เวลารับชมละครที่ทายาทอภิมหาเศรษฐีแย่งมรดกกัน สิ่งหนึ่งที่ละครไม่ได้พูดถึงก็คือ ภาษีมรดก ที่ทายาทเหล่านั้นต้องชำระให้สรรพากร (จำนวนไม่น้อย) วันนี้พี่ทุยอาสาพาไปทำความรู้จักภาษีมรดก ภาษีเฉพาะของบรรดาลูกหลานผู้มีอันจะกิน ต้องเสียภาษีมากน้อยแค่ไหน มีวิธีหลบหลีกหรือเปล่า ไปดูกัน
ภาษีมรดก คืออะไร
ภาษีการรับมรดก (Inheritance Tax) เกิดขึ้นเมื่อเจ้ามรดกตาย ผู้รับมรดกจากเจ้ามรดก แต่ละรายได้รับมรดกสุทธิมาในคราวเดียวหรือหลายคราว รวมกันแล้วมีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านบาท ผู้รับมรดกมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามที่กฎหมายกำหนด โดยมีกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษี
โดยสิ่งที่เรียกว่า “มรดก” ก็คือทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย รวมทั้งสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ว่ากฎหมายกำหนดว่าเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตาย
อัตราการจัดเก็บ ภาษีมรดก
การจัดเก็บภาษีมรดกจะอยู่ในอัตรา 5-10% สำหรับมรดกส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท มักจะมีการกำหนดค่าลดหย่อนและอัตราภาษีที่เป็นประโยชน์กับผู้รับมรดกที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจ้ามรดก นั่นคือผู้รับมรดกที่มีความใกล้ชิดกับเจ้ามรดกจะมีอัตราภาษีที่น้อยกว่าผู้รับมรดกที่อยู่ห่างไกล
ยกตัวอย่างเช่น ได้รับมรดก 102 ล้านบาท จะถือเอา 2 ล้านบาท เป็นฐานคำนวณภาษี โดยจะคิดเป็น 2 อัตรา คือ
- อัตรา 5% ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับมรดกเป็นผู้สืบสันดานหรือบุพการี
- อัตรา 10% ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับมรดกเป็นผู้อื่น เช่น พี่น้อง หรือบุคคลที่ไม่ใช่ญาติ
ทรัพย์สินอะไรที่ต้องเสียภาษีมรดก
ภาษีจะจัดเก็บจากทรัพย์สิน 5 ประเภท ประกอบด้วย
- อสังหาฯ
- หลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น หุ้นกู้ หุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นสามัญนอกตลาดหลักทรัพย์
- ยานพาหนะที่มีทะเบียน
- เงินฝากธนาคาร
- ทรัพย์สินทางการเงินที่กำหนดเพิ่มขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกา
ทรัพย์สินยกเว้นที่ไม่ต้องเสียภาษีมรดก
สินทรัพย์ประเภทเงินค่าสินไหมทดแทนจากการทำประกันชีวิต ไม่ถือว่าเป็นมรดก เพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นหลังจากผู้เอาประกันเสียชีวิตแล้ว แต่มรดกเป็นทรัพย์สินที่มีมาก่อนการเสียชีวิตของเจ้ามรดก
และสินทรัพย์ประเภทไม่ระบุชื่อ ทองคำแท่ง และ ของสะสม เช่น เพชร พระเครื่อง ภาพเขียน นาฬิกา ก็ไม่ต้องเสียภาษีมรดก จึงไม่น่าแปลกใจถ้าเราจะเห็นบรรดาเศรษฐีสะสมของพวกนี้ไว้เป็นจำนวนมาก (เช่น นาฬิกา 25 เรือน)
อีกข้อยกเว้นหนึ่งที่ไม่ต้องเสียภาษีมรดก คือ การยกทรัพย์สินให้เป็นมรดกแก่คู่สมรสตามกฎหมาย (จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย)
หนี้สิน ถือเป็นมรดกไหม? ทายาทต้องรับผิดชอบหนี้ของผู้ตามมั้ย?
ตามกฎหมายแล้ว มรดก คือทรัพย์สินที่ผู้ตายมีอยู่ก่อน รวมถึงสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ดังนั้นหนี้ที่ผู้ตายก่อไว้ในขณะมีชีวิตอยู่ เช่น หนี้เงินกู้ หรือหนี้ทางละเมิด ก็นับรวมเป็นมรดก
ทายาทจึงต้องรับไปทั้งทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ตาย แต่! กฎหมายก็ยังมีความเป็นธรรม เพราะกำหนดให้ทายาทผู้รับมรดกชดใช้หนี้ไม่เกินมูลค่าทรัพย์มรดกที่ได้รับมา
เท่ากับว่า “ได้เงินมาเท่าไหร่ ก็จ่ายหนี้เท่าที่ตัวเองได้มา ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบหนี้ทั้งหมดของผู้ตาย”
เจ้าหนี้ของผู้ตายไม่อาจก้าวล่วงถึงทรัพย์สินของทายาทที่มิใช่ทรัพย์มรดกได้ ฟ้องทายาทมรดกให้ล้มละลายก็ไม่ได้ แต่เจ้าหนี้อาจฟ้องขอให้จัดการมรดกของเจ้ามรดกได้
ส่วนทายาทเองก็สามารถขอสละมรดกได้ ทว่าจะต้องสละมรดกทั้งหมด และสละโดยไม่มีเงื่อนไข ห้ามสละมรดกโดยทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ เจ้าหนี้มีสิทธิร้องขอให้ชำระหนี้ หรือเพิกถอนการสละมรดก
อ่านเพิ่ม