[ถอดบทเรียน] “เศรษฐกิจจีน” เป็นยังไง เมื่อตัดสินใจลดดอกเบี้ยเงินกู้ ?

[ถอดบทเรียน] “เศรษฐกิจจีน” เป็นยังไง เมื่อตัดสินใจลดดอกเบี้ยเงินกู้ ?

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • ธนาคารกลางจีนลดดอกเบี้ยอ้างอิงเงินกู้ลูกค้าชั้นดี หรือ LPR ระยะ 1 ปี ครั้งแรกในรอบ 20 เดือน จาก 3.85% เหลือ 3.80%
  • การลด LDR ระยะ 1 ปี ทำให้บริษัทกู้เงินระยะสั้นได้ด้วยต้นทุนถูกลง และช่วยเสริมความมั่นใจให้ผู้บริโภคกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนรับมือความท้าทายจากโอมิครอนได้
  • ตลาดหุ้นจีนได้ประโยชน์ในเชิงบรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้น แต่ก็ยังมีเรื่องให้ต้องคอยจับตานโยบายของรัฐบาลประเด็นการจัดระเบียบธุรกิจตลอดปี 2022

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2021 ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี หรือที่เรียกว่า Loan prime rate (LPR) ระยะ 1 ปี จาก 3.85% เหลือ 3.80% หรือลดไป 0.05% ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือนที่ทางจีนหั่นดอกเบี้ยอ้างอิงตัวนี้ลงมา ส่วนดอกเบี้ย LPR ระยะ 5 ปี นั้น ยังอยู่คงเดิมที่ 4.65% การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ จะมีผลอะไรกับ“เศรษฐกิจจีน” ทั้งตลาดเงินและตลาดทุนจีนบ้าง แล้วทำไมนักลงทุนอย่างเราต้องสนใจ วันนี้พี่ทุยจะมาสรุปให้ฟัง 

ลด LPR 1 ปี ช่วย “เศรษฐกิจจีน” ยังไง

ครั้งล่าสุดที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลด LPR 1 ปี ก็คือ เมื่อเดือน เม.ย. 2020 ที่จีนเผชิญศึกหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหลังจากนั้นมาจีนก็ไม่ได้ออกนโยบายลด LPR อีกเลย จนกระทั่งเจอศึกใหญ่ 2 เรื่องในเดือน ธ.ค. 2021 พร้อมกัน 

ศึกแรกคือ ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่กำลังปั่นป่วนกับปัญหาผู้พัฒนาจ่ายหนี้ไม่ไหว หลังเผชิญแรงกดดันที่ทางการจีนสั่งการให้สถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อให้ผู้พัฒนาโครงการมากขึ้น เพราะไม่ต้องการให้เกิดฟองสบู่ในภาคอสังหาฯ 

ตัวอย่างผู้ประกอบการที่กำลังเจอปัญหาจ่ายหนี้ไม่ไหว เช่น China Evergrande และ Kaisa 

ทางการจีนได้แก้เกมด้วยการลดการสำรองเงินของธนาคาร และสนับสนุนให้ธนาคารปล่อยกู้ให้บริษัทน้ำดีที่ต้องการไปซื้อโครงการอสังหาฯ จากผู้พัฒนาที่มีปัญหามาดูแลต่อ

ศึกที่สองคือ “ไวรัสโอมิครอน” ที่ระบาดหมือนประเทศอื่น ๆ ซึ่งจีนประกาศชัดเจนว่าต้อง “Zero Covid-19” หมายความว่า ต้องไม่มีคนติดเลย จึงประกาศนโยบายปิดกิจกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่ที่มีการระบาดทันที ดังนั้น ไวรัสโอมิครอนที่กำลังระบาดรอบนี้ส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนแน่นอน 

ดังนั้น การออกนโยบายหั่นดอกเบี้ย LPR 1 ปี จึงเป็นเหมือนท่าไม้ตายที่จีนจัดมาเพื่อรับมือศึกโอมิครอน

พี่ทุยขออธิบายเพิ่มเติมว่า LPR 1 ปี เป็นดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง สำหรับธนาคารนำไปใช้ในการปล่อยกู้ให้ลูกค้าชั้นดี ทั้งบริษัทและภาคครัวเรือน ดังนั้นจึงมีความสำคัญมาก เพราะเมื่อจีนลดดอกเบี้ยอ้างอิงตัวนี้ลงมา ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ จะไปปรับลดดอกเบี้ยกู้ยืมสำหรับลูกค้าชั้นดีลงมา ทำให้บริษัทที่เครดิตดี ๆ กู้เงินสำหรับระยะ 1 ปี ได้ด้วยต้นทุนที่ถูกลง ซึ่งปกติแล้วการกู้เงินระยะสั้นขนาดนี้ ก็มักจะใช้เพื่อเสริมสภาพคล่องเป็นหลัก

และถ้ามองในมุมการปล่อยกู้ให้ภาคครัวเรือน ถ้าดอกเบี้ยลดลง ก็จะเอื้อให้ครัวเรือนอยากใช้จ่ายมากขึ้น ผลที่ตามมา คือ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้โตต่อได้  

Global Times ซึ่งเป็นสื่อของรัฐบาลจีนนำเสนอข้อมูลของ Sinolink Securities ที่คาดการณ์ไว้สอดคล้องกับที่พี่ทุยกล่าวไว้ข้างต้นว่า บอกไว้ “การตัดสินใจลดดอกเบี้ย LPR 1 ปี จะช่วยลดต้นทุนให้ธุรกิจจีนได้ 16,500 ล้านหยวน หรือประมาณ 2,950 ล้านดอลลาร์ทีเดียว” 

ขณะที่ Yan Yuejin ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย E-House สถาบันวิจัยของจีน ให้ความเห็นว่า การลด LPR ทำให้ต้นทุนการเงินขององค์กรลดลง และยังช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมด้วย เพราะเมื่อลดดอกเบี้ยแล้ว ก็จะมีผลบวกกับอารมณ์การใช้จ่ายของผู้บริโภค ทำให้กล้าใช้จ่ายมากขึ้น

ส่วน Reuters ก็นำเสนอมุมมองจากนักวิเคราะห์หลากหลายสำนักเอาไว้ โดยภาพรวมเชื่อว่า ธนาคารกลางจีนคงไม่ได้ใช้เเค่การลด LPR 1 ปีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ตลอดปี 2022 น่าจะได้เห็นการลดดอกเบี้ยตัวอื่นหรือใช้มาตรการอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจอีก หากวิกฤตโควิด-19 ยังดำเนินต่อไป เช่น อาจจะมีการลดอัตราเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีกรอบ จากที่เพิ่งลดไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2021เป็นต้น

ตลาดหุ้นจีนได้รับผลอะไรบ้างจากการลดดอกเบี้ยเงินกู้ LPR

จากที่เล่ามาข้างต้น ก็พอเห็นภาพว่าในด้านเศรษฐกิจ ได้รับผลดีแน่ ๆ งั้นคราวนี้พี่ทุยชวนมาดูตลาดหุ้นจีนบ้างว่า ลดดอกเบี้ย LPR 1 ปี มีผลยังไง 

ต้องบอกว่า ส่งผลดีต่ออารมณ์ของนักลงทุนเพราะว่าช่วยสร้างความมั่นใจว่า เศรษฐกิจจีนมีปัจจัยสนับสนุนให้เติบโตได้ต่อ การลงทุนในตลาดหุ้นจีนก็จะน่าสนใจตามไปด้วย เพราะบริษัทจดทะเบียนน้ำดีในจีน ก็จะได้อานิสงส์จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และเศรษฐกิจที่ไปต่อ 

ที่น่าสนใจก็คือ ตลาดคาดการณ์ว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินของจีนเพื่อมารับมือปัจจัยท้าทายเศรษฐกิจคงไม่จบแค่นี้ ปี 2022 จีนน่าจะหั่นดอกเบี้ยตัวอื่น ๆ อีกอย่าง RRR ด้วย

มาถึงตรงนี้ พี่ทุยขอเอาปากกามาวงชัด ๆ ว่า “แม้ว่าการลดดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ระยะ 1 ปี จะเป็นผลดีกับการลงทุนหุ้นจีน แต่…ไม่ได้หมายความว่า นักลงทุนจะเดินหน้าลงทุนในจีนได้แบบหมดหน้าตัก เพราะจีนเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับ “นโยบายภาครัฐ” มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและการทำธุรกิจต่าง ๆ มาก ซึ่งมีสัญญาณมาแล้วว่า ปี 2022 จีนอาจจะยังเดินหน้าปราบปรามจัดระเบียบธุรกิจต่าง ๆ ต่อไป” 

ดังนั้นก่อนจะดีใจ ทุ่มเงินลงทุนในหุ้นจีน นักลงทุนก็ต้องคอยติดตามข่าวคราวเรื่องการปราบปรามของทางการจีนอยู่เรื่อย ๆ เช่นกัน เพราะเป็นปัจจัยฝั่งตรงข้ามที่อาจกระทบกับบรรยากาศการลงทุนในหุ้นจีนได้

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile