ในเรื่องของการลงทุนทุกวันนี้ ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามีข้อมูลมากมายช่วยให้เราลงทุนง่ายขึ้น แล้วยิ่งถ้าเราเป็นมือใหม่ ก็อาจจะสับสนว่าอะไรที่เราต้องรู้ก่อนบ้าง โพสต์นี้พี่ทุยรวมรวบ 3 เรื่องที่มือใหม่ต้องรู้ แบบง่าย ๆ สั้น ๆ กระชับที่ต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุนมาให้ด้วย ไปฟังกันเลย..
3 เรื่องที่มือใหม่ต้องรู้ ก่อนเริ่มต้นลงทุนในยุคนี้
1. เริ่มต้นลงทุนเร็ว ตั้งแต่อายุยังน้อย ได้เปรียบกว่า
หนึ่งข้อได้เปรียบในเรื่องการลงทุนสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือ “อายุน้อย” อยู่ก็คือ สามารถใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นได้อย่างเต็มที่ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จทางด้านการเงินได้เลย
อย่างเช่น เรามีเป้าหมายอยากมีเงินเกษียณอายุ ตอน 60 ปี ที่จำนวน 10 ล้านบาท เชื่อหรือไม่ว่าถ้าหากเราเก็บออมเงินตั้งแต่อายุ 25 ปี เพียงเดือนละ 5,000 บาท แล้วนำเงินไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี เมื่อเราอายุ 60 ปี เราจะมีเงินทั้งหมด 10,339,000 บาท ซึ่งสามารถเกษียณได้อย่างที่ตั้งใจไว้เลย
แต่ถ้าเราเริ่มช้า สมมติว่าพึ่งรู้ตัวและกลับมาออมเงินเมื่ออายุ 40 ปี (ช้าไป 15 ปี) ถ้าหากเราต้องการมีเงินเกษียณ 10 ล้านบาทเหมือนเดิม เราต้องเก็บออมถึงเดือนละ 20,000 บาท เป็นเวลา 20 ปี ถึงจะมีเงินเกษียณอายุ 10 ล้านบาทได้ จะเห็นได้ว่ายิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไหร่ ยิ่งช่วยทำให้เราเดินทางสู่เป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น
2. เลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่รับได้
กฏเหล็กของโลกการลงทุน คือ “High Risk, High Return” ยิ่งต้องการผลตอบแทนมาก ก็จะตามมาด้วยความเสี่ยงที่สูงเสมอ ดังนั้น เราต้องประเมินตัวเราเองให้ดีด้วยว่าเรารับความเสี่ยงได้มากน้อยขนาดไหน จากนั้นจัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ของเรา
แต่สำหรับใครที่ยังไม่กล้าลงทุนเพราะกลัวความเสี่ยง กลัวขาดทุน พี่ทุยแนะนำเลยว่าให้เร่งหาความรู้ เร่งศึกษาการลงทุน ยิ่งเราเข้าใจธรรมชาติของการลงทุนมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งบริหารความเสี่ยงได้ดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
3. เลือกลงทุนผ่าน โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ
สำหรับใครที่คิดว่า เอ๊ะ พี่ทุยนี่แอบขายของหรอ ใช่แล้ว 5555 เพราะนี่คือโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพที่ไว้วางใจได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีมิจฉาชีพหน้าไหนมาหลอกลงทุนได้ง่าย ๆ สำหรับเรื่องการลงทุนในยุคนี้ ต้องบอกเลยว่านอกจากมีความรู้เรื่องการลงทุนที่ดีแล้ว ยังต้องมีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากเหล่ามิจฉาชีพด้วย
พี่ทุยแนะนำให้โหลด “โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ” มาไว้เลย เค้ามีฟังก์ชัน “การลงทุน” ที่ให้ทุกคนสามารถเริ่มลงทุนได้ง่าย ๆ เลย โดยเราสามารถเลือกเปิดบัญชี และลงทุนกองทุนได้เลย และแน่นอนว่าสำหรับใครอยากลดหย่อนภาษีช่วงปลายปีแบบนี้ก็สามารถเลือกซื้อ RMF SSF หรือ Thai ESG ได้เช่นกัน
การซื้อกองทุน นอกจากข้อดีที่จะได้ลดหย่อนภาษีแล้ว ก็จะมีผู้จัดการกองทุนที่เชี่ยวชาญ และคอยจับจังหวะตลาดให้กับเรา ไม่ต้องเสียเวลาติดตามด้วยตนเอง สามารถทำงานและใช้ชีวิตในรูปแบบที่เราชื่นชอบได้เลย
ส่วนขั้นตอนการเปิดบัญชีกองทุนกับโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ ก็ง่ายมาก ๆ พี่ทุยแนะนำให้ทำตามขั้นตอนนี้ได้เลย
1. เลือกเมนูการลงทุน
2. เลือกกองทุนรวม
3. เลือกเมนูเปิดบัญชี
4. ทำตามขั้นตอนการเปิดบัญชีกองทุนไปเรื่อย ๆ
5. เปิดบัญชีสำเร็จ ก็สามารถซื้อกองทุนที่ต้องการได้เลยทันที !
ตอนนี้ยังมีโปรโมชันด้วยนะ ระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 67 – 30 ธ.ค. 67
#ต่อที่1 สำหรับใครที่เปิดบัญชีและซื้อกองทุน ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ
รับฟรี Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท/ท่าน* กันไปเลย
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
#ต่อที่2 ถ้ามียอดการลงทุนกองทุนรวม RMF/SSF/Thai ESG ตั้งแต่ 5 ครั้งขึ้นไป และมียอดเงินลงทุนรวม 200,000 บาทขึ้นไป ผ่าน
• โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ และ/หรือ
• อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ และ/หรือ
• บริการหักบัญชีเงินฝาก/บัญชีบัตรเครดิตเพื่อซื้อหน่วยลงทุนกองทุนเปิดแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Averaging: DCA)
รับฟรี Starbucks e-Coupon เพิ่มอีก 400 บาท/ท่าน*
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ หรือโทร. 1333 www.bangkokbank.com
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงของกองทุนรวม ก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านเพิ่มเติม