กรณี The iCon Group ที่ตอนนี้อาจยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ได้หรือไม่ แต่ก็ทำให้พี่ทุยนึกถึงคดีแชร์ลูกโซ่ครั้งใหญ่ในไทย ที่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในอดีต และมูลค่าความเสียหายก็มหาศาล มีผู้โดนหลอกนับไม่ถ้วน วันนี้พี่ทุยเลยอยากมาแชร์ รวมคดีแชร์ลูกโซ่ไทย แต่ละคดีเป็นยังไงบ้าง ใช้วิธีไหนหลอกลวง แถมด้วยวิธีเช็คให้แน่ไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
ลักษณะใดที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่
หลักเกณฑ์ที่ใช้บ่งชี้ว่าเป็นการเชิญชวนลงทุนที่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่แบ่งออกเป็น 3 ข้อ ดังนี้
- จ่ายผลตอบแทนอิงจากการชวนสมาชิกใหม่: ถ้าระบบจ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกเก่าโดยอ้างอิงจากการเชิญชวนสมาชิกใหม่ และผลตอบแทนที่จ่ายก็เอามาจากเงินของสมาชิกใหม่
- เน้นชักชวนสมาชิกใหม่มากกว่าการขายสินค้าจริง: วงแชร์ลูกโซ่ต้องหาสมาชิกใหม่อยู่เสมอเพื่อที่จะนำเงินมาจ่ายสมาชิกเก่า ทำให้เน้นหาสมาชิกใหม่โดยแทบไม่มีการขายสินค้าจริงเลย
- ไม่มีการลงทุนจริง ไม่มีสินค้าจริง: ตอนเชิญชวนเข้าร่วมวง มักอ้างอิงการสร้างผลตอบแทนจากสินค้าหรือการลงทุน แต่พอเอาเข้าจริงแล้วกลับไม่เคยมีสินค้าหรือการลงทุนเหล่านั้น ผลตอบแทนมาจากเงินของสมาชิกใหม่
รวมคดีแชร์ลูกโซ่ไทย เสียหาย 47,000 ล้านบาท
คดีแชร์แม่ชม้อย
คดีแชร์ลูกโซ่คดีใหญ่และครั้งแรกของประเทศไทย ปี 2538 มูลค่าความเสียหายกว่า 4,800 ล้านบาท เกิดขึ้นจากนางชม้อย ทิพย์โส หรือที่เรียกว่าแม่ชม้อย ตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจค้าน้ำมันทั้งในและต่างประเทศ และชักชวนให้คนมาลงทุนเพื่อเป็นเจ้าของร่วม โดยอ้างว่าจะให้ผลตอบแทน 6.5% ต่อเดือน
เริ่มจากกลุ่มชนชั้นสูงคนมีอันจะกิน ข้าราชการใหญ่ นักการเมือง ต่อมาเป็นชนชั้นกลาง บุคคลทั่วไป มีการตั้งหัวหน้าสายและให้ผลตอบแทนเพิ่มเมื่อชักชวนนักลงทุนรายใหม่ได้ แน่นอนว่าด้วยผลตอบแทนขนาดนี้ เบิกเงินต้นคืนได้ ก็มีคนแห่มาลงทุนมากมาย
แต่ในความเป็นจริงนั้นก็แค่นำเงินจากนักลงทุนใหม่ที่ใส่เข้ามาไปจ่ายนักลงทุนคนก่อน หมุนเวียนไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นลูกโซ่ และแล้วเมื่อนักลงทุนใหม่เข้ามาน้อยลง เงินที่มีอยู่ก็น้อยลงตาม จนวันหนึ่งก็ไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่สัญญาไว้
จุดจบคือโดนดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน ศาลตัดสินจำคุก 154,005 ปี แต่กฎหมายไทยจำกัดการรับโทษสูงสุด 20 ปี ต่อได้รับพระราชทานอภัยโทษ จึงรับโทษจริงเพียง 7 ปี 11 เดือน และหลังจากนั้นแม่ชม้อยก็หายไป ไม่มีใครทราบที่อยู่
คดีแชร์ UFUN
เรื่องราวมูลค่าความเสียหาย 38,000 ล้านบาท ถูกเปิดโปงเมื่อปี 2558 โดยบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรง กลับไม่ได้ทำกำไรจากการขายสินค้า
แต่มีการขึ้นระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์ และสร้างหน่วยลงทุน U-token เพื่อแลกส่วนลด แถมถือไว้ก็ได้ผลตอบแทนกลับเข้ากระเป๋า ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ก็เอามาจากเงินของนักลงทุนใหม่ แถมมีการสร้างความน่าเชื่อถือทั้งเอกสารจดทะเบียน เวปไซต์ระบบซื้อขายออนไลน์ มีเหรียญโทเคน จึงมีผู้เสียหาย 2,451 ราย
เมื่อปี 2566 ศาลตัดสินจำคุกแม่ข่ายกับพวกรวม 5 คน คนละ 20 ปี ยกฟ้อง 11 คน สั่งชดใช้เงิน 356 ล้านบาท และให้ ปปง. ตามยึดทรัพย์คืนผู้เสียหาย
คดีแชร์แม่มณี
คดีความมูลค่าความเสียหาย 1,300 ล้านบาท เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 จากแม่มณีซึ่งทำธุรกิจมากมายจนมีเงินและความน่าเชื่อถือ ประกาศชวนประชาชนมาร่วมฝากเงิน ออมเงิน โดยฝากเงินวงเงินละ 1,000 บาท ให้ผลตอบแทนสูงถึง 93% เมื่อครบกำหนด 1 เดือน
ในช่วงแรกมีการจ่ายผลตอบแทนได้ตามที่กล่าวอ้าง ทำให้มีประชาชนนำเงินเข้าร่วมวงเพิ่มขึ้น มีทั้งจำนวนหลักพันถึงหลักล้าน ซึ่งก็เหมือนกับคดีแชร์อื่นที่จะนำเงินจากสมาชิกรายใหม่ไปจ่ายรายเก่า และสุดท้ายก็ไม่สามารถหาสมาชิกรายใหม่มากพอจะจ่ายเงินสมาชิกรายเก่าได้ ในที่สุดก็กลายเป็นคดีความ
ศาลตัดสินจำคุกแม่มณีและสามีเป็นเวลา 12,640 ปี แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือ 5,056 ปี 15,168 เดือน แต่กฎหมายไทยจำกัดการรับโทษสูงสุด 20 ปี จึงให้จำคุก 20 ปี และชดใช้เงินพร้อมดอกเบี้ยให้ผู้เสียหาย
คดี Forex-3D
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2562 เป็นการชักชวนเข้าร่วมลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ผ่านเวปไซต์ Forex-3D โดยการันตีผลตอบแทนสูงถึง 60-80% ของกำไรที่ได้จากการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ อ้างว่ามีเทรดเดอร์มืออาชีพจัดการการลงทุนให้สมาชิก เพียงนำเงินเข้าร่วมลงทุนแล้วรอรับผลกำไร แถมประกันเงินต้นไม่มีการขาดทุนทั้งจำนวน
กลยุทธ์เด็ด คือ ใช้ดาราหรือเซเลปมาเป็นพรีเซนเตอร์ เรียกความน่าเชื่อถือ ทำให้มีผู้เข้าร่วมลงทุนกว่า 9,000 ราย โดยนำเงินจากสมาชิกใหม่ไปจ่ายสมาชิกเก่า และอีกเช่นเคยเมื่อเงินจากสมาชิกใหม่ไม่เพียงพอจ่าย ก็เริ่มไม่สามารถถอนเงินต้นหรือกำไร อ้างว่าระบบมีปัญหา
และในที่สุดก็โดนจับกุมและดำเนินข้อหาฉ้อโกงประชาชน มีมูลค่าความเสียหายรวม 2,500 ล้านบาท ศาลตัดสินลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดบางรายแล้ว แต่คดียังไม่ถึงที่สุด อยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม
คดีแชร์บลิสเชอร์
แชร์บลิชเชอร์มาในรูปแบบธุรกิจทัวร์นักท่องเที่ยว เริ่มรู้จักกันในวงกว้างเมื่อปี 2534 โดยชักชวนให้ผู้ที่สนใจสมัครสมาชิกซึ่งแบ่งระดับเป็นบัตรทองและบัตรเงิน โดยผู้สมัครต้องเสียค่าแรกเข้าและค่าสมาชิกรายปี
บริษัท บลิสเชอร์ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จะให้สิทธิ์เข้าพักในโรงแรมหรือสถานที่พักตากอากาศที่บริษัทจัดให้จำนวน 4 วัน 4 คืน ต่อปี เป็นเวลา 20 ปี และถ้าหาสมาชิกใหม่เข้าร่วมได้จะได้ค่าตอบแทน 20% และแบ่งให้ผู้ชักชวนคนก่อนลดหลั่นไปตามลำดับขั้น
แต่แล้วก็ถูกยื่นฟ้องในเดือน พ.ค. ปี 2537 หลังไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับสมาชิก มีผู้เสียหายประมาณ 24,000 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย 800 ล้านบาท ใช้เวลาพิจารณาคดียาวนานมากจนมาถึงปี 2554 ศาลสั่งจำคุกผู้บริหารบริษัท 120,945 ปี แต่ด้วยกฎหมายไทยจำกัดการรับโทษสูงสุด 20 ปี จึงรับโทษที่ 20 ปี
ส่อง 5 วิธีเช็คให้แน่ ไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
จะเห็นว่าคดีแชร์ลูกโซ่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างช้านาน ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่งภัยร้ายนี้อาจเข้ามาถึงตัวเราหรือคนที่เรารัก แต่ถ้ารู้จุดสังเกตและข้อควรระวังก็จะช่วยให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
- โชว์ชีวิตดี ๆ พร้อมรถหรูบ้านใหญ่โต
มิจฉาชีพเหล่านี้ต้องการหลอกให้มีสมาชิกเข้าวงแชร์ลูกโซ่ ซึ่งหนึ่งในการดึงดูดที่ดีที่สุด คือ สร้างความโลภ ด้วยการแต่งตัวหรูหรา กินดีอยู่ดี ใช้รถหรู อยู่บ้านใหญ่โต เพื่อให้เห็นว่าถ้าร่วมลงทุนแล้วจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างไร
- ให้ผลตอบแทนสูงเวอร์เกินจริง
นอกจากสร้างความโลภด้วยการสร้างภาพลักษณ์แล้ว มิจฉาชีพอาจล่อหลอกด้วยการเสนอผลตอบแทนสูงเกินจริง อย่างน้อยถ้าเห็นว่าให้ผลตอบแทนเกิน 10% เรียกว่าแทบจะเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่แน่นอน
- ร่วมลงทุนแล้วทำกำไรได้จริง
ถ้ากลยุทธ์โชว์ชีวิตดี ๆ และให้ผลตอบแทนสูงแล้ว อาจยังไม่พอดึงดูดเหยื่อรายใหม่เข้าร่วมวงแชร์ลูกโซ่ ทีนี้ก็ต้องโชว์ให้เห็นหน่อยว่าพลาดกำไรแล้วที่ไม่มาร่วมวงลงทุนด้วย โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่คนธรรมดาเข้าถึงยาก เช่น ลงทุนในราคาน้ำมัน ราคาทองคำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือสินค้าพวกขายอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางค์ พอเห็นแบบนี้เข้าไปคงมีอดใจกันไม่ไหวบ้าง
- หาข้อมูลยาก ถามข้อมูลก็ให้แบบไม่ชัดเจน
ถ้าลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนที่ถูกเชิญชวน (หลอกลวง) พบว่าแทบทุกกรณีมักจะหาข้อมูลได้ยากมาก หรือถ้ามีข้อมูลก็มักเป็นข้อมูลที่ไม่ค่อยมีความชัดเจน นอกจากนี้ยังไม่สามารถอธิบายกลไกการทำกำไรหรือแหล่งที่มาของผลตอบแทนสูงเวอร์แบบนั้นได้
- ช่วงแรกดูยังไงก็ไม่มีความเสี่ยง
ในช่วงแรกที่เข้าร่วมวงแชร์ลูกโซ่ ทุกอย่างแทบจะไม่มีความเสี่ยงจะสูญเสียเงินจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นใช้เงินลงทุนแค่หลักพัน จ่ายเงินค่าแรกเข้าจำนวนไม่มาก สามารถถอนกำไรออกมาใช้อย่างง่ายดาย แต่นี่แหละ คือ สุดยอดกลยุทธ์ที่ทำให้เหยื่อถอนตัวไม่ทัน กว่าจะรู้ทันก็แทบจะสายเกินไปแล้ว
พี่ทุยหวังว่าจะไม่มีคดีแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้นอีกต่อไป หรืออย่างน้อยก็ในมูลค่าความเสียหายที่น้อย แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ตาม ถ้าทุกคนได้นำคดีที่เคยเกิดขึ้นไปใช้เป็นกรณีตัวอย่างควบคู่กับวิธีเช็คไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแล้ว พี่ทุยเชื่อว่าอย่างน้อยก็ช่วยป้องกันตัวเองและคนที่รักจากวงแชร์ลูกโซ่ได้อย่างแน่นอน
อ่านเพิ่ม