้ ควรซื้อ กองทุนลดหย่อนภาษี แบบไหนดี ?

สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางบริหารภาษี แล้วยังไม่แน่ใจว่าจะเลือก SSF, RMF หรือ ThaiESG “กองทุนลดหย่อนภาษี” กองไหนดี โพสต์นี้พี่ทุยมีคำตอบดี ๆ มาให้แน่นอน แต่ก่อนที่จะไปแนะนำแบบทุกระดับความเสี่ยง ขอพาไปดูก่อนว่าเงื่อนไขของแต่ละกองทุนมีอะไรบ้าง ไปดูกันก่อนเลย

SSF (Super Saving Funds)

คือ กองทุนรวมเพื่อการออม สามารถซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีแบบวันชนวัน

RMF (Retirement Mutual Fund)

เป็นกองทุนเพื่อการเกษียณ ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี ต้องลงทุนทุกปี (ปีเว้นปีได้) และต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี และขายได้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์เท่านั้น

เมื่อรวม SSF, RMF, กบข., กอช., เบี้ยประกันชีวิตบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนแล้ว ห้ามเกิน 500,000 บาท

ThaiESG

เป็น “กองทุนลดหย่อนภาษี” ใหม่ที่ลงทุนในหุ้นหรือตราสารหนี้ของบริษัทในดัชนี SET ESG โดยปี 2567-2569  มีการปรับเงื่อนไขให้ซื้อได้เพิ่มเป็น 300,000 บาท และลดระยะเวลาถือครองจาก 8 ปีเหลือเพียง 5 ปีแบบวันชนวัน

เมื่อรู้เงื่อนไขภาษีของทั้ง SSF RMF และ ThaiESG กันแล้ว มาดูกองทุนภาษีแนะนำชุดแรกจาก Krungthai NEXT INVEST เหมาะกับนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำ เดินชิล ๆ เน้นปลอดภัย จะลงทุนใน “ตราสารหนี้” ระยะสั้นหรือพันธบัตรรัฐบาลเป็นหลัก

• SSF แนะนำ “กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส (ชนิดเพื่อการออม) หรือ KTSTPLUS-SSF” เน้นลงทุนตราสารหนี้ Investment Grade ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ มีนโยบายการจ่ายปันผลต่อเนื่อง
  
• RMF แนะนำ “กองทุนเปิดกรุงไทยตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF4” เน้นตราสารหนี้ภาครัฐ ลงทุนเฉพาะในประเทศ เสี่ยงระดับ 1 ถือว่าต่ำที่สุด เริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาทเท่านั้น
  
• ThaiESG แนะนำกองทุนเปิดกรุงไทย ตราสารภาครัฐ ESG (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือ KTESGSI-ThaiESG เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยและตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนเป็นหลัก ความเสี่ยงระดับ 3 ถือว่าปานกลางค่อนข้างต่ำ พร้อมนโยบายจ่ายปันผลต่อเนื่อง

มาต่อกันที่อีกระดับ ความเสี่ยง “ปานกลาง” ลุยเสี่ยงได้บ้าง เน้นสมดุล ค่อย ๆ วิ่งเหมือน “วิ่งจ๊อกกิ้ง” กระจายลงทุนหุ้นและตราสารหนี้ เน้นลงทุนถือยาวเรื่อย ๆ เติบโตได้ทุกสภาวะตลาด

• SSF แนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate (ชนิดเพื่อการออม) หรือ KTWC-MODERATE-SSF 
• RMF แนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทย World Class Moderate เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KTWC-MODERATE RMF 

ทั้ง 2 กองทุนเป็นกองทุนเดียว แต่คนละ Class ซึ่งจะมีนโยบายลงทุนแบบผสม กระจายลงทุนหุ้น 50% และตราสารหนี้คุณภาพ 50% ทั่วโลก เน้นสมดุลลงทุนได้ทุกสภาวะ โดยจะลงทุนผ่านกองทุนชั้นนำทั่วโลกที่มี Fidelity International คอยบริหารจัดการ เสมือนกับมีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกมาบริหารพอร์ตให้กับเราเลย

• ThaiESG แนะนำ กองทุนเปิดกรุงไทย ESG A Grade 70/30 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือ KTAG70/30-ThaiESG ไม่หวือหวามากนัก เพราะมีการเพิ่มตราสารหนี้ 30% เข้าไปในพอร์ต ช่วยกระจายความเสี่ยง

และมาที่ระดับความเสี่ยงสุดท้าย คือ ความเสี่ยงสูง พร้อม “วิ่งติดสปีด” บุกทุกสนาม เพิ่มโอกาสเติบโต เหมาะกับคนสายลุย ๆ เน้นหาโอกาส ซึ่งแน่นอนว่าเน้นลงทุนใน “หุ้น” อย่างแน่นอน 

• SSF แนะนำกองทุนเปิดเคแทม World Technology (ชนิดเพื่อการออม) หรือ KT-TECHNOLOGY-SSF เน้นหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก 50 – 100 ตัว ที่มีคุณภาพและแนวโน้มเติบโตสูง กองทุนหลักมีผลการดำเนินที่ยอดเยี่ยม โดยมี Quartile Ranking 1 ในช่วง 3 และ 5 ปีย้อนหลัง และยังสามารถควบคุมความผันผวนได้ดี โดยมีการปรับตัวลดลงสูงสุดย้อนหลัง 5 ปี (Max Drawdown) เพียง 18% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยกองทุนประเภทเดียวกันที่สูงถึง 21.7% เลยทีเดียว (ที่มา: Fidelity International วันที่ 31 ธ.ค. 2023)
• RMF แนะนำกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KT-WEQ RMF ลงทุนหุ้นพื้นฐานดีทั่วโลก ที่มีความผันผวนต่ำ ด้วยกลยุทธ์ QSP ทำให้สามารถคัดเลือกบริษัทที่ดีคุณภาพสูง ฐานะการเงินมั่นคง ที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนได้
• ThaiESG แนะนำกองทุนเปิดกรุงไทย ESG50 (ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน) หรือ KTESG50-ThaiESG เน้นลงทุนหุ้นใหญ่ 50 ตัวแรกที่อยู่ใน SETESG Index โดยจะบริหารแบบ Active เพื่อสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่าดัชนี SETESG

ขอแค่รู้ความเสี่ยงว่าเรารับความเสี่ยงได้เท่าไหร่ เราก็จะรู้ว่าจะต้องเลือกกองทุนไหนเพื่อลดหย่อนภาษี สามารถเลือกลงทุนกับ Krungthai NEXT INVEST ได้เลย พี่ทุยคัดเลือกกองทุนแบบเน้น ๆ มาให้แล้ว จะเริ่มลงทุนก็แค่มีแอป Krungthai NEXT เปิดบัญชีได้เลยง่าย ๆ มีกองทุนเด่นที่คัดมาแล้วจาก 9 บลจ. ชั้นนำและมีให้เลือกครบทุกสินทรัพย์การลงทุน

ยังไม่หมดแค่นั้น! สำหรับใครก็ตามที่ลงทุนกองทุน SSF/RMF จาก KTAM รับกองทุน KTSTPLUS-A สูงสุด 1,000 บาท* และสำหรับใครที่ลงทุนกองทุน ThaiESG จาก KTAM รับกองทุน KTSTPLUS-A สูงสุด 600 บาท*

ใครที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย คลิก

*เมื่อลงทุนกองทุน ThaiESG  เต็มจำนวน 300,000 บาท และกองทุน SSF หรือ RMF เต็มจำนวน 500,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. – 30 ธ.ค. 67 | เงื่อนไขเป็นไปตามที่ KTB และ KTAM กำหนด

คำเตือน : กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนและไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ | ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยงและศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF, RMF และ Thai ESG ก่อนการตัดสินใจลงทุน กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีจะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน | ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา