กทม. ปรับขึ้น ค่าเก็บขยะ 60 บาท/เดือน ทั่วโลกเก็บค่าขยะมั้ย?

กทม. ปรับขึ้น ค่าเก็บขยะ 60 บาท/เดือน ทั่วโลกเก็บค่าขยะมั้ย?

4 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • โลกเราสร้างขยะมากเกิน 2,000 ล้านตันต่อปี สามารถเอาขยะใส่ตู้คอนเทนเนอร์แล้วเรียงต่อกันพันรอบเส้นศูนย์สูตรของโลกได้ถึง 25 รอบ ความยาวรวมแล้วไกลกว่าการเดินทางไปกลับดวงจันทร์
  • ต้นทุนการจัดการขยะบนโลกนั้น สูงถึง​ 2.52 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ส่วนใหญ่เป็นค่าธรรมเนียมการจัดเก็บ ขณะที่ต้นทุนทางอ้อมในการจัดการขยะ ได้แก่ ปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ปัญหาสุขภาพ และมลภาวะ 
  • สิงคโปร์ก็เพิ่งปรับขึ้นค่าจัดการขยะ โดยคิดไม่เท่ากันตามประเภทที่อยู่อาศัย ส่วนอินโดนีเซียคิดโดยอ้างอิงอัตราการใช้ไฟฟ้า ขณะที่เกาหลีใต้ คิดตามปริมาณขยะในครัวเรือน โดยต้องซื้อถุงขยะที่กำหนดมาใช้ทิ้ง 

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวออกมาว่า ปี 2024 นี้ กรุงเทพมหานคร จะเก็บค่าธรรมเนียมเก็บขยะ หรือที่มีชื่อเต็มว่า การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย ในอัตราใหม่ 60 บาทต่อเดือน จากเดิมที่เก็บ 20 บาทต่อเดือน แต่ถ้าบ้านไหนคัดแยกขยะตามเงื่อนไข จะคิดเท่าเดิมคือ ค่าเก็บขยะ 20 บาท วันนี้พี่ทุยก็เลยอยากจะชวนทุกคน มาสำรวจการคิดค่าธรรมเนียมจัดเก็บขยะรอบโลกกันบ้างว่า แต่ละที่คิดกันยังไง แล้วของไทย ใช้หลักการไหนในการคำนวณค่าธรรมเนียมการเก็บขยะ

จากรายงาน Beyond an age of waste ที่จัดทำโดย โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme : UNEP) ระบุว่า ทุก ๆ ปี โลกของเรามีการสร้างขยะมูลฝอยเกินกว่า 2,000 ล้านตัน ซึ่งถ้าเอามาบรรจุรวมกันในตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน แล้วเอาตู้คอนเทนเนอร์วางต่อ ๆ กัน ขยะทั้งหมดนี้ก็สามารถพันรอบเส้นศูนย์สูตรของโลกได้ถึง 25 รอบ และยังมีระยะทางไกลกว่าที่เราจะเดินทางไป-กลับดวงจันทร์ซะอีก 

สรุปสถานการณ์ขยะมูลฝอยบนโลก 

  • ปี 2020 ปริมาณขยะมูลฝอยบนโลกอยู่ที่ ​ 2,126 ล้านตันต่อปี 62% เป็นขยะควบคุมได้ เช่น นำไปฝังกลบดิน เปลี่ยนเป็นพลังงาน และเข้าสู่กระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนอีก 38% เป็นขยะที่ควบคุมไม่ได้
  • ปี 2050 คาดการณ์ปริมาณขยะมูลฝอยบนโลก เพิ่มเป็น 3,782 ล้านตันต่อปี โดยปริมาณขยะที่มาจากประเทศรายได้ต่ำ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า จากปี 2020
  • แต่ละคนบนโลก สร้างขยะมูลฝอย เฉลี่ย 0.74 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน​ (อยู่ในช่วงระหว่าง​0.11-4.54 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน) โดยคนในประเทสรายได้สูง สร้างขยะมูลฝอยต่อคนต่อวัน สัดส่วนมากที่สุดในโลกที่ 34%
  • 33% ของขยะมูลฝอยบนโลก ไม่ได้รับการจัดการในลักษณะที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม 
  • ภูมิภาคเอเชียตะวันออก และแปซิฟิก สร้างปริมาณขยะมูลฝอยถึง 23% สัดส่วนมากที่สุดในโลก

ต้นทุนการจัดการขยะบนโลกนั้น สูงถึง​ 2.52 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี ทำให้หลายประเทศเริ่มขึ้น ค่าเก็บขยะ เพื่อแก้ปัญหา ซึ่ง กทม. ก็เริ่มขึ้นค่าเก็บขยะ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ​ขยะนั้นมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับการพัฒนาที่ยั่งยืน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) ยิ่งมนุษย์เราสร้างขยะมากเท่าไหร่ มลพิษและก๊าซเรือนกระจกก็จะยิ่งมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยสิ่งที่น่าห่วงก็คือ ในปริมาณขยะที่ก่อขึ้นมาบนโลกนั้น ยังมีคนหลายพันล้านคนที่ยังไม่ได้จัดเก็บขยะที่ตัวเองสร้างขึ้น 

ขณะที่ ต้นทุนการจัดการขยะทั่วโลกนั้น ค่อนข้างสูงทีเดียว โดยในปี 2020 อยู่ที่ 252,300 ล้านดอลลาร์ ส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมการจัดเก็บ ซึ่งประกอบด้วยค่าแรงคนจัดเก็บ ค่าเชื้อเพลิงยานพาหนะที่ใช้ ค่าบำรุงรักษา ค่าประกัน และค่าใช้จ่ายทางอ้อมอื่น ๆ 

ทั้งนี้ ในรายงานของ UNEP คาดการณ์ว่า ในปี 2050 ต้นทุนการจัดการขยะจะเพิ่มขึ้นเป็น 417,300 ล้านดอลลาร์ โดยที่ต้นทุนส่วนใหญ่ก็ยังคงมาจากการจัดเก็บ ตามาด้วย การเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน การนำขยะไปฝังกลบ และการรีไซเคิล อย่างไรก็ตาม หากสามารถหยุดวงจรการกำจัดขยะที่ไม่สามารถควบคุมได้ แล้วเปลี่ยนขยะเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการจัดเก็บและบำบัดได้ ต้นทุนก็จะลดเหลือ 394,000 ล้านดอลลาร์​ และถ้าสามารถลดขยะลงได้อีก พร้อม ๆ กับเพิ่มการรีไซเคิล ต้นทุนการจัดการขยะก็จะลดเหลือ 254,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นน้อยมาก ๆ จากปี 2020 

เมื่อต้นทุนส่วนใหญ่ในการจัดการขยะ ก็คือการจัดเก็บ คราวนี้ พี่ทุย ก็เลยลองไปดูคร่าว ๆ ว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ที่ประเทศ หรือเมืองต่าง ๆ ใช้กำหนดค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะ ก็พบว่า หลัก ๆ จะแบ่งเป็น ปัจจัยคงที่ กับปัจจัยแปรผัน 

ปัจจัยที่ประเทศต่าง ๆ ใช้ในการคิดค่าธรรมเนียม ค่าเก็บขยะ 

ปัจจัยคงที่

  • ต้นทุนการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในพื้นที่นั้น เช่น รถเก็บขยะ ถังขยะ 

ปัจจัยแปรผัน

  • ความถี่ คือพิจารณาจากจำนวนครั้งที่บุคคล หรือครัวเรือน ทิ้งขยะ 
  • ปริมาณขยะที่ทิ้ง 
  • การคัดแยกขยะที่นำไปรีไซเคิลได้ กับขยะมูลฝอย

ถ้าย้อนกลับมาดูประเทศไทย ก็จะพบว่า 

มาดูตัวอย่างแนวทางการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการขยะในประเทศต่าง ๆ กันดีกว่า

สิงคโปร์ 

ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2024 สิงคโปร์ปรับขึ้นค่าธรรมเนียมการเก็บขยะในครัวเรือน โดยมีเป้าหมายเพื่อระบบการดำเนินการด้านการจัดการขยะที่ยั่งยืน และเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนการจัดการรวมถึงค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ดังนี้

  • คอนโดมิเนียมทั่วไป และบ้านพักส่วนตัวแบบที่ไม่ได้มีที่ดิน จาก 0.39 ดอลลาร์ต่อเดือน เป็น 10.20 ดอลลาร์ต่อเดือน 
  • บ้านพักพร้อมที่ดิน จาก 1.33 ดอลลาร์ต่อเดือน เป็น 34 ดอลลาร์ต่อเดือน 

แม้จะดูว่าค่าธรรมเนียมปรับขึ้นแบบก้าวกระโดด แต่สิงคโปร์ได้มีการชดเชยค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นด้วยการให้ GST Voucher ซึ่งเป็นบัตรกำนัลสินค้าและบริการ ในปีงบประมาณ 2024 สำหรับใช้เป็นส่วนลดค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค รวมถึงค่าธรรมเนียมการเก็บขยะ โดยที่บัตรกำนัลนี้จะถูกโอนเข้าไปยังบัญชีค่าสาธารณูปโภคของครัวเรือนที่มีสิทธิโดยตรง 

อินโดนีเซีย

เมืองจาการ์ตา จะจัดเก็บภาษีขยะในครัวเรือน จากผู้ที่อยู่อาศัยในเมือง ตั้งแต่เดือน ม.ค.​ 2025 เป็นต้นไป โดยถือเป็นหนึ่งในความพยายามจัดการขยะ โดยค่าธรรมเนียมบริการกำจัดขยะจะอ้างอิงตามการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือน ดังนี้ 

  • ใช้ไฟฟ้า 450-900 โวลต์-แอมป์  ได้รับยกเว้นภาษีนี้ 
  • ใช้ไฟฟ้า 1,300-2,200 โวลต์-แอมป์ เสียภาษี 10,000 รูเปียห์ต่อเดือน
  • ซึ่งใช้ไฟฟ้า 3,500-5,500 โวลต์-แอมป์ เสียภาษี 30,000 รูเปียห์ต่อเดือน 
  • ใช้ไฟฟ้า มากกว่า 6,600 โวลต์-แอมป์ เสียภาษี 77,000 รูเปียห์ต่อเดือน 

อย่างไรก็ตาม ก็มีการสนับสนุนครัวเรือนที่จัดการขยะ โดยจะให้ส่วนลดค่าธรรมเนียมกับผู้อยู่อาศัยที่มีส่วนร่วมในธนาคารขยะ โดยการคัดแยกขยะที่รีไซเคิลได้ไปฝากไว้กับธนาคาร 

เกาหลีใต้

ใช้ระบบการคิดค่าธรรมเนียมการจัดการขยะ ตามปริมาณขยะของครัวเรือน หรือ Volume Based Waste Fee (VBWF) มาตั้งแต่ปี 1995 โดยหากคัดแยกเก็บขยะรีไซเคิล ก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมส่วนนี้ 

สำหรับแนวทางในการทิ้งขยะของที่นี่คือ ประชาชนจะต้องซื้อถุงที่กำหนดเพื่อมาใส่ขยะ และเสียค่าธรรมเนียมจากปริมาณขยะที่พวกเขาทิ้ง โดยระบบนี้ จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมกับขยะรีไซเคิลที่ถูกคัดแยกออกมาให้ 

ทั้งนี้ จะมีการสอดส่องพฤติกรรมของพลเมืองด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญที่ถูกมอบหมายหน้าที่ให้มาติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะ ในกรณีที่มีการละเมิด ทิ้งขยะโดยไม่ได้ใส่ในถุงที่กำหนด หรือเผาขยะอย่างผิดกฎหมาย จะมีโทษปรับสูงสุด 1 ล้านวอน 

ข้อดีของการใช้ระบบนี้ คือ ช่วยลดปริมาณขยะมูลฝอยได้ โดยลดการใช้บรรจุภัณฑ์ที่มากเกินไป ในขณะเดียวกันก็เพิ่มการใช้ผลิตภัณฑ์แบบเติมซ้ำได้แทน ทั้งยังสามารถเพิ่มอัตราการรีไซเคิลขยะได้อีกด้วย นอกจากนี้ ก็ทำให้ประชาชนมีความตระหนักในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มีการปรับปรุงเทคโนโลยีด้านการรีไซเคิลให้ทันสมัย 

เมื่อพิจารณาในแง่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง จากการค้นหาข้อมูลในอดีต พบว่า ในปี 1995 ที่เกาหลีใต้เพิ่งเริ่มใช้ระบบ VBWF ครั้งแรก พบว่า มียอดขายถุงขยะที่กำหนดไปทั้งหมด 1,059 ล้านถุง หลังจากนั้นยอดขายถุงขยะก็ลดลงมาต่อเนื่องจนกระทั่งปี 1998 อยู่ที่ 913.34 ล้านถุง ขณะที่ในช่วงปี 1998-2014 ยอดขายถุงขยะก็ปรับขึ้นลงแบบไม่ได้มีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ย อยู่ที่ปีละ 939.18 ล้านถุง

จากตัวอย่างที่พี่ทุยหยิบมาให้ดู ก็จะเห็นได้ว่า รูปแบบการคิดค่าธรรมเนียมเก็บขยะของแต่ละประเทศนั้นก็แตกต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วทุกประเทศมีจุดประสงค์เดียวกันคือ ต้องการให้ครัวเรือนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะ เพื่อลดปริมาณขยะมูลฝอยที่จะต้องนำไปฝังกลบ

กทม. ปรับขึ้น ค่าเก็บขยะ สำหรับบ้านที่ไม่คัดแยกขยะ

ในส่วนของประเทศไทยนั้น ล่าสุด กรุงเทพมหานคร ก็มีการอัปเดตค่าธรรมเนียมการจัดเก็บขยะมูลฝอยใหม่ออกมาแพงขึ้น โดยมีข้อจูงใจว่า หากคัดแยกขยะ ก็จะยังสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมอัตราเดิมที่ถูกกว่าได้ 

อัตราค่าธรรมเนียมการจัดการขยะมูลฝอย (ค่าเก็บขยะ) ที่ปรับปรุงใหม่ ของกรุงเทพมหานคร มีผลบังคับใช้ใน 180 วัน นับจากวันที่ประกาศ

  • ปริมาณไม่เกิน 20 ลิตรต่อวัน 
    • ค่าเก็บขน 30 บาท ค่ากำจัด 30 บาท ต่อเดือน รวมเป็น 60 บาทต่อเดือน (จากเดิม 20 บาท) กรณีคัดแยกขยะ เก็บ 20 บาทเท่าเดิม
  • ปริมาณเกิน 20 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
    • ค่าเก็บขน 60 บาทต่อ 20 ลิตร ค่ากำจัด 60 บาทต่อ 20 ลิตร รวม 120 บาท/20 ลิตร (จากเดิม เกิน 20 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 500 ลิตรต่อวัน 40 บาทต่อ 20 ลิตร และ เกิน 500 ลิตรต่อวัน แต่ไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร 2,000 บาท
  • ปริมารเกิน 1 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ค่าเก็บขน 3,250 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร ค่ากำจัด 4,750 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร (จากเดิม 2,000 บาทต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร) 

หลังจากนี้ก็คงต้องรอดูว่า การเก็บค่าธรรมเนียมกับผู้ที่คัดแยกขยะถูกกว่าผู้ที่ไม่ได้คัดแยกขยะก่อนทิ้ง จะช่วยส่งเสริมให้คนคัดแยกขยะมากขึ้นได้จริงหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน คนจำนวนมากก็ยังติดภาพกับคำกล่าวที่ว่า คัดแยกขยะให้แล้วก็เอาไปเทรวมอยู่ดี พี่ทุยว่า ถ้าแก้จุดบอดเรื่องนี้ได้ ก็อาจจะทำให้คนพร้อมแยกขยะมากขึ้นก็ได้

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile