ทำไม ยาดมไทย ดังไกลทั่วโลก?

ทำไม ยาดมไทย ดังไกลทั่วโลก?

3 min read    Money Buffalo

ฉบับย่อ

  • ยาดม จัดเป็นยาใช้ภายนอกเพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คาดว่า มีมานานกว่า 6,000 ปีแล้ว โดยในไทย ก็น่าจะมีตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 2 
  • มูลค่าตลาดยาดมไทย คาดว่าจะอยู่ที่ 4,500 ล้านบาท โดยมีคนไทยประมาณ 10% ที่ใช้ยาดม ขณะที่ตลาดนี้มีโอกาสเติบโต 10-20% ต่อปี จากคนไทยหน้าใหม่ที่เข้ามาใช้ รวมถึงชาวต่างชาติที่นิยมมากขึ้นในการซื้อเป็นของฝากหรือใช้เอง 
  • ตัวอย่างยาดมแบรนด์ที่คนไทยรู้จัก รวมถึงแบรนด์ที่กำลังออกมาตีตลาด ได้แก่ โป๊ยเซียน หงส์ไทย เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ ถ้วยทอง และ มังกรทอง เป็นต้น

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

ถ้าจะพูดถึงของคู่กายอย่างหนึ่งที่ใครหลายคนพกติดตัวไปไหนมาไหนด้วยตลอด ไอเทมยอดฮิตหนึ่งในนั้นก็คือ “ยาดม” นั่นเอง เพราะเป็นตัวช่วยได้ดีในยามที่หน้ามืด ตาลาย คล้ายจะเป็นลม โดยเฉพาะเวลาขึ้นไปเบียดเสียดบนรถไฟฟ้า รถเมล์ ที่คนอัดแน่นเป็นปลากระป๋อง วันนี้พี่ทุยก็เลยอยากชวนทุกคนมาส่องตลาด ยาดมไทย ตอนนี้ตลาดมีขนาดใหญ่แค่ไหน ตีตลาดทั่วโลกไปถึงไหนแล้ว

ตลาดยาดมทั่วโลก

ถ้าดูตลาด Aromatherapy หรือการบำบัดโดยการใช้กลิ่น ทั่วโลกนั้น จากข้อมูลโดย Research Nester ระบุว่า ในปี 2022 ตลาดนี้มีมูลค่ากว่า 1,820 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโต 12% ต่อปี ในช่วงปี 2023-2033 ซึ่งจะทำให้มูลค่าตลาดขยับขึ้นไปเป็น 5,830 ล้านดอลลาร์ ในปี 2033 

สำหรับตลาดนี้ หากแบ่งตามการใช้งาน เกี่ยวกับการบำบัดด้วยกลิ่น ก็จะพบว่า แบ่งเป็น การใช้งานสำหรับบรรเทาอาการหวัดและไอ , การดูแลผิวและเส้นผม, การจัดการความเจ็บปวดและแผลเป็น, การใช้สำหรับอาการนอนไม่หลับ และอื่นๆ ซึ่งถ้าพูดตามลักษณะการแบ่งตามการใช้งานแล้ว ยาดม ก็น่าจะจัดอยู่ในกลุ่มการใช้งานสำหรับบรรเทาอาการหวัดและไอ และอื่น ๆ

ยาดมไทย ถูกซื้อซ้ำบ่อย

คราวนี้ หากเราโฟกัสมาที่ตลาดยาดมในประเทศไทยโดยเฉพาะ พบว่า Nielsen บริษัทวิจัยตลาด เคยให้ข้อมูลไว้ว่า ตลาดยาดมในไทยนั้น มีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยคนไทยที่ใช้ยาดม มีประมาณ 10% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งแต่ละคนก็มักจะซื้อยาดมมากกว่า 1 ชิ้นต่อปี เพราะว่า เป็นไอเทมที่ทำหายได้บ่อย 

ขณะที่ ตลาดยาดมนั้น มีโอกาสขยายตัวได้ถึงปีละ 10-20% จากการที่มีคนไทยหน้าใหม่ ๆ ใช้เพิ่มขึ้น รวมถึงชาวต่างชาติที่มีความนิยมใช้ยาดมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และเวลาที่มาเมืองไทย ก็นิยมซื้อเป็นของฝากติดมือไปด้วย เพราะกลิ่นหอมเฉพาะตัว และราคาย่อมเยา ซึ่งส่วนหนึ่งที่ช่วยให้กระแสยาดมบูมในหมู่ชาวต่างชาตินั้น ส่วนหนึ่งก็มาจากมีศิลปินดังใช้ยาดม อย่างเช่น ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BlackPink และ แจ็คสัน หวัง Got7 เป็นต้น 

พี่ทุยลองไปรวบรวมแบรนด์ยาดมบางส่วนที่คนรู้จักค่อนข้างมากในตลาด ลองมาดูกันดีกว่าว่า แต่ละแบรนด์ เขามีจุดเด่นยังไง และมีกลยุทธ์การทำตลาดยังไงบ้าง

5 แบรนด์ ยาดมไทย ที่เฟมัสสุด ๆ

ลองมาดูกันว่า ในประเทศไทย มีแบรนด์ยาดมอะไรบ้างที่คนรู้จักกัน หรือกำลังบุกตลาดนี้อยู่

1. โป๊ยเซียน  

ยาดมตราโป๊ยเซียน เป็นของ บริษัท โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานนับตั้งแต่ปี 2479 จนถึงวันนี้ก็​ 88 ปีแล้ว ถือว่าเก่าแก่มาก ๆ โดยนอกจากผลิตและจำหน่ายยาดมตราโป๊ยเซียนแล้ว บริษัทนี้ยังผลิตและจำหน่ายยาดมพีเป๊กซ์ รวมถึงพิมเสนน้ำ และยาหม่องด้วย 

สโลแกนที่เจ้านี้ใช้ในการทำตลาดยาดมคือ “ใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกัน” โดยเจนนี่ BlackPink เคยโพสต์ภาพแผงยาดมโป๊ยเซียนเอาไว้ผ่านช่องทางโซเชียลของเธอ ทำให้ยาดมโป๊ยเซียนกลายเป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยม ที่หมู่แฟนคลับ BlackPink ที่มาเมืองไทย ต้องซื้อกลับไป 

สิ่งที่น่าสนใจ ก็คือ ยาดมโป๊ยเซียน ไม่ได้มีขายแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีขายในต่างประเทศ ทั้งในทวีปเอเชีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเหนือ

เมื่อพูดถึงรายได้ของบริษัทนี้ ก็พบว่า มีข้อมูลย้อนหลังดังนี้

  • ปี 2562 รายได้ 1,015 ล้านบาท กำไร 349 ล้านบาท
  • ปี 2563 รายได้ 798 ล้านบาท กำไร 234 ล้านบาท 
  • ส่วนปี 2564 รายได้ 751 ล้านบาท กำไร 284 ล้านบาท
  • ปี 2565 รายได้ 967 ล้านบาท กำไร 378 ล้านบาท
  • ปี 2566 รายได้ 1,087 ล้านบาท กำไร 509 ล้านบาท

2. หงส์ไทย 

ชื่อนี้ ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะว่า หลังจากติดอยู่ในโผของในกระเป๋าที่ลิซ่า BlackPink พกติดตัวไปด้วย ก็ทำให้เหล่าสาวกอินเทรนด์ขอพกยาดมหงส์ไทยติดตัวด้วยเช่นกัน งานนี้ต้องบอกว่า หลังจากลิซ่า ออกมาสัมภาษณ์เพียงไม่กี่วัน และเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ยาดมหงส์ไทย ขนาดตลาดแบบชั่วข้ามคืน 

สำหรับยาดมหงส์ไทยนั้น ผลิตและจำหน่ายโดย บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 18 แล้ว โดยนอกจากยาดม บริษัทยังผลิตและจัดจำหน่าย น้ำมันหอมระเหย ยาหม่อง และสเปรย์นวดแก้ปวด ด้วย 

จุดเด่นของบรรจุภัณฑ์ยาดมหงส์ไทยคือ โลโก้เป็นรูป หงส์ บนพื้นหลังสีของธงชาติไทย บนขวดจะมีเขียนสโลแกนไว้ว่า​ มุ่งมั่น เข้าใจ เข้าถึง ซื่อสัตย์ ยอมรับ สังคม 

สำหรับรายได้ของบริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด  จากข้อมูลที่ปรากฎบนสื่อต่างๆ มีดังนี้

  • ปี 2563 รายได้ 17.8 ล้านบาท
  • ปี 2564 รายได้ 24.8 ล้านบาท
  • ส่วนปี 2565 รายได้ 39.5 ล้านบาท
  • เป้าหมายปี 2567 รายได้ 500 ล้านบาท 

3. เป๊ปเปอร์มินท์ ฟิลด์ 

ยาดม โดย บริษัท เบอร์แทรม (1985) จำกัด โดยบริษัทนี้ เป็นผู้ผลิตยาหม่องน้ำเซียงเพียว (เซียงเพียวอิ๊ว) ที่มีการแตกไลน์มาทำยาดมเป๊บเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เพิ่มเติม ตั้งแต่ปี 2548 โดยเน้นออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ใช้ง่าย ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ บริษัทก็เพิ่งดึง พีพี-กฤษร์ อำนวยเดชกร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ เป๊บเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์ เน้นสะท้อนแนวคิด “ลมหายใจที่มีคุณภาพ” สำหรับขยายตลาด สร้างการจดจำแบรนด์ให้มากขึ้น 

4. ถ้วยทอง 

ยาดมที่ผลิตและจำหน่ายโดยบริษัท ถ้วยทองโอสถ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2487 หรือ 80 ปีแล้ว มีผลิตภัณฑ์หลักที่คนทั่วไปรู้จักกันดีคือ ยาหม่องตราถ้วยทอง นอกจากนี้ก็ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้แก่ แอลกอฮอล์​ ครีมบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และยาแผนปัจจุบันอีกหลายอย่างด้วย สำหรับสโลแกนที่ใช้กับยาดมถ้วยทอง ก็คือ สดชื่น ผ่อนคลาย พกติดตัวง่าย

5. มังกรทอง

ยาดมที่ผลิตโดย บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2490 หรือ 77 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากการจำหน่ายผลิตและจำหน่ายยาสมุนไพรหลากหลายรายการ เช่น ฟ้าทะลายโจร ยาอมสมุนไพรมังกรทอง 

และจากตลาดยาดมที่มีขนาดถึง 4,500 ล้านบาท ทำให้อ้วยอันโอสถมองว่า ตลาดนี้น่าสนใจ จึงผลิตยาดมสมุนไพรตรามังกรทอง ออกมาสู่ตลาด​ในปี 2567 นี้ โดยชูสโลแกน ความหอมสดชื่นที่คุณสูดได้ พร้อมกันนี้ ได้ดึง นนกุล-ชานน สันตินธรกุล นักแสดงรุ่นใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับผลิตภัณฑ์ 

นอกเหนือจาก 5 แบรนด์นี้แล้ว พี่ทุยต้องบอกว่า มียาดมอีกหลายแบรนด์เลยที่เป็นที่รู้จักในตลาด เช่น ยาดมตราเสือ ยาดมตราวังว่าน ยาดมตราอภัยภูเบศร และยาดมส้มมือจรุงจิต เป็นต้น  และพี่ทุยเชื่อว่า เพื่อน ๆ อาจจะรู้จักยาดมยี่ห้ออื่นๆ ที่พี่ทุยไม่ได้กล่าวถึง แต่เป็นที่นิยมเช่นกันก็ได้ 

เอาเป็นว่า ก็น่าปลื้มใจไม่น้อย ที่ยาดมไทย เข้าไปอยู่ในใจชาวต่างชาติ กลายเป็นของฝากยอดฮิตได้ ไม่ว่ายี่ห้อไหนจะโกยยอดขายไปได้ ก็ดีต่อประเทศทั้งสิ้น เพราะว่า รายได้ก็เข้าประเทศเรานั่นเอง

FYI

ยาดมเป็นไอเทมที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ รวมถึงอาการคัดจมูกเนื่องจากอาการหวัด โดย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุว่า เหมาะสำหรับการใช้บรรเทาอาการเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดการติดยาดม โดยที่ผู้ที่ไม่ควรใช้ยาดม ก็คือ ผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ และเด็กเล็ก ขณะที่​อย. ​มีการกำหนดปริมาณตัวยา หรือสมุนไพร เพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคืองในการสูดดมเอาไว้ด้วย  

อ่านเพิ่ม

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile