เงินเดือนคนไทย เฉลี่ย 19,000 บาท ต้องทำงานกี่ปีเงินเดือนขึ้นเท่าตัว?

เงินเดือนคนไทย เฉลี่ย 19,000 บาท ต้องทำงานกี่ปีเงินเดือนขึ้นเท่าตัว?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ให้เงินเดือนเฉลี่ยหลังหักภาษีและการหักเงินอื่น ๆ แล้ว สูงที่สุดในโลก ตามด้วยลักเซมเบิร์ก และสิงคโปร์ ขณะที่ไทย อยู่ในอันดับ 66 ของโลก โดยเงินเดือนหลังหักภาษีและการหักเงินอื่น ๆ เฉลี่ยจะเหลืออยู่ที่ 19,546.92 บาท 
  • เมื่อรวมเงินเดือนเฉลี่ยในทุกระดับของมนุษย์เงินเดือนในไทย จะอยู่ที่ 97,300 บาท โดยที่ 75% จะได้เงินเดือนมากกว่า 64,200 บาท แต่มีเพียง 5% เท่านั้นที่เงินเดือนสูงกว่า 193,000 บาท
  • มนุษย์เงินเดือนในไทยต้องใช้เวลา 10 ปีกว่า ที่เงินเดือนจะเพิ่มเป็นเท่าตัวจากช่วงเริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ และคนที่เรียนจบสูงกว่าจะได้เงินเดือนสูงกว่าคนที่เรียนจบต่ำกว่า เมื่อเทียบคนที่ทำงานเดียวกัน ประสบการณ์เท่ากัน ขณะที่นายจ้างไทย เตรียมพร้อมสำหรับการขึ้นเงินเดือนไว้ 8% ทุกๆ 17 เดือน ส่วนค่าเฉลี่ยทั่วโลกจะอยู่ที่ 3% ทุก 16 เดือน ขณะที่การจ่ายโบนัสจะอยู่ที่ 2-7%

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เงินเดือนก็เหมือนเงินทอน ออกมายังไม่ทันได้ชื่นใจ จ่ายนั่นจ่ายนี่ไป ก็หมดซะแล้ว วันนี้พี่ทุยอยากให้ทุกคนลองดูเงินเดือนของตัวเองกันหน่อยซิว่า เงินเดือนเราน้อยจริง หรือว่า เงินเดือนไม่น้อยแต่รายจ่ายน่ะสิ พุ่งเร็วกว่าเงินเดือน พี่ทุยจะพาทุกคนมาดูกันว่า ระดับ เงินเดือนคนไทย ของมนุษย์ออฟฟิศเป็นยังไงเทียบเวทีโลก

เงินเดือนคนไทย ยังสูงเมื่อเทียบกับอาเซียน

พี่ทุยไปค้นเจอข้อมูลจากเว็บไซต์ Country Cassette ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดเก็บสถิติทั้งข้อมูลที่มาจากหน่วยงานรัฐ และแหล่งข้อมูลจากสื่อท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือ​ ได้จัดอันดับเงินเดือนเฉลี่ยของประเทศต่าง ๆ หลังหักภาษีและการหักเงินอื่น ๆ แล้วในปี 2024 เป็นสกุลเงินดอลลาร์ โดยสถิติที่น่าสนใจ มีดังนี้ 

เงินเดือนคนไทย เฉลี่ย 19,000 บาท

ถ้าดูจากตัวเลขที่เว็บไซต์นี้นำมาจัดเรียงอันดับ ผู้ทุยก็พออนุมานได้คร่าว ๆ ว่า น่าจะหยิบเอาฐานเงินเดือนเฉลี่ยขั้นต่ำของมนุษย์เงินเดือนมาใช้ในการจัดทำสถิติ มากกว่าการหยิบเอาฐานเงินเดือนเฉลี่ยของมนุษย์เงินเดือนทุกระดับ โดยถ้าเทียบกับประเทศในอาเซียนด้วยกัน ก็จะพบว่า เงินเดือนเฉลี่ยขั้นต่ำที่มนุษย์เงินเดือนในไทยได้รับ ต่ำกว่าสิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่ก็ยังสูงกว่าเวียดนาม และประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มอยู่ 

อย่างไรก็ตาม หากไปดูสถิติจากสำนักอื่น ที่มีการจัดทำข้อมูลเงินเดือนเฉลี่ยแบบรวมตั้งแต่มนุษย์เงินเดือนที่ได้เงินเดือนต่ำไปจนถึงมนุษย์เงินเดือนที่ได้เงินเดือนระดับสูงแล้ว คนไทยก็อาจจะใจชื้นขึ้นมาอีกหน่อย เพราะอัตราเงินเดือน เมื่อไปเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนด้วยกันแล้วก็ไม่ได้น้อยหน้าใครเลย 

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Salary explorer ที่รวบรวมเงินเดือนของมนุษย์เงินเดือนทุกระดับที่ได้รับก่อนหักภาษีและหักเงินอื่น ๆ โดยเป็นเงินเดือนที่รวมค่าที่อยู่อาศัย ค่าขนส่ง และสวัสดิการอื่น ๆ ที่ให้มาแล้ว ซึ่งแต่ละบริษัท แต่ละอาชีพ ก็อาจจะให้ส่วนนี้ไม่เท่ากัน จากสถิติพบว่า รวมจิปาถะแล้ว มนุษย์เงินเดือนในไทย มีระดับเงินเดือนเฉลี่ยรวมทุกระดับอยู่ที่ 97,300 บาทต่อเดือน โดยเงินเดือนเฉลี่ยขั้นต่ำสุด อยู่ที่ 24,500 บาท และเงินเดือนเฉลี่ยขั้นสูงสุดอยู่ที่ 433,000 บาท 

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในเชิงโครงสร้างเงินเดือนว่า มนุษย์เงินเดือนในไทยได้เงินเดือนอยู่ในระดับไหนเท่าไหร่ พบว่า 25% ของมนุษย์เงินเดือนในไทย ได้เงินเดือนน้อยกว่า 64,200 บาท ในขณะที่ 75% ได้มากกว่านั้น โดยที่มี 25% ที่ได้เงินเดือนมากกว่า 135,000 บาท และมีมนุษย์เงินเดือนเพียง 5% เท่านั้น ที่ได้เงินเดือนขั้นต้น 193,000 บาทขึ้นไป 

ขณะที่ อัตราการเติบโตของเงินเดือนคนไทยนั้น ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี กว่าที่เงินเดือนจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากอัตราเงินเดือนที่ได้รับเมื่อเริ่มต้นทำงาน

มนุษย์เงินเดือนของไทย ได้ปรับขึ้นเงินเดือน 8%

ค่าเฉลี่ยการได้ปรับขึ้นเงินเดือนของมนุษย์เงินเดือนไทย 

ค่าเฉลี่ยการได้ปรับขึ้นเงินเดือนของมนุษย์เงินเดือนไทย 

อย่างไรก็ตาม​ หลายคนเห็นอัตราการขึ้นเงินเดือนนี้แล้วอาจจะบอกว่า ไม่จริง ไม่เห็นจะเยอะแบบนี้เลย หรือบางคนอาจจะขิงว่า ของฉันขึ้นเยอะกว่านี้อีก พี่ทุยก็ต้องบอกว่า อัตราการขึ้นเงินเดือนนั้น จะต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ พื้นที่ที่ทำงาน และอาชีพด้วย  

ขณะที่ระดับการศึกษา ก็ยังมีอิทธิพลกับเงินเดือนอยู่ โดยถ้าเทียบคนที่มีประสบการณ์เท่ากัน ทำงานเดียวกัน แต่จบการศึกษาในระดับที่แตกต่างกัน ก็จะพบว่า คนที่จบการศึกษาในระดับสูงกว่าจะได้เงินเดือนดีกว่าคนที่จบการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่า ดังนี้

งานเดียวกัน ประสบการณ์เท่ากัน จบการศึกษาต่างกัน เงินเดือนต่างกันแค่ไหน

  • ประกาศนียบัตรวิชาชีพ  เงินเดือนสูงกว่า มัธยมศึกษาตอนปลาย 17%
  • ปริญญาตรี​ เงินเดือนสูงกว่า  ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 24% 
  • ปริญญาโท เงินเดือนสูงกว่า ปริญญาตรี 29%  
  • ปริญญาเอก  เงินเดือนสูงกว่า ปริญญาโท 23%

ที่มา : salary explorer

นายจ้างในประเทศไทย โดยปกติจะเตรียมขึ้นเงินเดือนไว้เฉลี่ย 8% ในทุก ๆ 17 เดือน ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 3% ทุก ๆ  16 เดือน โดยปัจจัยที่มีผลต่อการปรับขึ้นเงินเดือนนั้น นอกจากตัวแปรด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ผลการดำเนินงานของบริษัทแล้ว ส่วนหนึ่งก็จะมาจากผลงานของแต่ละคนด้วย ขณะที่โดยทั่ว ๆ ไป เราก็จะได้เห็นการปรับขึ้นเงินเดือนก็จะเกิดขึ้นทุก ๆ 12 เดือน 

ในส่วนของโบนัส นั้น จากข้อมูลการสำรวจที่ salaryexplorer จัดทำ  สัดส่วนของมนุษย์เงินเดือนที่ได้รับโบนัสจะมีประมาณ 56% ส่วนอีก 44% ไม่ได้รับโบนัส โดยโบนัสเฉลี่ยที่ได้รับ มีตั้งแต่ 2-7% ของรายได้ทั้งปี โดยถ้าวัดกันว่า กลุ่มอาชีพไหนได้โบนัสอยู่ในระดับสูงหรือต่ำ ก็พบข้อมูลดังนี้ 

อัตราโบนัสของแต่ละอาชีพ เรียงลำดับจากสูงไปต่ำ

สูง : การเงิน, สถาปนิก, เซลส์, การพัฒนาธุรกิจ, การตลาด/โฆษณา,

ปานกลาง : เทคโนโลยีสารสนเทศ, สุขภาพ, ประกันภัย, บริการลูกค้า, ทรัพยากรบุคคล 

ต่ำ : ก่อสร้าง, ขนส่ง, บริการ

คราวนี้ พี่ทุยจะรวบรวมข้อมูลที่สำนักต่างๆ คาดการณ์กันไว้เกี่ยวกับการปรับขึ้นเงินเดือนและโบนัสในปี 2024 นี้ มาดูกันซิว่า หลังจากที่หลายคนได้ขึ้นเงินเดือนกันแล้ว มันตรงหรือใกล้เคียงกับคาดการณ์เหล่านี้กันบ้างมั้ย

สรุปตัวเลขคาดการณ์การปรับขึ้นเงินเดือนปี 2024 จากกลุ่มบริหารจัดหางานและที่ปรึกษาต่าง ๆ

  • Adecco Thailand  6%
  • Hays 3-6% 
  • Aon 4.9%
  • PMAT 4.64%

คาดการณ์ เงินเดือนคนไทย 2024 มนุษย์ออฟฟิศจะได้เงินมากขึ้นแค่ไหน?

Adecco Thailand

Adecco คาดการณ์ว่า อัตราการปรับขึ้นเงินเดือนในไทย ปี 2024 ไว้ ดังนี้

  • อยู่กับนายจ้างเดิม อัตราการปรับขึ้นเงินเดือน 6%
  • เปลี่ยนนายจ้างใหม่ คาดการณ์อัตราการปรับขึ้นเงินเดือน 59% 

ทั้งนี้ จากการสำรวจของ Adecco ที่จัดทำขึ้นช่วงเดือน ต.ค. 2023 และเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2024 พบว่านายจ้างในไทย 67% มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจใน 12 เดือนข้างหน้า (ณ การสำรวจช่วงเดือน ต.ค. 2023) โดยเชื่อว่าบริษัทจะสามารถเติบโตได้ปานกลางจนถึงขั้นแข็งแกร่ง โดยในระดับผู้บริหารองค์กร 1 ใน 3 มองว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจะแข็งแกร่ง

แต่ก็มีอีก 1 ใน 3 ที่มองกลับ ในรายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม การผลิต ประชาสัมพันธ์ และสื่อ จะมีความกังวลกับอนาคตมากกว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ โดย 42-43% ของกลุ่มนี้ มองเห็นการเติบโตค่อนข้างจำกัด หรือเห็นการหดตัวของธุรกิจ แตกต่างจากผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจบริการ และที่ปรึกษา ซึ่งมีมุมมองบวกค่อนข้างมาก โดย 77% ของกลุ่มนี้ มองเห็นพัฒนาการเชิงบวก ว่าจะเติบโตปานกลางถึงแข็งแกร่ง ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และอสังหาริมทรัพย์ มีสูงถึง 27% ที่มองว่า ธุรกิจจะเติบโตแข็งแกร่ง 

Hays

จากการสำรวจผู้เชี่ยวชาญในทักษะต่าง ๆ ในมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และไทย ช่วงเดือน ก.ย.- พ.ย. 2023 ระบุถึงความคาดหวังในการปรับเงินเดือนของพนักงานและนายจ้างในปี 2024 ดังนี้

  • 92% ของพนักงาน คาดหวังว่าจะได้ปรับขึ้นเงินเดือน
  • 92% ของนายจ้าง ก็มองว่าจะปรับขึ้นเงินเดือนให้
  • 41% ขององค์กร ต้องการจะเพิ่มพนักงานประจำ
  • 46% ของคนทำงานมองหาการย้ายงานไปยังองค์กรใหม่หรือค้นหาอาชีพทางเลือก

ถ้าดูจากตารางนี้ ก็จะเห็นได้ว่า ส่วนใหญ่นายจ้างก็น่าจะปรับขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานในปี 2024 โดยที่เกินกว่าครึ่งปรับขึ้นเงินเดือนให้มากกว่า 3% โดยที่ส่วนใหญ่ตั้งใจจะปรับขึ้นในระดับ 3-6% มีจำนวนน้อยมากที่จะลดเงินเดือน หรือให้เงินเดือนเท่าเดิม 

Aon

Aon เปิดเผยไว้ในผลศึกษาการปรับขึ้นเงินเดือนและอัตราการหมุนเวียนของพนักงานประจำปี 2023 ว่า ในปี 2024 คาดการณ์ว่า นายจ้างในประเทศไทยจะมีอัตราการปรับขึ้นเงินเดือน 4.9% เพิ่มขึ้นจากอัตราการปรับขึ้นเงินเดือนในปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ 4.7% โดยเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน พบว่า อัตราการขึ้นเงินเดือนเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย มีดังนี้

คาดการณ์การปรับขึ้นเงินเดือนของอาเซียน

  • เวียดนาม 8%
  • อินโดนีเซีย 6.5%
  • ฟิลิปปินส์ 5.5%
  • มาเลเซีย 5.0%
  • ไทย 4.9%
  • สิงคโปร์ 4.0%

สำหรับตัวเลขคาดการณ์ที่ออกมานี้ มาจากปัจจัยที่นายจ้างยังมีความกังวลกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอยู่ ขณะที่ความผันผวนที่ส่งผลต่อธุรกิจมาจากหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อแผนการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งสิ้น 

PMAT

สมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย (PMAT) คาดการณ์การปรับขึ้นเงินเดือนและการจ่ายโบนัสในปี 2024 เอาไว้ ตั้งแต่ปลายปี 2023 ว่า ปี 2024 การขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4.64% 

อุตสาหกรรมที่ขึ้นเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 5.33% กลุ่มสินค้าอุปโภค-บริโภค 5.17% และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 4.83% 

การจ่ายโบนัสเฉลี่ยในปี 2024 คาดว่า โบนัสรวมอยู่ที่ 2.57 เท่าของเงินเดือน โดยอุตสาหกรรมที่จ่ายโบนัสรวมเฉลี่ยสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ 4.29 เท่าของเงินเดือน กลุ่มเทคโนโลยี 2.71 เท่าของเงินเดือน และกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 2.65 เท่าของเงินเดือน 

เงินเฟ้อทั่วไปของไทยปีนี้ คาดอยู่ที่ 0.5% ค่าค่าครองชีพพุ่งช้ากว่าเงินเดือน

คราวนี้ไปดูกันบ้างว่า อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการใช้ชีวิตเราเป็นอย่างไร ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดของกระทรวงพาณิชย์ ก็ยังคงคาดการณ์ว่า ปีนี้เงินเฟ้อทั่วไป น่าจะอยู่ที่ 0-1% หรือมีค่ากลางอยู่ที่ 0.5% โดยที่เดือน เม.ย.​2024​ เงินเฟ้อทั่วไป อยู่ที่ 0.19% กลับมาเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ขณะที่สินค้าเกษตรหลายรายการออกสู่ตลาดลดลง ราคาก็สูงขึ้น ส่วนสินค้าและบริการประเภทอื่น ๆ เคลื่อนไหวในทิศทางปกติ และไทยยังจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ 

ขณะที่เดือน พ.ค. 2024 คาดว่า เงินเฟ้อทั่วไปจะสูงขึ้น เพราะฐานค่าไฟเดือน พ.ค. 2023 อยู่ในระดับต่ำ ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายชนิดปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบโลกยังอยู่ในระดับสูง และมีการลดอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศ อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนนำเข้าสูงขึ้น และผู้ประกอบการก็มีแรงกดดันจากต้นทุนอยู่ในระดับสูง เพราะอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าใช้จ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้น ​

เห็นแบบนี้แล้ว ก็ต้องบอกว่า ดูทิศทางเงินเดือนที่ปรับขึ้นในปี 2024 นี้ ก็น่าจะสูงกว่า อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งก็ควรจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ทำไมมนุษย์เงินเดือนหลายคนกลับยังรู้สึกว่า เงินเดือนเหมือนเงินทอน เข้ามาแล้วก็ออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่านายจ้างจะขึ้นเงินเดือนให้แล้วก็ตาม 

ในเรื่องนี้ พี่ทุยมองว่า คงต้องหันกลับมาดูที่ตัวเราเอง ซึ่งแต่ละคนมีต้นทุนการใช้ชีวิตไม่เท่ากัน บางคนจากบ้านในต่างจังหวัดมาทำงานในกรุงเทพฯ​ ต้องมีค่าเช่าที่อยู่อาศัยเพิ่มเติม นอกเหนือจากค่าเดินทาง และค่าใช้ชีวิตกินอยู่ และบางครั้งก็อาจจะต้องแบ่งเงินให้พ่อแม่ หรือผู้มีพระคุณใช้อีกด้วย ดังนั้นก็อาจจะมีเงินเก็บแต่ละเดือนน้อยมาก ไม่มีเลย หรือบางครั้งก็เจอภาวะเงินช็อต ต้องหยิบยืมมาใช้ก่อน

ในขณะที่ คนที่มีบ้านอยู่ในจังหวัดที่ทำงานอยู่แล้ว ก็ไม่ได้แปลว่า จะไม่เจอภาวะเดือนชนเดือน ถ้ามีภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สูง เมื่อเทียบกับรายได้ 

ทั้ง 2 กลุ่มนี้ ก็อาจจะจำเป็นต้องมองหาช่องทางในการหารายได้เพิ่มมากขึ้น หรือต้องยกระดับทักษะการทำงาน เพื่ออัปรายได้ผ่านการย้ายงานใหม่ ที่ได้เงินเดือนสูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดโอกาสในการเจอปัญหาเดือนชนเดือน หรือสิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ

อย่างไรก็ตาม พี่ทุยมองว่า สำหรับคนที่มีภาระในการดูแลคนอื่น ๆ น้อย และได้รับเงินเดือนในอัตราที่เหมาะสม หากวางแผนการเงินให้ดี แบ่งเงินออมก่อนใช้จ่าย ก็ยังมีหวังเป็นคนที่มีเงินเก็บ มีเงินพอใช้ในภายภาคหน้าเมื่อเกษียณไปแล้วได้ 

สุดท้ายแล้ว เงินเดือนสูง ก็ไม่ได้หมายความว่า มีเงินเก็บสูงเสมอไป คนเงินเดือนไม่สูง แต่ภาระน้อย บริหารจัดการดี บางคนอาจจะมีเงินเก็บสูงกว่าคนเงินเดือนสูง ที่มีภาระเยอะ หรือไม่มีภาระอะไร แต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยก็ได้ 

เอาเป็นว่า พี่ทุยขอเป็นกำลังใจให้มนุษย์เงินเดือนทุกคน หวังว่า ปี 2024 นี้ จะเป็นปีที่ดี ทั้งเรื่อง การขึ้นเงินเดือนและโบนัส ใครที่ได้ปรับขึ้นไปแล้วก็ดีใจด้วยจ้า

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile