Tim Cook ผู้บริหารบทบาทน้อยที่ Apple ขาดไม่ได้

Tim Cook ผู้บริหารบทบาทน้อยที่ Apple ขาดไม่ได้

4 min read  

ฉบับย่อ

  • สุภาพ พูดน้อย แต่เข้มงวดและเปี่ยมด้วยวินัยในการทำงาน Tim Cook คือ ด้านตรงข้ามที่แสนลงตัวสำหรับ Steve Jobs เพราะในขณะที่จ็อบส์คือหน้าตาและวิสัยทัศน์ของแอปเปิล Tim Cook ก็เป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าจะเอาแอปเปิลของจ็อบส์มาจัดการให้ทำเงินได้อย่างไร
  • เขากลายเป็นผู้ที่พาบริษัท Apple มีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 33 ล้านล้านบาท) หลังจากที่หุ้นของบริษัทแตะระดับราคา 207.05 เหรียญสหรัฐฯต่อหุ้น เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ทำให้ Apple เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันบริษัทแรกที่มีมูลค่าในระดับนี้
  • Tim Cook อาจไม่ใช่สุดยอดนักประดิษฐ์เหมือนอย่างจ็อบส์ แต่เขาถนัดมากในเรื่องการทำกำไร ทำให้ Apple ในยุคของ Tim Cook มีแนวการเติบโตอย่างน่าสนใจ
  • ปัจจุบันยอดขายโทรศัพท์ iPhone มีแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัท Apple ของ Tim Cook นั้นก็ยังคงสร้างกำไรได้เพิ่มขึ้นอยู่ดี

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile

เสื้อคอเต่าสีดำ กางเกงยีนซีดทรงหลวม รองเท้ากีฬาคู่ใหญ่ ถ้าพูดถึงการแต่งตัวแบบนี้ หลายๆคนก็คงจะนึกชายผู้ยิ่งใหญ่ ที่วันหนึ่งขึ้นมากลางเวทีและเริ่มพลิกโฉมโลกทั้งใบ เชื่อว่าเราทุกคนคงรู้จักชายที่ชื่อว่า Steve Jobs

นวัตกรผู้สร้างนวัตกรรมสุดยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะจากไปนานแล้ว แต่ชิ้นส่วนทางความคิดที่หลงเหลือไว้กลับมากพอที่จะทำให้ชื่อของเขากลายเป็นตำนานไปตลอดกาล

คราวนี้พี่ทุยอยากให้ลองนึกภาพว่าตัวเองว่าต้องมารับช่วงต่อจากชายคนนี้ดูสิ จะรู้สึกยังไง ภาคภูมิใจ? กดดัน? หรือแค่ทำตามๆอย่างที่เขาเคยทำ? มันคงเป็นเรื่องน่าปวดหัวเหลือเกินสำหรับผู้ชายชื่อ Tim Cook ผู้บริหารคนใหม่ที่มารับช่วงต่อจากมรดกระดับโลกอย่างบริษัทแอปเปิล

ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา CEO ของบริษัท Apple ได้รับการพูดถึงในสื่ออีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ดันเผลอเปลี่ยนชื่อของเขาจาก Tim Cook เป็น Tim Apple ถึงแม้ว่าภายหลังท่านประธานาธิบดีนักแปลงชื่อผู้นี้จะออกมาทวีตแก้ตัวว่านั่นเป็นการรวบคำระหว่างชื่อของ Tim Cook  กับชื่อบริษัท เพื่อให้ไวและเข้าใจง่าย แต่มันทันซะที่ไหนเล่า

ไหนๆ ใครเป็นเหล่าสาวกของแอปเปิลบ้าง หรือเป็นคอเทคโนโลยี ที่คอยตั้งตารองานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิลในทุกๆปี ก็คงคุ้นชื่อผู้ชายคนนี้อยู่บ้าง ในฐานะของผู้สืบทอดบัลลังก์อาณาจักร Holy Apple Empire ต่อจาก Steve Jobs แล้วต่อจากนั้นล่ะ CEO ผู้มีบทบาทน้อย ไม่หวือหวาอย่าง CEO คนก่อน เลยทำให้คนรู้จักกับเขาน้อยเหลือเกิน

ถ้าเทียบกับจ็อบส์แล้ว Tim Cook เป็นที่รู้จักหรือพูดถึงน้อยกว่ามาก ก็น้อยจนขนาดที่ว่าประธานาธิบดียังเรียกชื่อเขาผิดนั่นแหละ (ถ้าเป็นพี่ทุยนี่น้อยใจตายเลย) ถึงแม้ว่า Tim Cook  จะเป็นผู้บริหารบริษัทลำดับต้นๆของโลก แต่ด้วยบุคลิกที่คนละเรื่องกันกับจ็อบส์ และความเป็นนักประดิษฐ์คิดค้นที่น้อยกว่ามาก ทำให้เขาไม่มีอะไรน่าหวือหวาดึงดูดพื้นที่สื่อมากเท่าไหร่นัก

แต่ที่จริงแล้วเขาคนนี้กลับไม่ธรรมดา ถึงแม้จะไม่สามารถแทนที่จ็อบส์ได้ แต่เขาก็มีแนวทางพา Apple เดินหน้าสู่ความยิ่งใหญ่ในแบบของเขาเอง

สุภาพ พูดน้อย แต่เข้มงวดและเปี่ยมด้วยวินัยในการทำงาน ฟังดูช่างตรงข้ามกับจ็อบส์ผู้มากคาแรคเตอร์ แต่ Tim Cook คนนี้เป็นเสมือนหยินที่แสนลงตัวกับหยางอย่างจ็อบส์ เพราะในขณะที่จ็อบส์คือหน้าตาของแอปเปิล Tim Cook ก็เป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าจะเอาแอปเปิลของจ็อบส์มาทำเงินได้อย่างไร

การเข้ามาของ Tim Cook ทำปัญหาต่างๆที่จ็อบส์ต้องแบกเอาไว้ก็คลี่คลายลง

Tim Cook เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่บริษัทคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ของยุคนั้นอย่าง IBM โดยไต่ระดับไปจนถึงตำแหน่งผู้อำนวยการคลังสินค้าของทวีปอเมริกาเหนือ ที่นั่น Tim Cook ได้เรียนรู้ระบบการตลาด การออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง การจัดการระบบ Supply Chain และระบบ Logistic รวมทั้งการบริหารการลดต้นทุนด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนมีคุณค่ามหาศาลต่อบริษัท Apple ในภายหลัง

Tim Cook ผู้บริหารบทบาทน้อยที่ Apple ขาดไม่ได้

ต่อมา Tim Cook ออกจาก IBM เพื่อเข้ารับตำแหน่งรองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่บริษัท Compaq ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่จ็อบส์กลับมาเป็นผู้นำในบริษัท Apple อีกครั้ง และกำลังมองหาใครสักคนเข้ามาช่วยจัดการความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในห้วงที่เขาออกจากบริษัทไป และแน่นอนว่า Tim Cook คือคนคนนั้นนั่นเอง

Tim Cook อาจไม่ใช่นักประดิษฐ์อัจฉริยะ แต่เขาคือนักจัดการมือหนึ่ง

Tim Cook ดำเนินการปิดโรงงานผลิตของบริษัทและเปลี่ยนเป็นทำสัญญากับบริษัทภายนอกให้ผลิตชิ้นส่วนของอุปกรณ์ให้แทน ในทันทีที่เขาเข้ามารับตำแหน่ง Senior Vice President ในทีมปฏิบัติการของแอปเปิล

เขาได้เริ่มวางระบบใหม่ให้กับบริษัทหลายอย่าง ด้วยวิธีนี้ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆสามารถผลิตได้ในปริมาณมากยิ่งขึ้นและได้รับการขนส่งอย่างรวดเร็ว Tim Cook  ยังเป็นผู้เข้ามาสะสางปัญหาอื่นๆภายในบริษัท โดยเฉพาะคุณภาพการผลิตที่แย่และงบประมาณที่ควบคุมไม่ได้ และยังรื้อระบบการขนส่งจนทำให้ก้าวมาเป็นบริษัทชั้นนำในตลาดได้ ซึ่งผลจากความพยายามของเขาก็เห็นผลชัดเจนขึ้นจากกำไรและมูลค่าของหุ้นที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและชัดเจน Tim Cook จึงกลายเป็นคนข้างเคียงที่จ็อบส์ขาดไปไม่ได้

จนกระทั่งในปี 2007 ปีเดียวกับที่จ็อบส์แนะนำให้โลกรู้จักกับพระเจ้าแห่งโทรศัพท์อย่างไอโฟน Tim Cook ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ Apple ที่จริงจะเรียกได้ว่าเค้าทำหน้าที่ทางการบริหารแทนจ็อบส์ทั้งหมดก็ว่าได้ เพราะจ็อบส์ลดบทบาทตัวเองไว้เพียงช่วยตัดสินใจในเรื่องที่มีความสำคัญเท่านั้น และต่อจากนั้น อย่างที่เราทราบกันดี จ็อบส์เริ่มประสบปัญหาทางสุขภาพหลายครั้ง และ Tim Cook ก็ได้รับโอกาสขึ้นมาดูแลบริษัทแทนในฐานะซีอีโอชั่วคราว ก่อนที่จ็อบส์จะจากไปตลอดกาลและส่งมอบมงกุฎให้เขาอย่างสมบูรณ์

Apple ในสายตาของ Tim Cook คือบริษัทที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่ยังสามารถประสบความสำเร็จได้อีก

ในเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว Apple กลายเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันบริษัทแรกที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้ โดยในเวลานั้นหุ้นของบริษัทมีมูลค่าถึงหุ้นละ 207.5 ดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว และแน่นอนว่าทั้งหมดที่พูดมานี้เกิดขึ้นในยุคของ Tim Cook โดยหากเปรียบเทียบระยะเวลาที่ Tim Cook เริ่มรับตำแหน่ง CEO ของบริษัทอย่างเต็มตัวในปี 2011 ตอนนั้นมูลค่าของแอปเปิลอยู่ที่ราวๆเกือบ 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (400 Billion Us Dollar) ก่อนที่ Tim Cook จะพาบริษัทเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งจนมีมูลค่านับล้านล้านในปัจจุบัน

เส้นทางเหมือนจะโปรยไปด้วยกลีบกุหลาบ แอปเปิลกลายเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างมั่นคง แต่เรื่องพวกนี้ก็เหมือนจะเป็นแค่ความน่าตื่นตาในตลาดหุ้นเท่านั้น เพราะด้วยวิสัยการเป็น CEO ที่ไม่ได้มีสายตานักประดิษฐ์ของ Tim Cook ทำให้แอปเปิลอาจต้องเผชิญกับความจริงที่ว่า บริษัทของพวกเขาไม่สามารถเปิดตัวเทคโนโลยีที่ทำให้ต้องร้องว้าวได้เหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป

โดยหากเรามองย้อนแอปเปิลในร่มเงาของ Tim Cook จะพบว่าแอปเปิลไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติวงการได้เหมือนอย่างในสมัยจ็อบส์ แอปเปิลมีผลิตภัณฑ์สุดไฮป์ออกมาเพียงแค่ iPhone X ที่เอาปุ่ม home ออก Apple Watch หูฟังไร้สายหรือ AirPods Apple Pen และ เอ่ออ เคสชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ?! เท่านั้น

ถ้ามองในแง่นวัตกรรม โดยเฉพาะยิ่งถ้ามองลงไปในสินค้าหลักของบริษัทอย่างโทรศัพท์ iPhone ก็ดูเหมือนว่าบริษัทคู่แข่งอื่นๆ กำลังเติบโตจนทั้งแซงและใกล้จะแซง Apple ไปเสียแล้ว

Tim Cook ผู้บริหารบทบาทน้อยที่ Apple ขาดไม่ได้

โดยในเดือนมกราคม 2019 ที่ผ่านมา ดูเหมือนสิ่งที่พูดไปยิ่งไม่ดูเกินเลย เมื่อ Apple ประกาศรายได้ประจำไตรมาสล่าสุด 84.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งลดลงถึง 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เท่านั้นยังไม่พอ รายได้จาก iPhone ยังลดลงไปถึง 15 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับยอดขายของปีก่อนหน้า ทำให้ไตรมาสที่ผ่านมาที่แอปเปิลมีกำไรพุ่งเพิ่มเกือบ 30% อาจจะเป็นแค่ผลจากการขึ้นราคาโทรศัพท์เท่านั้น ถึง Tim Cook จะบอกว่าทั้งหมดเป็นเพียงแค่ปัญหาระยะสั้นจากปัจจัยอื่นๆที่ควบคุมไม่ได้ เช่น สงครามการค้า แต่นี่ก็อาจเริ่มเป็นสัญญาณกลายๆว่าบัลลังก์ของพระเจ้าแห่งวงการโทรศัพท์ อาจกำลังสั่นคลอนยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

แต่อย่างที่เคยบอกไปว่าถึง Tim Cook จะไม่ใช่สุดยอดนักประดิษฐ์ แต่เขาคือยอดนักบริหารที่รู้ดีที่สุดว่าจะเอามรดกที่มีอยู่มาทำกำไรอย่างไร ซึ่งสามารถยืนยันได้จากการที่ ถึงแม้ยอดขายโทรศัพท์จะตก แต่รายได้จากผลิตภัณฑ์อื่นๆและธุรกิจบริการกลับเติบโตขึ้นกว่า 19 เปอร์เซ็นต์ โดยรายได้ของธุรกิจบริการสูงสุดเป็นประวัติการที่ 10.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 19 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน

นอกจากนี้ ยังมีรายได้รายได้จาก MacBook และพวกอุปกรณ์สวมใส่ อุปกรณ์ใช้ภายในบ้าน และอุปกรณ์เสริมที่เพิ่มขึ้นกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ และ 33 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ และยังมีรายได้จาก iPad เพิ่มขึ้นกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าสังเกตรายได้เหล่านี้ก็จะเห็นว่า Apple สามารถทำเงินจากผลิตภัณฑ์อื่นๆในบริษัทได้มากขึ้น และ Tim Cook ก็คงจะหาวิธีหาเงินจากของที่มีอยู่ได้ต่อไปมากมากขึ้นเรื่อยๆ

Tim Cook ผู้บริหารบทบาทน้อยที่ Apple ขาดไม่ได้

ในวันที่ 25 มีนาคม 2019 ที่ผ่านมา บริษัทได้ยืนยันว่าจะมีการแถลงเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด ที่คาดการณ์กันว่ามันคือ Apple Streaming หรือบริการคอนเทนต์ออนไลน์ของแอปเปิล หากยังจำกันได้เมื่อนานมาแล้ว จ็อบส์เคยเปิดตัว iPod และ itunes และพลิกโลกของการฟังเพลงไปตลอดกาล

แต่ช้าก่อน โปรดลดความคาดหวัง เพราะตลาด Streaming ในปัจจุบันมีหลายเจ้าจนดูกันซะตาเมื่อย แต่ถึงมันจะไม่ว้าวอะไรขนาดนั้น พี่ทุยก็เชื่อว่านี่จะเป็นการเดินเกมครั้งสำคัญของ Tim Cook ที่จะมาดึงเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคอย่างเราๆ เพราะก็อย่างที่บอก Tim Cook ไม่ใช่ยอดนักประดิษฐ์ แต่คือยอดนักทำกำไรนั่นเอง

รูปบน ของ desktop
รูปล่าง ของ mobile
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย
FBS Trader เทรดได้อย่างปลอดภัย

Comment

Be the first one who leave the comment.

Leave a Reply