อยากลาออก

คิดจะ “ลาออก” ตัดสินใจถูกแล้วหรอ ?

3 min read  

ฉบับย่อ

  • การเปลี่ยนงานอาจเป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านองค์ความรู้ สภาพคล่องทางการเงิน โอกาสในสายงาน ตลอดจนเป้าหมายในชีวิตที่เราตั้งไว้
  • บางทีความสามารถของเราอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ในสายงานปัจจุบัน กรณีนี้การย้ายงานให้ตรงกับความถนัดก็นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจแม้จะต้องไปเริ่มจากตำแหน่งเล็ก ๆ ก็ตาม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เมื่อเราพบว่างานที่ทำอยู่ไม่ตอบโจทย์ชีวิตอีกต่อไป ไม่เป็นแรงจูงใจให้ลุกจากเตียงในตอนเช้าล่ะก็ การตัดสินใจเปลี่ยนงาน “ลาออก” อาจจะเป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจเราได้เสมอ แต่มันก็เป็นความท้าทายอันดับต้น ๆ ในชีวิตของเราเช่นกัน

ซึ่งการเปลี่ยนงานอาจเป็นทางเลือกที่ดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านองค์ความรู้ สภาพคล่องทางการเงิน โอกาสในสายงาน ตลอดจนเป้าหมายในชีวิตที่เราตั้งไว้ ได้งานดี = ชีวิตมีสุข การถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมาก่อนย้ายงานจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

พี่ทุยมีเช็คลิสต์ 3 ข้อมาให้ทุกคนมาลองทำดู

1. งานปัจจุบันใช่งานในฝันหรือเปล่า ?

ถ้าองค์กรมีความมั่นคง ค่าตอบแทนดี แต่เนื้องานไม่ตอบโจทย์ก็อาจจะคุยกับทีมเพื่อปรับงานให้เหมาะสมกับความสามารถของเรา แต่ถ้าชั่วโมงการทำงานสูง บริษัทไม่มั่นคง เนื้องานมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ แถมค่าจ้างไม่คุ้มและยังไม่ใช่งานที่ชอบ การหางานใหม่อาจเป็นทางเลือกที่ดี

2. ชีวิตส่วนตัวและความสัมพันธ์กับครอบครัวเป็นอย่างไร ?

ไม่ว่าเราจะชอบสไตล์ Work-life balance หรือ Work-life blended การให้เวลากับตนเองและคนรอบข้างก็เป็นสิ่งสำคัญ หากงานปัจจุบันทำให้เราไม่มีเวลาเหลือเลยก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร

3. เรามีโอกาสในการเติบโตหรือไม่ ?

ข้อนี้ให้ลองนึกถึงอนาคตอีก 5-10 ปีข้างหน้า ว่าเราจะได้ใช้ทักษะจากงานในปัจจุบันหรือมีโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาตนเองหรือเปล่า

ถ้าเราอยากย้ายงานล่ะ ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง ?

เรามาลองดูตัวอย่างด้านความเสี่ยงในการย้ายงาน จากประเทศมีเอกลักษณ์ด้านการทุ่มเทให้กับบริษัทอย่างญี่ปุ่นกัน ผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 9,101 คน โดย Entenshoku ผู้ให้บริการข้อมูลด้านทรัพยากรมนุษย์ และการจัดหางาน เผยสถิติว่า 9 ใน 10 ของมนุษย์เงินเดือนชาวญี่ปุ่นนั้นมองเรื่องการย้ายงานว่าเป็นความเสี่ยงครั้งใหญ่ในชีวิต โดยกว่า 62% ล้วนให้เหตุผลไปในทางเดียวกันว่า “กลัวหางานใหม่ไม่ได้” พร้อมด้วยความกังวลใจด้านการเงิน การปรับตัว และทักษะที่ต้องเรียนรู้เมื่อเริมงานใหม่ แต่การย้ายงานจะมีความเสี่ยงสูงขนาดนั้นจริงไหม ? เรามาลองดู 3 ปัจจัยหลักที่มีผลกับความเสี่ยงในการเปลี่ยนงานพร้อมวิธีรับมือกันดีกว่า 

ข้อแรก – เรื่อง “การหางานใหม่”

จากผลสำรวจด้านบนพบว่า ข้อนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ชาวญี่ปุ่นไม่กล้าเปลี่ยนงาน การลาออกต่างกับการถูกให้ออกที่เราจะไม่ได้เงินชดเชย นอกจากเงินทดแทนระหว่างการว่างงานในประกันสังคม ซึ่งถ้าเราไม่ได้เก็บเงินสำหรับค่าครองชีพ 3-6 เดือนไว้เป็นอย่างน้อย การด่วนลาออกนับเป็นความเสี่ยงอันใหญ่หลวง ทางพี่ทุย จึงขอแนะนำว่า ได้เซ็นสัญญาเริ่มงานใหม่เมื่อไรค่อยตัดสินใจไปแจ้งลาออกจากที่เก่าดีกว่า จุดนี้อาจจะต้องพูดคุยกับทางบริษัทใหม่ถึงวันเริ่มงานที่สะดวกกันทุกฝ่าย

ข้อที่สอง – เรื่อง “รายได้ต่อปี”

แม้ว่าการ “ลาออก” และย้ายงานควรจะเป็นการเพิ่มรายรับ แต่บางทีอาจจะไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป เพราะค่าเดินทาง ค่าที่พัก หากต้องอยู่ไกลบ้าน เงินโบนัสและสวัสดิการทั้งหลายล้วนแตกต่างกันไปในแต่ละบริษัท จุดนี้การทำรายรับรายจ่ายและวางแผนทางการเงินล่วงหน้า จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของรายจ่ายประจำในแต่ละเดือนและรายรับประจำที่แน่นอน เพื่อนำมาประเมินความเสี่ยงและลดโอกาสเกิดหนี้ได้เป็นอย่างดี

ข้อที่สาม – เรื่อง “ทักษะและความชอบ”

บางทีความสามารถของเราอาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ในสายงานปัจจุบัน กรณีนี้การย้ายงานให้ตรงกับความถนัดก็นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แม้จะต้องไปเริ่มจากตำแหน่งเล็ก ๆ ก็ตาม เพราะเราจะพัฒนาตัวเองได้อย่างราบรื่นเมื่อเราได้ทำในสิ่งที่ชอบ ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทจัดหางานชั้นนำจึงหมั่นถามผู้หางานเสมอ ว่าอยากได้งานแนวไหน และไม่ต้องการทำงานแบบใดมากที่สุด และเราอาจจะลองถามตัวเองว่าบั้นปลายชีวิตเราอยากจะทำงานแบบไหน เพื่อใช้สร้างแรงบันดาลใจและหาแนวทางสู่งานในฝัน

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply