Binance เกิดอะไรขึ้น

Binance เกิดอะไรขึ้น ? ทำไมเกิด FUD จนเงินไหลออก นักลงทุนควรทำยังไง ?

5 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • Binance ตลาดซื้อขายคริปโตอันดับ 1 ของโลก เผชิญกระแส FUD ซึ่งย่อมาจาก Fear, Uncertainty and Doubt (ความกลัว, ความไม่แน่นอน และความน่าสงสัย) ส่งให้มีเงินไหลออกสุทธิ (Netflow) ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่า 3,030 ล้านดอลลาร์
  • ข้อมูลจากบริษัทตรวจสอบบัญชี Mazars ที่ยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของการควบคุมภายในและวิธีชำระบัญชีสินทรัพย์เพื่อให้ครอบคลุมเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ คือจุดเริ่มต้นของกระแส FUD ครั้งนี้
  • บางครั้ง FUD ก็พุ่งเป้าโจมตี Binance มากเกินไป เช่น กรณี Binance ระงับการถอน USDC บนเครือข่าย Ethereum และ Binance ซึ่ง Travis Kling จาก Ikigai Asset Management โพสต์ทวีตว่า “น่าสงสัยอย่างยิ่ง” แต่แล้ว CZ ก็คลายกังวลโดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนซ่อมบำรุงระบบ

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ถ้าเกิดหาข่าวโลกคริปโตช่วงนี้คงจะพบว่าเริ่มมีกระแสเกี่ยวกับความเชื่อมั่นต่อ Binance ตลาดซื้อขายคริปโตอันดับ 1 ของโลก หลังจากก่อนหน้านี้ FTX ตลาดซื้อขายคริปโตอันดับ 2 ล่มสลาย ตามด้วยบริษัทเกี่ยวกับคริปโตจำนวนมากล้มละลายตามกันไป บทความนี้พี่ทุยขอพาไปดูว่า Binance เกิดอะไรขึ้น ทำไมนักลงทุนถึงต่างมีความกังวลต่อ Binance เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง

สถานการณ์ปัจจุบันของ Binance เกิดอะไรขึ้น ? 

นักลงทุนเกิดภาวะ FUD

FUD ย่อมาจาก Fear, Uncertainty and Doubt (ความกลัว, ความไม่แน่นอน และความน่าสงสัย) ซึ่งเป็นคำที่บรรยายความรู้สึกของนักลงทุนที่มีต่อ Binance ได้เป็นอย่างดี เริ่มจากข่าวการเปิดเผยข้อมูลจากบริษัทตรวจสอบบัญชี Mazars ที่ยังขาดข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของการควบคุมภายในและวิธีชำระบัญชีสินทรัพย์เพื่อให้ครอบคลุมเงินกู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์

CZ ผู้ก่อตั้ง Binance จ่อถูกสอบฐานฟอกเงิน

ตามด้วยข่าวว่า Changpeng Zhao หรือ CZ ผู้ก่อตั้ง Binance อาจถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอาญา เนื่องจากเว็ปไซต์ตลาดซื้อขายได้อำนวยความสะดวกให้การฟอกเงิน ส่วนอีกข่าวก็คือ Patrick Hillmann หัวหน้าเจ้าหน้าที่กลยุทธ์ของ Binance ไม่สามารถตั้งชื่อบริษัทแม่ของ Binance ได้ เพราะ Binance ปรับโครงสร้างองค์กรมาแล้วเกือบ 2 ปี ก็ยังไม่แล้วเสร็จ

Binance เกิดอะไรขึ้น

FUD เข้ามาเช่นนี้ นักลงทุนเริ่มแห่ถอนเงินออกจาก Binance มากขึ้น ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 13 ธ.ค. 2022 Nansen เว็ปไซต์วิเคราะห์ข้อมูล Blockchain จากฮ่องกง เผยว่ามีเงินไหลออกสุทธิ (Netflow) ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มูลค่า 3,030 ล้านดอลลาร์ และตลอด 7 วันที่ผ่านมา มีเงินไหลออกสุทธิ (Netflow) 3,660 ล้านดอลลาร์

3 ปัจจัยน่ากังวลที่ Binance อาจจะล้มละลายได้ 

1. BUSD เหรียญ Stablecoin

BUSD เหรียญ Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับเงินดอลลาร์ เริ่มมีสัญญาณความกังวลของนักลงทุนบ้างแล้ว โดยปกติแล้ว BUSD จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า USDT และสูสีกับ USDC ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่าง BUSD กับ USDT จึงมักไม่ต่ำกว่า 1 มากนัก แต่ตอนนี้เริ่มมีหลุดต่ำกว่า 1 มาบ้าง ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเทียบกับ USDC ก็ไปแตะระดับต่ำสุดเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ 0.945 USDC ซึ่งจุดนี้ยังเป็นเรื่องเล็กน้อย

อีกจุดที่มีความคล้าย Stablecoin เหรียญอื่นที่ประสบปัญหาความเชื่อมั่น คือ สัดส่วน BUSD บน CurveFinance ซึ่งเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเหรียญที่มีสภาพคล่องสูง เพิ่มจาก 25% ไปที่ 81% สะท้อนว่านักลงทุนเทขาย BUSD มากขึ้นชัดเจน

2. กระแส FUD จะจบลงเมื่อไร – 24 ชั่วโมงมีเงินไหลออกถึง 3,030 ล้านดอลลาร์

Nansen ชี้ว่ามีเงินไหลออกใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถึง 3,030 ล้านดอลลาร์ แม้จะใกล้เคียงกับเมื่อครั้ง FTX ใกล้ล้มละลายมากขึ้น ซึ่งตอนนั้นภายใน 3 วันมีเงินไหลออก 6,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามด้วยปริมาณสินทรัพย์ที่ Binance มีสูงถึง 64,000 ล้านดอลลาร์ ปริมาณเงินไหลออกเช่นนี้อาจไม่กระทบ Binance แต่ต้องอย่าลืมว่าหากความกังวลเพิ่มขึ้น เงินไหลออกมากขึ้น ในที่สุดก็อาจสร้างปัญหาได้ ดังนั้นขึ้นอยู่ว่ากระแส FUD จะจบลงเมื่อไร

3. รายใหญ่เริ่มขยับตัวถอนเงินออก 

ก่อน FTX ล้มละลาย มีนักลงทุนรายใหญ่ถอนเงินจำนวนมากออกจาก FTX ตรงกับคติประจำตลาดการเงินที่ว่า รายใหญ่ขยับก่อนรายย่อยเสมอ มีรายงานว่า Justin Sun ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าโครงการ TRON ถอนเงินจาก Binance ไป 50 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะลดความกังวลของตลาดด้วยการโพสต์ทวีตเตอร์เพื่อแสดงว่าได้ฝากเงินเข้า Binance เป็นจำนวน 100 ล้านดอลลาร์

หากพิจารณาความกังวลเหล่านี้จะพบว่าเป็นเพียงความกังวลเบื้องต้นเท่านั้น และโดยส่วนใหญ่เกิดจากกระแส FUD ที่พุ่งเป้าโจมตี Binance มากกว่า ทำให้เกิดข้อโต้แย้งหลายประเด็น ซึ่งพี่ทุยขอพาไปดูกันหน่อย

กระแส FUD ที่พุ่งเป้าโจมตี Binance 

FUD ที่พุ่งเป้าโจมตี Binance มากเกินไป เช่น กรณี Binance ระงับการถอน USDC บนเครือข่าย Ethereum และ Binance ซึ่ง Travis Kling จาก Ikigai Asset Management โพสต์ทวีตว่า “น่าสงสัยอย่างยิ่ง” ต่อกรณีนี้ แต่แล้ว CZ ก็คลายกังวลโดยระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนซ่อมบำรุงระบบ

เช่นเดียวกับกรณี CoinMamba นักวิเคราะห์คริปโตกล่าวหาว่า Binance ปิดบัญชีเนื่องจากโพสต์ทวีตที่ทำให้ CZ ไม่พอใจ แต่เอาเข้าจริงแล้วนี่เป็นปัญหาของผู้ใช้งานมากกว่าเกิดจากปัญหาของระบบ อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ข้อกล่าวหาของ CoinMamba ได้ด้วย

Binance เกิดอะไรขึ้น

ส่วนข่าวในสื่อกระแสหลักหลายข่าวเป็นการนำข่าวเก่ามาหากินใหม่ Binance ชี้แจงว่า Reuters ได้เผยแพร่ข่าวเก่าที่ Binance ได้เผยข้อมูลตอบกลับข่าวดังกล่าวไปแล้ว ขณะที่คดีฟอกเงินก็ยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะดำเนินคดีต่อไปอย่างไร

ด้านสินทรัพย์กว่า 64,000 ล้านดอลลาร์ ก็สามารถยืนยันได้ว่ามีอยู่จริงและกระจายไปในหลายเหรียญคริปโต เช่น BUSD, BTC, ETH สวนทางกรณี FTX ที่สินทรัพย์เกือบทั้งหมดเป็นเหรียญ FTT ซึ่งเสกมูลค่าขึ้นมากันเอง มูลค่าจึงสูญเสียอย่างรวดเร็วทันทีที่นักลงทุนหมดความเชื่อมั่น

บางแหล่งข่าวและผู้คนในโลกออนไลน์มองว่ากระแส FUD อาจเป็นความพยายามของ Sam Bankman-Fried คู่กรณี CZ เพื่อโจมตี Binance

นักลงทุนควรทำยังไง ? มีทางเลือกอะไรบ้าง ?

ทางเลือกหลัก ๆ คือ

1. ยังคงถือต่อไป เเต่ควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีอะไรที่ส่อแววไม่ดีจะได้แก้ไขทัน

2. โอนเหรียญ ถอนเงินออกมา แต่ด้วยตลาดตอนนี้ บางท่านอาจจะขาดทุนได้ โดยแนวทางนี้ สามารถนำออกจาก Binance ไปเก็บไว้ใน Hardware Wallet หรือหากไม่มี Hardware Wallet ก็โอนไปที่แพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญคริปโตที่ได้รับการรับรองจาก กลต. 

ถามพี่ทุยว่าเลือกทางไหนดี พี่ทุยเเนะนำว่า ศึกษาข้อมูลเเละวิเคราะห์ด้วยตัวเองก่อนว่าเรารับความเสี่ยงแบบไหนได้มากกว่ากัน ไม่ทำตามที่คนนั้นบอก คนนี้บอก เพราะทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยงหมด ถามตัวเองก่อนว่า “เรารับความเสี่ยงของทางเลือกไหนได้มากน้อยขนาดไหน” 

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile