สิ่งที่ควรรู้ เมื่อ ถูกเลิกจ้าง กะทันหัน เงินชดเชย 2567 ได้เท่าไหร่

สิ่งที่ควรรู้ เมื่อ ถูกเลิกจ้าง กะทันหัน เงินชดเชย 2567 ได้เท่าไหร่

5 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • ด้วยสภาวะเศรษฐกิจ สังคมและการเปลี่ยนแปลงไปตามที่เห็นในข่าวดังเกี่ยวกับการปลดพนักงานขององค์กรต่างๆ จึงมีโอกาสมนุษย์เงินเดือนจะถูก “เลิกจ้าง” หรือ “ให้ออกจากงาน” อย่างกะทันหันโดยไม่ได้สมัครใจและไม่มีความผิดได้
  • เงินชดเชยจากนายจ้าง เป็นสิ่งที่นายจ้างต้องจ่ายจากการให้ออกจากงานโดยไม่ได้สมัครใจและไม่มีความผิดของพนักงานหรือลูกจ้าง
  • นอกจากนั้นแล้ว ควรตรวจสอบสิทธิ “ประกันสังคม” จากสำนักงานประกันสังคมซึ่งจะให้เงินช่วยเหลือในระหว่างการว่างงาน
  • มนุษย์เงินเดือนหรือลูกจ้างทั้งหลายไม่ควรประมาทเพราะคิดว่าตัวเองมีการงานที่มั่นคงและรายได้สม่ำเสมอทุกเดือน แต่ควรมี “เงินสำรองฉุกเฉิน” ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นอย่างมากในช่วงที่ว่างงานและไม่มีรายได้

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ถูกเลิกจ้าง หรือ ภาวะตกงาน เป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนหรือไม่ว่าจะใครคนไหนก็คงไม่อยากเจอกับตัวเอง แต่ใครจะไปรู้ว่าเราจะโชคไม่ดีขึ้นมาเมื่อไหร่ หลาย ๆ ครั้งก็ไม่ใช่เพราะเราทำตัวไม่ดี แต่เป็นเพราะบริษัทไปต่อไม่ได้ก็มี

พี่ทุยว่าในบางครั้ง การตกงานอาจจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ อย่างที่ได้เห็นหลายต่อหลายข่าวที่มีการปลดพนักงานออกด้วยสภาวะเศรษฐกิจ สังคมและการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะอยู่ในหน่วยธุรกิจไหน ก็ได้เลิกจ้างพนักงานตามนโยบายบริษัทหรือตามความจำเป็น ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ๆ ก็มีโอกาสที่จะถูกเลิกจ้างหรือตกงานได้อย่างกะทันหันโดยไม่ได้สมัครใจ และแน่นอนที่สุดว่าจะทำให้เรานั้นสูญเสียรายได้ที่เคยมีไป

หลายคนเมื่อได้ยินข่าวแบบนี้แล้วก็ตกใจกันมากเลยใช่มั้ย บางคนก็วิตกกังวลไปว่าตัวเองจะตกงาน พี่ทุยว่าแทนที่จะมานั่งเครียดหรือกังวล เราลองกลับมาใส่ใจตัวเองมากขึ้นและเตรียมตัวให้พร้อม เผื่อถ้าหากว่าวันนึงเราดันโชคร้ายและหลีกเลี่ยงไม่ได้กับเรื่องนี้ที่จะเกิดขึ้นกับเรา เพราะเราก็ไม่อาจจะรู้ล่วงหน้าได้เลย

ทางที่ดีพี่ทุยว่าเราควรเตรียมตัวให้พร้อมไว้ก่อนกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นดีที่สุด เพราะแม้ว่าจะถูกเลิกจ้างหรือให้ออกจากงาน แต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีเหลือสิทธิในฐานะพนักงานหรือลูกจ้างเสียทีเดียว ซึ่งสิทธิที่เราควรจะได้ตามที่กฎหมายกำหนดในกรณีการให้ออกจากงานโดยไม่สมัครใจและไม่มีความผิด มีตั้งแต่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันสุขภาพ หรือเงินค่าชดเชยต่าง ๆ

พี่ทุยอยากให้ทุกคนรับรู้และใส่ใจในส่วนนี้อย่างละเอียด จะได้ไม่ต้องเสียรายได้ไปและเสียเปรียบทุกอย่างในเวลาเดียวกันนะ พี่ทุยบอกเลยว่าไม่มีใครจะช่วยรักษาสิทธิ์ของเราได้ดีไปมากกว่าตัวเราเองแน่นอน ดังนั้นจึงต้องรู้ว่าควรจะทำตัวยังไง ต้องรู้ว่าตัวเองนั้นมีสิทธิอะไรและสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง เพื่อที่จะสามารถรักษาสิทธิ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด

เมื่อ ถูกเลิกจ้าง เรามีสิทธิได้เงินชดเชยจากนายจ้าง

มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองมีสิทธิที่จะเรียกร้อง ค่าชดเชยจากนายจ้าง อันนี้เป็นสิทธิ์ของเรานะ พี่ทุยบอกเลยว่า เงินค่าชดเชย เป็นสิ่งที่นายจ้าง ต้องจ่าย ให้กับพนักงานหรือลูกจ้าง เพื่อช่วยเหลือในกรณีให้ออกจากงาน ซึ่งไม่ได้มาจากทำความผิดของพนักงานหรือลูกจ้าง แต่อาจจะด้วยเหตุผลบางอย่างที่จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลง

นายจ้างจึงต้องจ่ายเงินค่าชดเชยเพื่อให้มีเงินใช้ในระหว่างที่ว่างงานลงหรือเป็นเงินทุนในการหางานใหม่ของพนักงาน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ 

เงินค่าตกใจ ในกรณีของการที่เรานั้นถูกเลิกจ้างโดยไม่บอกให้รู้ก่อนล่วงหน้า หรือบอกล่วงหน้า 30-60 วัน นายจ้างนั้นจะต้องจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้างเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน หรือเท่ากับค่าจ้างของการทำงาน 60 วันสุดท้ายสำหรับลูกจ้าง ซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงาน 

อีกส่วนหนึ่ง คือ เงินค่าชดเชยการถูกเลิกจ้าง ในกรณีถูกให้ออกจากงานโดยที่ไม่มีความผิดและไม่ได้สมัครใจจะออก ลูกจ้างมีสิทธิ์จะได้รับค่าชดเชย ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินเดือนและอายุของการทำงาน ยิ่งอยู่กับบริษัทมานานก็จะยิ่งได้ค่าชดเชยมาก โดยนายจ้างต้องเป็นคนจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง ซึ่งเป็นค่าชดเชยที่คำนวณจากอายุงานของลูกจ้างเอง ดังนี้

  • กรณีทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
  • อายุงาน 1 – 3 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 90 วัน
  • อายุงาน 3 – 6 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน
  • อายุงานครบ 6 – 10 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้าย 240 วัน
  • อายุงานครบ 10 – 20 ปี ได้รับค่าชดเชยเท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้าย 300 วัน
  • อายุงาน 20 ปีขึ้นไป ได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 400 วัน (เริ่มใช้ปี 2562)

ที่มา: กระทรวงแรงงาน

สิทธิประกันสังคม

นอกจากเงินชดเชยจากส่วนของนายจ้าง มนุษย์เงินเดือนที่ว่างงานและจ่ายประกันสังคมจะได้รับเงินช่วยเหลือระหว่างการว่างงาน ซึ่งพี่ทุยอยากให้ลองตรวจสอบสิทธิที่เราพึงได้รับจากสำนักงานประกันสังคม

อันนี้เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนทำงานเกือบทุกคน และควรจะดูว่าตัวเองจะได้รับการคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลไปจนถึงเมื่อไหร่ ซึ่งปกติแล้วก็จะได้รับการคุ้มครองต่อไปอีก 6 เดือน

นอกจากนี้ พี่ทุยว่าเราควรไปขึ้นทะเบียนคนว่างงานภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่ออกจากงานด้วย โดยสามารถไปยื่นเรื่องที่สำนักงานจัดหางานได้ทุกแห่ง เพราะตามเงื่อนไขของประกันสังคมแล้วคนที่จ่ายเงินสมทบติดต่อกันมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือนก่อนว่างงาน จะสามารถขึ้นทะเบียนคนว่างงาน และรับเงินชดเชยจากการถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชยในจำนวน 50% ของรายได้ เป็นระยะเวลา 6 เดือนเลยนะ

เงินสำรองฉุกเฉิน

พี่ทุยเข้าใจนะว่าสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานมาหลายปี หากวันใดวันหนึ่งต้องออกจากงานแบบกะทันหันคงต้องรู้สึกเคว้งคว้างและเครียดเป็นธรรมดา เพราะอยู่ดี ๆ รายได้ก็หายวับไป ในขณะที่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เนี่ย ไม่ได้หายไปด้วยนะ

ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารการกินต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นทั้งนั้น ดังนั้นพี่ทุยว่าสิ่งที่ควรมีมากที่สุด นั่นคือ เงินสำรองฉุกเฉิน สำหรับใครที่ยังไม่มีเงินสำรองฉุกเฉินไว้สำหรับสำรองในการใช้จ่าย ก็ควรเตรียมให้พร้อมนะ

อย่างที่พี่ทุยเคยบอก อย่าประมาทเพราะคิดว่าตัวเองมีการงานมั่นคงเป็นอันขาด เพราะเราไม่สามารถมั่นใจได้แล้วว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง

แต่ถ้าเรามีการเตรียมพร้อมที่ดี อย่างน้อยก็ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้ พี่ทุยว่าเราควรมี เงินสำรองฉุกเฉิน อย่างน้อยสัก 6 เดือนของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพื่อเราจะได้มีเงินสำรองเพื่อค่าใช้จ่าย ในช่วงหางานใหม่หรือกลับมามีรายได้อีกครั้ง

จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉิน แหล่งเก็บเงินทีดี่สำหรับเงินก้อนนี้กืคือ บัญชีออมทรัพย์ หรือเงินฝากพิเศษที่มีสภาพคล่องสูงเอาชนิดที่เรียกว่าถ้าเดือดร้อนไปถอนได้ทันที

นั่นเลยเป็นเหตุผลว่า เงินสำรองฉุกเฉินไม่ควรมากจนเกินไปเช่นกัน เพราะไม่ช่วยสร้างรายได้เพิ่มหรือเพิ่มความมั่งคั่งให้กับเราเลย ก็อย่างที่เรารู้กันอะเนอะ ว่าดอกเบี้ยเงินฝากไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่เลยช่วงนี้

พี่ทุยว่าการเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอต่อการเปลี่ยนแปลง ช่วยให้เราสามารถรับมือกับภาวะวิกฤต ถ้าหากต้องถูกเลิกจ้าง หรือตกงานอย่างกะทันหันได้เป็นอย่างดีเลยนะ พี่ทุยเข้าใจว่าต้องเจอกับความเครียดและความกดดันมากแค่ไหน และหลังจากจัดการกับสิทธิของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวหางานใหม่ได้เลย คนเก่งมีความสามารถไปที่ไหนยังไงเค้าก็รับ จริงมั้ยล่ะ ?

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply