เป็นเรื่องที่น่าเสียใจกับการจากไปของคุณ Karl Lagerfeld บุรุษที่มีอิทธิพลต่อวงการแฟชั่น และเป็นผู้กอบกู้แบรนด์ CHANEL ให้กลับมาเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอีกครั้ง
เปิดประวัติ Karl Lagerfeld เค้าคือใคร ?
Karl Lagerfeld เป็นดีไซเนอร์ชื่อดังระดับตำนาน สร้างปรากฏการณ์เปลี่ยนโฉมให้กับแบรนด์ดังอย่าง Fendi และ CHANEL อีกทั้งยังเคยร่วมงานกับหลายแบรนด์ดังอย่าง H&M Chloé Falabella หรือแม้กระทั่งแบรนด์ของตัวเอง Karl Lagerfeld ก่อนจะเสียชีวิตในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2019 ด้วยอายุ 85 ปี
Karl Lagerfeld เป็นผู้กอบกู้แบรนด์ CHANEL ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง หลังจากการสูญเสียครั้งใหญ่ของบุคคลสำคัญอย่าง Coco Chanel ที่ได้เสียชีวิตลงในปี 1971 จนทำให้แบรนด์ได้รับผลกระทบทางด้านชื่อเสียงและความนิยมก็ถดถอยเป็นอย่างมาก
จนกระทั่งปี 1980 Karl Lagerfeld ได้เข้ามาร่วมงานกับทาง CHANEL และได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการปรับเปลี่ยน Logo ของแบรนด์ให้เป็นรูป C 2 ตัวไขว้กัน โดยยังให้ความหมายที่เป็นการเคารพต่อ Coco Chanel เจ้าของแบรนด์ที่จากไป และยังพลิกโฉมภาพลักษณ์แบรนด์แฟชั่นให้กลายเป็น ready-to-wear หรือ เสื้อผ้าแฟชั่นที่พร้อมใส่ได้ทันทีอีกด้วย
รายได้ของ CHANEL เป็นอย่างไร ?
รายได้ของ CHANEL เป็นความลับมากว่า 108 ปี รายได้ถือว่าเป็นหนึ่งในความลับสุดยอดของบริษัท แต่ในปี 2017 ได้มีการประกาศรายได้ออกมาซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงถึง 9.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆเกือบ 3 แสนล้านบาทไทย โดยที่ปรับตัวขึ้นจากปีก่อนถึง 11% เลยทีเดียว
โดยสาเหตุของการเปิดเผยรายได้ที่เป็นความลับนี้คาดว่ามาจากข่าวโคมลอยที่บริษัท CHANEL จะถูกซื้อกิจการ และ เป็นประกาศถึงรายได้ของบริษัทก่อนจะแตะ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน่าจะเป็นอันดับ 2 รองจากแบรนด์ Louis Vuitton แบรนด์เดียวเท่านั้น โดยที่ Louis Vuitton ก็เป็นอีก 1 แบรนด์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกที่มีรายได้เป็นความลับ
การเติบโตของราคากระเป๋า CHANEL
กระเป๋า CHANEL เป็นหนึ่งในกระเป๋าที่มีราคาปรับตัวสูงมากและยิ่งปรับตัวขึ้นมากทุกปี โดยในปี 1955 Chanel Jumbo Classic Flap มีราคาอยู่ที่ 250 เหรียญสหรัฐ และปรับราคาขึ้นมาเรื่อยๆจนในปี 2013 ได้มีราคาสูงถึง 4,400 เหรียญสหรัฐ และถูกปรับราคาขึ้นทุกปีจนมีมูลค่าสูงถึง 6,200 เหรียญสหรัฐ ซึ่งหากเราซื้อ Chanel Jumbo Classic Flap ในปี 2013 จะกำไรสูงถึง 41% ในปี 2018 หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 7.1% ต่อปี เลยทีเดียว อาจเป็นอีก 1 เหตุผลในการสร้างคุณค่าและทำให้สาวๆหลายๆคน เลือกที่จะตัดสินใจซื้อจากเหตุผลทางมูลค่ารวมกับดีไซน์และความสวยงาม
กระเป๋า Chanel Jumbo Classic Flap
ผลตอบแทนของกระเป๋า CHANEL เปรียบเทียบผลตอบแทนเฉลี่ยในสหรัฐ
หากเรานำผลตอบแทนของกระเป๋า CHANEL ไปเทียบกับดัชนีต่างๆในสหรัฐในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะพบว่าผลตอบแทนจากกระเป๋า CHANEL Jumbo Classic Flap นั้นให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับ ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ Dow Jones เลยทีเดียว และสูงกว่า ผลตอบแทนจากราคาทองคำและเงินเฟ้ออีกด้วย
ซึ่ง 7.1% เป็นเพียงผลตอบแทนเฉลี่ยของรุ่น Jumbo Classic Flap เท่านั้น ยังมีบางรุ่นที่ปีที่แล้วราคาปรับตัวสูงถึง 19% เลยทีเดียว อย่างรุ่น Classic Wallet-On-Chain ตามตารางที่เห็นด้านล่างนี้
ข้อมูลเหล่านี้ก็อาจทำให้หนุ่มๆทั้งหลายเข้าใจโลกแฟชั่นมากขึ้นและเข้าใจการตัดสินใจของสาวๆมากขึ้นอีกด้วย ทุกวันนี้โลกของแฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่ก็สร้างมูลค่าให้แบรนด์และคุณค่าทางใจที่มากขึ้นตามกาลเวลาด้วยเช่นกัน Karl Lagerfeld ก็เป็นอีก 1 คนสำคัญในวงการแฟชั่นที่น่ายกย่องในการปรับเปลี่ยนและสร้างสรรค์แฟชั่นต่างๆให้กับโลกของเรา
Comment